ผัวทุบตีเมียแย่งลูกริมถนน ล่าสุดโดนจับแล้ว ขณะที่ "เมีย" แฉโดนทำร้ายร่างกายบ่อย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมยืนยันไม่กลับไปคืนดีแน่นอน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก หนุ่ม ช.โคราช ได้โพสต์วิดีโอ ขณะพบผู้หญิง 2 คน จอดรถมอเตอร์ไซค์อยู่ริมทาง กำลังถูกผู้ชายเสื้อสีดำตรงเข้ามาทำร้ายด้วยการทุบตี พร้อมทั้งฉุดกระชากเด็กไปอุ้มไว้ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะแย่งลูกชายวัย 1 ขวบครึ่งไปจากหญิงผู้เป็นแม่ โดยเหตุการณ์ในคลิป เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา บริเวณริมถนนหน้าหมู่บ้านหนองตาคง ม.8 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งต่อมาผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 19 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหญิงในคลิป เล่าให้ฟังว่า ตนคบกับนายเอ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ได้ประมาณ 6 ปี ช่วงแรกก็นิสัยปกติ แต่พอมาช่วงหลังจากที่ตนเองตั้งท้อง ก็เริ่มมีอาการหึงหวง และแสดงพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายตนเองบ่อยครั้ง กระทั่งคลอดลูกชายมา ก็ใช้นามสกุลตนเอง ยิ่งทำให้นายเอเกิดความไม่พอใจ หาว่าตนแอบนอกใจ หลังจากนั้นก็เกิดการทะเลาะกันเรื่อยมา
กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก็ได้ทำร้ายทุบตีตนเองจนได้รับบาดเจ็บ เบ้าตาข้างซ้ายเขียวช้ำ ร่างกายฟกช้ำไปหลายที่ ตนจึงได้พาลูกชายอายุ 1 ขวบครึ่ง มาพักอยู่ที่ร้านอาหารที่ทำงานอยู่ เพราะกลัวว่าเขาจะทำร้ายอีก แต่นายเอก็ตามมารังควาน และได้มาแย่งลูกกับตนเองตามคลิป ก่อนที่จะพาหนีไป หลังจากนั้นตนเองจึงได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้เร่งติดตามตัวนายเอ เพราะเป็นห่วงลูกมาก ก่อนที่เมื่อคืนที่ผ่านมา นายเอ จะติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับนำลูกชายมาคืนให้ตน ซึ่งทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเอไปฝากขังเพื่อดำเนินคดีแล้ว และตนเองก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายเอให้ถึงที่สุด
...
ส่วนลูกชายตนจะเลี้ยงเอง ยืนยันว่าจะไม่กลับไปคืนดีกันแน่นอน ขอแยกทางกันอย่างถาวร เพราะนายเอเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรง ตนไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว
ทางด้าน ร.ต.อ.ทศพล จิตต์สูงเนิน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เผยว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายเอ ชายผู้ก่อเหตุไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครราชสีมาในช่วงสายของวันนี้ โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดต่อเสรีภาพ และข้อหาทำร้ายร่างกายกระทำต่อบุคคลครอบครัว ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีญาติของผู้ต้องหาไปยื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด โดยในส่วนของคดีนี้ ขั้นตอนต่อไปก็คงต้องรอพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีเสนอต่ออัยการเพื่อดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลต่อไป.