- Y2K ย่อมาจากคำว่า Year 2000 ยุคสมัยของการเปลี่ยนผ่านจากยุคที่ไร้อินเทอร์เน็ต เข้าสู่โลกแห่งการสื่อสารแบบไร้พรมแดน
- ความรู้สึกคิดถึงอดีต มนตร์เสน่ห์ของการย้อนยุค และอิทธิพลจากโซเชียลมีเดีย รวมถึงไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์วัยรุ่นยุคใหม่ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เทรนด์ Y2K กลับมานิยมอีกครั้งในรอบ 20 กว่าปี
- เผยเคล็ดลับและทริกการแมตช์เสื้อผ้ายุค Y2K ง่ายๆ ให้ออกมาดูดี และโดดเด่นน่ามอง
หลายคนคงได้ยินคำกล่าวที่ว่า "แฟชั่นไม่มีวันตาย" นั่นเป็นเพราะรสนิยมของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ทำให้เกิดเทรนด์และสไตล์แฟชั่นใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบางครั้งแฟชั่นในอดีตที่ห่างหายไป ก็อาจจะกลับมาฮิตอีกครั้ง แล้วเกิดการวนกลับไปมาซ้ำๆ คล้ายกับมีชีวิตอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
คราวนี้ถึงคิวของ แฟชั่น Y2K ที่กลายมาเป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงตั้งแต่ช่วงปี 2022 จนถึงตอนนี้ เพราะโดดเด่นที่สไตล์การแต่งตัว ทั้งเรื่องดีไซน์และสีสันที่โดนใจวัยรุ่นในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่อยากจะลองตามกระแสแบบ Y2K บ้าง แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะเริ่มตรงไหน หรือยังไม่รู้ว่า Y2K คืออะไร วันนี้เราจะพาทุกคนย้อนวันวานไปในยุค Y2K เพื่อหาคำตอบพร้อมๆ กันว่าอะไรคือการปลุกกระแสให้กลับมาฮิตอีกครั้งในรอบ 20 กว่าปี
...
Y2K คืออะไร
Y2K ย่อมาจากคำว่า "Year 2000" โดยตัว Y หมายถึง ปี ส่วน K มาจากคำว่า "Kilo" ในภาษาละติน หมายถึงจำนวนพัน ดังนั้นคำว่า "Y2K" จึงหมายถึงปี 2000 นั่นเอง
โดยยุค Y2K นั้น อยู่ระหว่างปลายปี 1990 จนถึงปี 2000 ซึ่งเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยที่คนทั่วโลกจับตามอง เนื่องจากมีปัญหาทางระบบคอมพิวเตอร์เกิดขึ้น ที่เรียกกันว่า "Y2K Problem"
แต่สุดท้ายเทคโนโลยีต่างๆ ก็ถูกพัฒนาให้ทันสมัย จนสามารถแก้ปัญหาได้ และเริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของประชาชนในยุคสมัยนั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการเข้าถึง "อินเทอร์เน็ต" ที่เปรียบเสมือนการเปิดโลกสื่อสารแบบไร้พรมแดน จนอาจเรียกได้ว่า ยุคสำคัญแห่งการเริ่มต้นพัฒนาเทคโนโลยี
แฟชั่น Y2K คืออะไร
อย่างที่บอกไปข้างต้น ว่ายุค Y2K เป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่าน จากโลกยุคไร้อินเทอร์เน็ต เข้าสู่โลกการสื่อสารที่ไร้พรมแดน จนทำให้คำนิยามที่ว่า เทคโนโลยีไม่มีที่สิ้นสุด ส่งอิทธิพลต่อแฟชั่นในยุคนั้น ที่เน้นแต่งตัวให้มีความรู้สึกล้ำสมัย เหมือนหลุดมาจากโลกอนาคต
โดยจะนิยมใส่เสื้อครอปท็อป หรือเสื้อยืดขนาดพอดีตัว แบบพิมพ์ลายกราฟิก แล้วแมตช์กับกระโปรงมินิสเกิร์ต หรือกางเกงเอวต่ำ พร้อมกับใส่เครื่องประดับแบบจัดเต็ม เช่น กระเป๋าใบจิ๋ว หูฟังแบบครอบหู ต่างหูวิบวับ แว่นตากันแดดอันใหญ่ หมวกสีสันสดใส ส่วนโทนสีของเสื้อผ้าจะเป็นสีที่ค่อนข้างฉูดฉาด สื่อถึงความสนุกสนาน บางคนก็จะเลือกใส่เสื้อผ้าที่ประกอบด้วยโลหะ หรือวัสดุที่มีความแวววาวจำพวกกลิตเตอร์ หรือเพชรที่ดึงดูดสายตา
ทำไมแฟชั่นและเทรนด์ Y2K ถึงกลับมาฮิตอีกครั้งในรอบ 20 ปี
แน่นอนว่าหลายคนคงเกิดคำถาม ว่าทำไมแฟชั่น Y2K ที่เคยนิยมในอดีต ถึงกลายมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง คงต้องบอกก่อนว่า เทรนด์ของยุค Y2K นั้นเริ่มมีกระแสตั้งแต่ช่วงกลางปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ เทรนด์การย้อนอดีตยุคต่างๆ ได้รับความสนใจจากคนในสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคน Gen Y และกลุ่ม Gen Z เนื่องจากปัจจัย ดังนี้
- ความรู้สึกคิดถึงอดีต
