- เผย 3 โรคเสี่ยงของวัยรุ่นฟันน้ำนม พ่อแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ
- พ่อแม่ยุคใหม่ต้องตระหนักถึงความอ้วนของเด็ก อย่ามองเป็นเพียงความน่ารัก
- วิธีสังเกตอาการ "โรคภูมิแพ้" ที่อาจเกิดขึ้นกับลูก
ในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บในเด็กเล็กถึงวัยรุ่นเกิดได้ง่ายขึ้นจากภาวะต่างๆ ทั้งสังคม สิ่งแวดล้อม พฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป รวมทั้งอาหารการกิน, สภาพอากาศ แม้กระทั่งการเสพสื่อโซเชียลต่างๆ อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยเจ็บป่วยได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคภูมิแพ้ โรคอ้วน หรือแม้กระทั่งพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็ก ล้วนเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรใส่ใจให้มาก
3 โรคเสี่ยงของวัยรุ่นฟันน้ำนม พ่อแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ
- ภูมิแพ้ที่เด็กชอบแพ้ทาง รู้ทัน รักษาหายได้
ศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์ กุมารแพทย์หัวหน้าศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น เป็นกุมารแพทย์ด้านโรคภูมิแพ้และอิมมูนวิทยาในเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 2 เผยว่า ภูมิแพ้เกิดได้ทั้งจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่เราอาจคาดไม่ถึง อาทิ สภาวะอากาศ ไรฝุ่น แมลงสาบ อยู่ในบ้านที่เลี้ยงสัตว์มีขน เช่น สุนัข แมว เป็นต้น หรือได้รับมลพิษทางอากาศ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ควันบุหรี่ ฝุ่น PM 2.5
...
ส่วนใหญ่อาการของ "โรคภูมิแพ้" เกิดจากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในร่างกายมีการตอบสนองมากผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังที่อวัยวะต่างๆ อาทิ ระบบผิวหนังและเยื่อบุ ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้นกับลูกได้ง่ายๆ คือ อาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก หรือคันตาที่เป็นๆ หายๆ ท่านสามารถพาเด็กๆ มาพบแพทย์เพื่อซักประวัติและตรวจร่างกายสำหรับการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้
ขณะที่ การทดสอบสารก่อภูมิแพ้ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทดสอบทางผิวหนัง หรือ การตรวจเลือด ซึ่งปัจจุบันนิยมทำการทดสอบด้วยวิธีที่เรียกว่า การทดสอบทางผิวหนังเพื่อหาสารก่อภูมิแพ้ (Skin Prick Test) ซึ่งทำได้ง่าย รวดเร็ว เห็นผลตรงจุด ชัดเจนจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่และเด็กสามารถหลีกเลี่ยงการก่อภูมิแพ้ได้โดยตรง รักษาหายได้เร็วขึ้นได้โดยที่เด็กๆ ไม่ต้องทานยาเยอะ
- พฤติกรรมเด็ก ที่พ่อ แม่ ไม่ควรละเลย
พญ.ณิชา ลิ้มตระกูล กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านพฤติกรรมและพัฒนาการศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท 2 เผยว่า เด็กในช่วงอายุระหว่างแรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี ไม่ว่าจะเป็นโรคสมาธิสั้น พูดช้า ก้าวร้าว ฯลฯ ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ พ่อแม่และผู้เลี้ยงดูควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมเด็กและปรึกษาคุณหมอในเบื้องต้น เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กและทราบถึงพัฒนาการ พฤติกรรมของเด็กในขณะนั้นว่าเป็นอย่างไร เหมาะสมเป็นไปตามวัยหรือไม่ และสิ่งใดที่เป็นปัญหาที่แท้จริงของเด็ก
- โรคอ้วนในเด็ก ไม่ควรมองข้าม
พญ.นวลผ่อง เหรียญมณี กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม ศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท 2 เผยว่า โรคอ้วนในเด็ก เป็น 1 ใน 5 ของปัญหาสำคัญที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ระบุไว้ เด็กไทยอายุ 3-18 ปี มีภาวะน้ำหนักเกินถึงร้อยละ 7 และเป็นเด็กที่จัดอยู่ในเกณฑ์อ้วนถึงร้อยละ 9 ความอ้วนของเด็กไม่ควรมองข้าม เพราะอาจจะส่งผลร้ายทั้งร่างกายและจิตใจในระยะยาว
รวมถึงการเกิดภาวะโรคแทรกซ้อนกับเด็กได้ ซึ่งหากพ่อแม่ยังคงละเลยและมองเป็นเรื่องน่ารัก อาจทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาอย่างไม่ทันตั้งตัว อาทิ โรคเบาหวาน หยุดหายใจขณะหลับ นอนกรน ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูงนิ่วในถุงน้ำดี รวมไปถึงกระดูกและข้อก็มีโอกาสเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร
ทั้งนี้ จึงอยากชวนคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ตระหนักถึงความอ้วนของเด็กให้ดี อย่ามองว่าเป็นเพียงความน่ารัก ควรระมัดระวังป้องกันก่อนจะเกิดโรคกับลูก หากไม่แน่ใจว่าลูกของคุณจัดอยู่ในกลุ่มเด็กอ้วนเกินมาตรฐานหรือไม่ สามารถเข้ามาปรึกษาและรับคำแนะนำจากคุณหมอได้รอบด้าน ทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การควบคุมอาหาร การออกกำลังกายในเด็กที่มีความเสี่ยง หรือสภาวะความอ้วนที่เกิดขึ้นแบบผิดปกติกับเด็ก รวมไปถึงวางแผนการรักษาตั้งจุดหมายร่วมกันเพื่อรักษาโรคอ้วนในเด็กให้หายขาด ไม่ใช่เพียงแค่ลดน้ำหนักเท่านั้น.
ผู้เขียน : กนก โฆษกสุขภาพ
กราฟิก : CHONTICHA PINIJROB