กรมวิชาการเกษตร เตือนนักท่องเที่ยว ห้ามนำเข้าผลไม้สดจากต่างประเทศ โดยไม่ได้มีใบอนุญาต หรือรับรองสุขอนามัย ผิดพ.ร.บ.กักพืช เพื่อป้องกันโรคระบาด หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ขณะนี้เป็นฤดูท่องเที่ยว ประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หรือผ่านทางบริษัทนำเที่ยว โดยเฉพาะในเกาหลี ญี่ปุ่น นิยมซื้อสินค้าผลไม้สดเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ได้แก่ พลับ องุ่น โดยไม่มีใบรับรองสุขอนามัยพืชจากประเทศต้นทาง และไม่มีใบอนุญาตนำเข้าสิ่งต้องห้าม ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ให้ทราบว่าการนำเข้าผลไม้สดเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่แสดงใบรับรองสุขอนามัยพืชผ่านเข้าประเทศไทย ในทุกช่องทางเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8 (2) มาตรา 10 มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้น ขอแจ้งเตือนให้ประชาชนระวัง ในการกระทำดังกล่าวที่อาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่มีเจตนากระทำผิด ซึ่งหากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับรวมถึงยึดสินค้า เพื่อนำไปทำลายตามกฎหมายกักพืช
...
ทั้งนี้จะประสานกับทางการท่าอากาศยาน ให้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนรับทราบทั่วกัน และปัจจุบันด่านตรวจพืชท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ตรวจยึดจากนักท่องเที่ยวที่อาคารผู้โดยสารได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนและปล่อยตัว แต่ต้องยึดสิ่งของไว้ จากการสอบถามพบว่า ซื้อตามคำแนะนำของไกด์นำเที่ยว จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังไม่กระทำการดังกล่าว เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินกับสินค้ากลุ่มนี้
เนื่องจากการนำเข้าจะต้องมีการแจ้งนำเข้า เพื่อออกหนังสืออนุญาตตามกฎหมาย ตามพ.ร.บ.กักพืช เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพืชและแมลงในประเทศ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 21 จําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
การนำเข้าผลไม้สดที่จัดเป็นสิ่งต้องห้าม ต้องมีใบรับรองสุขอนามัยพืชจากประเทศต้นทาง ต้องขอใบอนุญาตนำเข้าสิ่งต้องห้ามเพื่อการค้า และต้องแจ้งนำเข้ากับด่านตรวจพืช เพื่อออกหนังสืออนุญาตฯ ให้นำสินค้าออกจากด่านตรวจพืชต่อไป.
ข้อมูลจาก กรมวิชาการเกษตร