เพจเรื่องเล่าหมอชายแดน อัปเดต 1 ปี การรักษา "น้องอุ้ม" พยาบาลอุ้มผาง ถอดท่อที่คอ หายใจได้เองเป็นปกติแล้ว แต่ยังใส่เครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจ

วันที่ 20 ม.ค. 2566 จากกรณี เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2565 เกิดอุบัติเหตุรถพยาบาลฉุกเฉินของโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก ชนกับรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกข้าวโพด ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยสภาพรถฉุกเฉินด้านหน้าพังยับเยิน อุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในรถกระเด็นไปคนละทิศละทาง ส่วนภายในห้องคนขับพบ นายกิตติพงษ์ อาจยาทา อายุ 45 ปี เป็นพนักงานขับรถพยาบาลคันเกิดเหตุถูกอัดติดคาพวงมาลัยรถ ข้างกันยังพบ นางสาวปุณยวีร์ ศรีดวงแปง อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพ ถูกอัดติดคาซากด้านหน้ารถตู้พยาบาล อาการสาหัส ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ "เรื่องเล่าหมอชายแดน" ได้โพสต์ข้อความ 1 ปีที่ผ่านไปกับชีวิตใหม่ของน้องอุ้ม โดยระบุว่า "ย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่น้องอุ้มพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผางประสบอุบัติเหตุในการปฏิบัติหน้าที่รีเฟอร์ส่งผู้ป่วยบนถนน สายแม่สอด-อุ้มผาง ตอนนี้ก็ครบ 1 ปีแล้วที่น้องอุ้มได้รับการผ่าตัดและฟื้นฟู โดยรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดในช่วงแรกหลังจากที่อาการทรงตัวได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยความช่วยเหลือจากกรมการแพทย์ (โดยเฉพาะท่านรองอธิบดี นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด ท่านช่วยเหลือประสานงานให้โดยตลอด) และสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นต้นสังกัด ทางสำนักพระราชวังที่รับน้องอุ้มเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ พระราชทานความช่วยเหลือกับน้องอุ้มและครอบครัว ที่จะลืมไม่ได้เลยคือ ท่านผู้อำนวยการ คณะแพทย์ พยาบาล ทีมกายภาพบำบัด และทุกหน่วยงานของโรงพยาบาลราชวิถีที่ดูแลน้องอุ้มเป็นอย่างดี

ตอนนี้น้องอุ้มถอดท่อที่คอ (Tracheostomy) ได้แล้ว สามารถหายใจได้เองเป็นปกติ ได้รับการใส่เครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจ เนื่องจากหัวใจเต้นช้าอันเนื่องมาจากความผิดปกติของสมอง กินอาหารทางสายยางอยู่ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงใบหน้าสวยงามแบบในรูปนี้เลย สามารถขยับร่างกายด้านขวาได้ ทำตามคำสั่งง่ายๆได้เช่น ยิ้ม ชูสองนิ้ว นั่งได้และกำลังฝึกยืน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเพราะในวันนั้นพวกเราถอดใจคิดว่าน้องอุ้มมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากและมากที่สุดอาจเป็นได้เพียงเจ้าหญิงนิทรา

...

แม้ว่าจะมีความโชคร้ายเกิดขึ้น ยังมีความโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากทุกท่านทั้งเรื่องการรักษาและร่วมบริจาคทรัพย์ช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารกลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผาง โดยตั้งเป็นกองทุนใช้ชื่อว่า “กองทุนพี่ช่วยน้อง” มีการแต่งตั้งกรรมการ ได้แก่ หัวหน้าพยาบาล หัวหน้าฝ่ายต่างๆ และมีบิดา มารดาร่วมเป็นกรรมการ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาวของ น.ส.ปุณยวีย์ ศรีดวงแปง ตั้งแต่เปิดรับเงินช่วยเหลือ จนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2565 เป็นเงินจำนวน 1,631,587.81 บาท

เงินในส่วนนี้ได้ใช้จ่ายสำหรับการดูแลรักษา ค่าเดินทางและค่าที่พักของครอบครัวในการไปเฝ้าไข้ และไว้ใช้จ่ายระยะยาว ทางโรงพยาบาลอุ้มผางโดยท่าน ผอ.นพ.วรวิทย์ก็ได้เตรียมทำห้องเพื่อดูแลน้องอุ้มหากเดินทางกลับภูมิลำเนาในอนาคตค่ะ มาร่วมเป็นกำลังใจให้น้องอุ้มกันนะคะ

จึงขออัปเดตเรื่องราวการต่อสู้ของน้องอุ้มตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบความเคลื่อนไหว หากน้องพร้อมเมื่อไหร่คงจะได้มาพบปะทุกท่านด้วยตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยท่านอื่น และครอบครัว ที่กำลังท้อแท้เกี่ยวกับการเจ็บป่วยได้มีแรงสู้ต่อเหมือนน้องอุ้มและครอบครัว ที่สู้กันสุดๆ จนมีวันนี้วันที่ดีกว่าเมื่อวานค่ะ"

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกับให้กำลังใจน้องอุ้มเป็นจำนวนมาก อาทิ ขอให้แข็งแรงไวๆนะคะ, ขอให้หายไวๆ นะครับ มีอะไรให้พวกเราช่วยได้ ยินดีเสมอครับ, ดีใจด้วยจริงๆขอให้น้องอุ้มกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเดิม, เป็นข่าวดีมากเลยค่ะ สู้ๆนะคะ กลับมาแข็งแรงไวๆค่ะ ฯลฯ.

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าหมอชายแดน