ฝ่ายชายโพสต์เฟซบุ๊ก โต้ปมล่มงานแต่ง ขณะที่ครูสาว บอกไม่เอาแล้วแค่ 4 หมื่น ยื่นคำขาด ต้องชดใช้ทั้งหมด รวมถึงที่ทำให้ตระกูลเสียหาย ไม่อย่างนั้น จะร้องวินัย 

จากกรณี ครูน้ำ ซึ่งเป็นครู พิธีกร และวิทยากรตามงานต่างๆ ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบายความช้ำใจ เนื่องจากวางแผนเตรียมจัดงานแต่งงานกับแฟนหนุ่ม แต่สุดท้ายฝ่ายชายขอจบ อ้างอยากให้ไปเจอคนดี และมาทราบว่าฝ่ายหญิงเป็นโรคซึมเศร้า จึงขอห่างเพื่อไปเรียนรู้การรักษา แต่กลับไปจดทะเบียนกับแฟนเก่า ฝ่ายหญิงบอกไม่ต้องการอะไร แค่ให้เอาเงินค่ามัดจำงานแต่งมาคืนครอบครัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านต่อ : ครูสาวเปิดใจ ถูกว่าที่เจ้าบ่าวล่มงานแต่ง ไปจดทะเบียนกับแฟนเก่า)

ต่อมา ฝ่ายชายได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ออกมาชี้แจงในมุมของตัวเอง ยืนยันว่าไม่ได้ขโมยรถใคร ตนมีทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ และยังให้ฝ่ายหญิงยืมขับด้วยซ้ำ และอ้างว่าตัวเองไม่ได้อยากอยู่กับคนที่มีทัศนคติด้านความรักแบบไม่ผูกพัน โดยอ้างว่า ฝ่ายหญิงบอกอยากคบตนแบบนี้ในตอนแรก

และว่าฝ่ายหญิงบอกว่าไม่มีใครแต่ยังไปกับอีกคน ที่ตามง้ออยู่ พอมาอยู่ที่บ้านก็บอกเขาปากร้ายทำร้ายจิตใจแต่ก็พึ่งพาเขาตลอด ถ้ารู้แบบนี้แต่แรกตนคงไม่มาใกล้

บอกว่าตนมีติดค่าใช้จ่ายกับคุณ ตนเป็นคนโทรยกเลิกสถานที่ด้วยตนเองและสอบถามค่าใช้จ่ายแล้ว ไม่มี เขาก็ยกเลิก คุณพยายามวางงานทุกอย่างแบบไม่ต้องมีมัดจำใดๆ เพราะคุณก็ไม่มีเงินสำรองจ่าย ทำไมวันนี้ถึงมีเป็นหลักแสนไปจ่ายได้ โกหกกันเหรอว่าไม่มีเงิน 

การที่ไม่อยากพูดกับฝ่ายหญิงอาจพูดแล้วรับไม่ได้หรือมีอาการต่างๆ ที่ควบคุมตนเองไม่ได้ จนอาจทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนจนต้องเสียเวลาพาส่งโรงพยาบาล เสียการงาน จึงไม่ขอติดต่อใดๆ อีก ซึ่งมารู้อีกทีว่า พอไม่พูดด้วยก็เพ้อเจ้อ โทรไปรบกวนถึงคนในครอบครัวตนในเวลาทำงาน

ตนไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้ต้องเอาออกมาโพสต์ด้วย เพราะคิดว่าคุยกันส่วนตัวแล้วก็พอ ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนดังอะไร หลังจากนี้ขอใช้ชีวิตปกติ และอยากให้ฝ่ายหญิงหยุด คิดถึงบุพการีมากๆ อย่ามาคิดถึงตนอีก

ต่อมาฝ่ายชาย เปิดใจผ่านรายการโหนกระแส อ้างว่าก่อนหน้านี้ปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว แต่การที่ออกมาโพสต์แบบนี้ ยอมรับว่าอาจจะไม่เหมาะ แต่ตนก็ต้องปกป้องศักดิ์ศรีของครอบครัวของตนด้วย และสงสัยว่าทำไมจะต้องจ่าย 40,000 เนื่องจากเชื่อว่า ยังไม่มีการจ่ายเงินใดๆ และหากจ่าย ตนเองจะต้องรับรู้ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่ามีการจ่ายไปแล้ว

...

ขณะที่ฝ่ายหญิงเปิดใจ ตอนนี้คงไม่เรียกแค่เงิน 40,000 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายงานแต่ง ตามที่ได้คุยกันก่อนหน้านี้ แต่คงเรียกค่าเสียหายทั้งหมด รวมถึงที่ฝ่ายชายไปโพสต์เฟซบุ๊กทำให้ได้รับความเสียหายด้วย แต่เพราะเป็นข้าราชการ ในวงการศึกษาทั้ง 3 คน ดังนั้น อยากให้มาเคลียร์กันส่วนตัวก่อนที่ฝ่ายชายจะไปจัดงานแต่งงาน โดยให้ปลดบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของพ่อ และโทรมาคุยกับพ่อ ว่าจะผ่อนจ่ายยังไง และต้องจัดการให้เสร็จก่อนที่ฝ่ายชายจะมีงานแต่งงาน ไม่อย่างนั้นตนจะร้องวินัยราชการ ให้เสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาล 

ด้านแม่ฝ่ายหญิง บอกว่า เบื้องต้น ค่าใช้จ่ายสำหรับงานแต่งประมาณ 1 แสนบาท และค่าที่ทำให้วงตระกูลเสียหายอีก 1 แสนบาท.