พระวัดดังปฏิเสธ ไม่เคยทักแชตหาสีกา หลอกให้ส่งภาพหวิวสะเดาะเคราะห์แก้กรรม ยืนยันถูกแฮกเฟซบุ๊ก เตรียมแจ้งความให้ตำรวจนำคนผิดมาลงโทษ

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็นฉาวในวงการผ้าเหลืองอีกครั้ง เมื่อแฟนเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว2 ได้นำภาพแชตของพระรูปหนึ่งในวัดดังเมืองนครราชสีมา ที่กำลังสนทนากับหญิงสาว โดยมีการหลอกให้ส่งภาพถ่ายแก้ผ้ามาให้ดู เพื่อทำพิธีแก้กรรม สะเดาะเคราะห์ และผูกดวงทวงของรัก ทำให้โลกโซเชียลต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากวิจารณ์เป็นจำนวนมาก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไป วัดโพธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อพบกับพระมหาชุมพล มุทิโต อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพระเจ้าของแชตดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกตกใจมาก ที่มีข่าวกระจายไปตามสื่อโซเชียลต่างๆ เพราะไม่คิดว่าเรื่องราว จะบานปลายใหญ่โตไปขนาดนี้ ยืนยันว่าตนเองไม่ใช่เป็นผู้ส่งแชตไปหลอกให้สีกา ทำพิธีแก้กรรมสะเดาะห์เคราะห์แต่อย่างใด

...

เนื่องจากตนเองนั้น ถูกคนร้ายแฮกเฟซบุ๊ก ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 66 โดยทักแชตมาหา แล้วบอกว่าอยากขอร่วมทำบุญด้วย ขอเบอร์โทรศัพท์ และเลขบัญชีธนาคารไป ซึ่งตนเองก็คิดแต่เพียงว่าเป็นญาติโยม ที่อยากทำบุญทั่วไป จึงให้ไป แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที เฟซบุ๊กของตนที่ใช้ชื่อว่า "พระมหาชุมพล มุทิโต" ก็ถูกคนร้ายแฮก ไม่สามารถเข้าได้อีกเลย

จึงสร้างเฟซบุ๊กใหม่ โดยใช้ชื่อ "พระมหาชุมชม ขอแรงกลาง" ในวันที่ 19 ม.ค. 66 แล้วแจ้งให้ญาติโยมที่รู้จักกันทราบว่า เฟซบุ๊กเก่าของถูกแฮก ถ้าใครได้รับการติดต่อไปให้บล็อกไปเสีย แต่หลายคนยังไม่รู้ ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นตน แล้วทักไปขอให้โอนเงินร่วมทำบุญ ดังนั้นหากพบว่าเลขบัญชีไม่ใช่ของตนและทางวัดก็อย่าหลงกลเชื่อโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เคยทักแชตไปชักชวนญาติโยมมาทำบุญ และไม่เคยประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาแต่อย่างใด เพราะเป็นพระที่เรียนหนังสืออย่างเดียว ไม่เคยเชื่อเรื่องพิธีกรรมเหล่านี้อยู่แล้ว ในตอนแรกก็ว่าจะปล่อยให้เป็นไปตามกรรม แต่เมื่อมิจฉาชีพไปสร้างความเดือดร้อนให้กับญาติโยม และยังสร้างความเสียหายให้กับตนเองด้วย ก็อยู่เฉยไม่ได้แล้ว

โดยวันนี้ หากกลับจากกิจนิมนต์ จะนำหลักฐานทั้งหมด อาทิ ข้อความแชตที่ญาติโยมส่งมาให้ เลขบัญชีธนาคารของมิจฉาชีพ และข้อความตอนที่ตนเองแจ้งเตือนว่าถูกแฮกเฟซบุ๊ก ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้เร่งติดตามจับตัวมิจฉาชีพรายนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด.