หมอฝากถึงนักกีฬา-คนออกกำลังกาย เตือน "โรควูบ อันตรายถึงชีวิต" อาจมีโรคซ่อนอยู่ แนะพบแพทย์หาสาเหตุ ยิ่งเร็วยิ่งดี หลังเกิดเหตุสลดนักวิ่งวูบครั้งแรก อีก 3 วันต่อมาวูบครั้งที่สองเสียชีวิต
วันที่ 21 ตุลาคม 2565 มีรายงานว่า จากกรณีนักวิ่งรายหนึ่งได้ซ้อมวิ่งที่สวนลุมฯ แล้วหมดสติ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2565 ซึ่ง 3 วันต่อมาได้หมดสติระหว่างซ้อมอีกครั้ง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก Akanis Srisukwattana ของ นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา หรือ หมอแอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ "โรควูบ อันตรายถึงชีวิต" โดยระบุว่า ฝากถึงนักกีฬา และบุคคลทั่วไปที่ออกกำลังกาย อาการวูบ ขณะออกกำลังกาย ให้ถือว่าเป็นความผิดปกติ ที่อาจทำให้เสียชีวิตได้
การวูบ เป็นลม ส่วนใหญ่จะมาจากการออกกำลังกายที่หนักเกินไป นานไป แต่ส่วนน้อย มาจากการมีโรคซ่อน โดยเฉพาะโรคหัวใจ และ โรคสมอง ที่อันตรายมากๆ
ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่วูบ หรือจะวูบ (วูบหมายถึง หมดสติ จอดับ ไม่รู้ตัวนะครับ อาการหน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่า ไม่นับเป็นวูบ) ต้องพบแพทย์ ยิ่งเร็วยิ่งดี ตรวจให้แน่ใจ ว่าไม่มีโรคอันตรายซ่อนอยู่ ก่อนที่จะออกกำลังครั้งต่อไป เราไม่สามารถแยกเองได้ 100% ว่าวูบจาก ออกกำลังหนัก หรือวูบจากมีโรคซ่อนครับ
การวูบ หน้ามืด เจ็บหน้าอก ขณะแข่ง ไม่มีการนั่งพักให้หายแล้วไปต่อ การแข่ง คุณในวันนั้นจบลงแล้ว และต้องบอกเพื่อนนักวิ่ง บอกเจ้าหน้าที่สนาม เพื่อไป รพ.ตรวจรักษา หาสาเหตุนะครับ เพราะโรคบางอย่างอาจเป็นโรคที่ต้องรักษาเร่งด่วน วูบ ต้องตรวจให้แน่นอน ว่าไม่มีอะไรซ่อน ยิ่งตรวจเร็วยิ่งดี ถ้ายังไม่ตรวจ อย่าเพิ่งไปออกกำลัง เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้ถ้ามีโรคซ่อน
...
นอกจากนี้ นพ.อกนิษฐ์ ได้ระบุเพิ่มเติมว่า เพื่อความเข้าใจ การออก zone สูงๆ ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตโดยตรงนะครับ ถ้าคนนั้นไม่มีโรคซ่อนอยู่ ออก zone สูงก็ แค่เหนื่อย ล้า เมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ไม่ทำให้เสียชีวิต กลับกันการใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้ออกกำลังไม่หนักมาก มีโอกาสเสียชีวิตได้ครับถ้ามีโรคซ่อนครับ
สำคัญคือต้องคัดกรอง ว่าเรามีโรคซ่อนที่เราไม่รู้ตัวไหม และควรทำโดยรีบด่วน ถ้ามีอาการเตือนเหล่านี้ เจ็บหน้าอก ใจสั่น หน้ามืดเป็นลมครับ
ขอแสดงความเสียใจกับนักวิ่งและญาติน้องที่เสียชีวิตด้วยครับ.
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Akanis Srisukwattana