เพจดังแฉ แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ใกล้หมดตัว ติดหนี้หลายสิบล้าน หลอกคนร่วมลงทุน พร้อมเตือนอย่าหลงเชื่อ ด้านชาวเน็ตสงสัยหรือจะเป็นคนนี้ หลังมีดราม่ากล่องสุ่ม
วันที่ 7 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีดราม่า อ้างเป็นผู้เสียหายจากการชวนคนเล่น "กล่องสุ่ม" ของแม่ค้าออนไลน์คนหนึ่ง ออกมาทวีตข้อความเตือนภัย เนื่องจากพอจ่ายไปแล้วแรกๆ ได้ของจริง แต่หลังๆ บอกแต่คืนทุน นัดวันเวลาคืน พอถึงวัน เลื่อน ซอยยอด ใครทวงถามไล่ให้ไปฟ้องเอา และยังบอกด้วยว่า มีคนโดนอีกเยอะ ซึ่งตอนนี้ตัวเองโดนคู่กรณีลบออกจากกลุ่มผู้เสียหายแล้ว และที่ออกมาเตือน เนื่องจากไม่อยากให้คนอื่นเจอแบบที่ตัวเองโดน
ซึ่งหลังจากที่ทวีตดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่า เป็นการนำเงินไปหมุนหรือไม่ และทำไมยังมีคนหลงเชื่ออยู่
ขณะที่ก็มีบางคนออกมาโพสต์เฟซบุ๊กให้กำลังใจแม่ค้าออนไลน์คนนี้ และบอกว่าเข้าใจคนค้าขาย เล่นมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีหลักฐาน เวลาขอคืนยอด ทางร้านก็รับผิดชอบ คืนให้ตามเวลาที่บอก
...
ด้านเพจ "อีซ้อขยี้ข่าว2" โพสต์ข้อความ ซึ่งไม่แน่ใจว่า เป็นแม่ค้าออนไลน์ที่กำลังเป็นดราม่าอยู่ในขณะนี้หรือไม่ โดยระบุว่า "แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังใกล้หมดตัว ติดหนี้หลายสิบล้านไม่มีเงินเคลียร์ กำลังหลอกคนให้ลงทุนร่วมหุ้น ผลกำไรงาม อย่าเชื่อ อย่าโลภ เพราะกำลังจะโดนหลอก"
พร้อมกับบอกคำใบ้ในโพสต์ และคอมเมนต์ด้วย ซึ่งก็มีลูกเพจ เค้ามาทายกันจำนวนมากว่าเป็นใคร อย่างไรก็ตาม หากมีการชี้แจงจากทางแม่ค้าออนไลน์คนดังกล่าว จะได้นำเสนอให้ทราบต่อไป
ล่าสุด ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นดราม่ากล่องสุ่มว่า "ตอนนี้มีประเด็นดราม่ากล่องสุ่มนะครับ เนื่องจากมีหลายท่านที่อยากรวยทางลัด สั่งซื้อกล่องสุ่มที่ผู้ขายอวดอ้างว่า แจกรางวัลเป็นเงิน เป็นทอง หรือของแบรนด์เนม มูลค่าหลายเท่าของเงินที่ซื้อ จนมีผู้หลงเชื่อมากมาย พอสุดท้ายถึงวันครบกำหนด ก็ไม่ส่งของให้ และทยอยคืนเงิน ใครโกรธ ใครทวงก็บอกให้ไปแจ้งความ
ในฐานะนักกฎหมายนะครับ คนขายกล่องสุ่มแบบนี้ ผิดหลายกระทงเลย เพราะอันที่จริงจะขายกล่องสุ่มลุ้นรางวัล ต้องมีการขออนุญาตจากหน่วยงานราชการ ไม่งั้นมันจะเข้าข่าย พรบ.การพนัน แล้วยิ่งถ้าขายกล่องสุ่มแบบไม่มีของรางวัลจะแจกจริง หลอกเอาเงินคนอื่น มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โทษจำคุกกระทงละ 5 ปี นับเป็นการกระทำผิดเป็นกรรมๆ ไปครับ"
ที่มาจาก ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ก : อีซ้อขยี้ข่าว2, ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