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบางช่วงเวลาภายในจิตใจของคนเรากลับคิดถึงเรื่องราวในอดีต หรือความทรงจำในวัยเด็ก แม้ว่าโลกในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีพัฒนาอยู่เรื่อยๆ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับมนุษย์ ดังจะเห็นได้จากหลายธุรกิจที่ทำการตลาดแบบย้อนยุค หรือที่เรียกว่า "Nostalgia Marketing" ได้รับผลตอบรับจากคนในสังคมได้ดีมาก
ทั้งเทรนด์กล้องฟิลม์ อุตสาหกรรมดนตรี การขายเทปคาสเซ็ท หรือแผ่นเสียง ให้เป็นของสะสม ตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติ หรือสื่อบันเทิง ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ อย่างเรื่อง "เธอกับฉันกับฉัน" หรือ "20th Century Girl" รวมถึงเพลง Ditto ของวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี NewJeans ที่มีเส้นเรื่อง และใช้บรรยากาศย้อนไปยุคในปี 2000 ที่เป็นกระแสและได้รับความสนใจจากคนในสังคมเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าทุกคนชื่นชอบความรู้สึกที่ได้กลับไปอยู่ในความทรงจำเหล่านั้นอีกครั้ง
- มนตร์เสน่ห์ของการย้อนยุค และอิทธิพลจากโซเชียลมีเดีย
อย่างที่ทราบกันดี แรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้กระแส Y2K กลับมาฮิตอีกครั้งมาจากความนิยมของกลุ่มคนยุค Gen Y ที่เติบโตช่วงเวลาดังกล่าว และวัยรุ่น Gen Z ที่แม้จะเกิดในช่วงยุคดิจิทัลแล้ว ก็อยากจะลองมีโมเมนต์อยู่ในช่วงเวลาของการเริ่มต้นพัฒนาเทคโนโลยีดูบ้าง ประกอบกับอิทธิพลคนดังหลายๆ คนที่เริ่มหันมาหยิบแฟชั่น Y2K ขึ้นมาปัดฝุ่นใส่โชว์ลงสื่อโซเชียลอีกครั้ง จึงเป็นการปลุกกระแส Y2K ให้คนได้ลองมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าตามกันนั่นเอง
- ตอบโจทย์กับวัยรุ่นยุคใหม่ ทั้งเรื่องของความมั่นใจ และสไตล์การแต่งตัว
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เทรนด์ Y2K ได้รับความนิยมจนกลายเป็นกระแสมาแรงในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว สีสันที่ฉูดฉาด เน้นความสนุกสนานแบบไร้ขีดจำกัด เพราะตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่น Gen Z ที่มีความมั่นใจในตัวเอง และมีความคิดนอกกรอบ ต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา และใช้การแต่งกายเพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่
Y2K ในยุค 2023 ที่เป็นมากกว่าแฟชั่น
นอกจากเทรนด์แฟชั่น Y2K มาแรงแล้ว คำว่า Y2K ยังเป็นวลีฮิตติดปากของคนไทยในปัจจุบันอีกด้วย โดยส่วนใหญ่มักจะใช้สำหรับต่อท้ายคำพูด ไม่มีหลักการตายตัว เพื่อมุ่งเน้นความสนุกสนานในกลุ่มเพื่อน นอกจากนี้ยังมีการถ่ายรูปแบบ Y2K ที่จะถ่ายโดยเปิดแฟลช ลดแสง และโพสท่านั่งยอง หันข้าง หรือถ่ายมุมสูงกดลงมา พร้อมกับโพสต์ท่ายอดฮิต อย่างการชู 2 นิ้ว แล้วแลบลิ้นเล็กน้อยที่มุมปาก หากใครที่อยากเพิ่มความโดดเด่นก็สามารถถือพรอพ หรือแต่งตัวเพิ่มเติมได้ เช่น กล้อง Handycam กระเป๋าสะพายไหล่ เข็มขัดเพชรวิบวับ หรือสวมแว่นกันแดด
ทริกการแมตช์เสื้อผ้ายุค Y2K ให้ออกมาดูดี
สำหรับการใส่เสื้อผ้าแฟชั่นยุค Y2K ให้ออกมาสวยและดูดี จะต้องอาศัยทริกเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำได้ไม่ยากเลย แต่จะช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้ ดังนี้
- ลองศึกษาสไตล์การแต่งตัวจากดารา นางแบบ หรือคนดังที่ตนเองสนใจหรือชอบ เพื่อเก็บไว้เป็นแนวทาง
- เลือกเสื้อผ้า หรือชุดที่ตัวเองชอบ โดยใช้สีสดเด่นๆ เพราะจุดขายของแฟชั่น Y2K คือการมีชุดสีสันสดใส
- ลองหาพรอพเสริมแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นหมวก แว่นตากันแดด เครื่องประดับต่างๆ อย่าปล่อยให้ชุดโล่ง
- มั่นใจเข้าไว้ ความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกชุดดูมีเสน่ห์ขึ้นมาอีก
ผู้เขียน : PpsFoam
กราฟฟิก : Varanya Phae-araya