โซเชียลค้านวัดที่พังงา เตรียมรื้อถอนเรือนโบราณ อายุกว่า 100 ปี สมัยรัชกาลที่ 3 ด้านเจ้าอาวาสยันยังไม่มีการรื้อถอน หากจะอนุรักษ์ให้เข้ามาช่วยกัน
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่ นายชัยณรงค์ ณ นคร เลขานุการกองทุนสามพระยาบริรักษ์ภูธร (อดีตเจ้าเมืองพังงา) ได้โพสต์ภาพเรือนโบราณอายุกว่า 100 ปี ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่วัดประชุมโยธี พระอารามหลวง ลงเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความระบุ เรือนของอดีต ท่านคุณทวด ท่านเจ้าคุณ อ้น ณ ถลาง ที่เป็นผู้สืบทอดมรดกมาจากเจ้าจอมยี่สุ่น เคยเป็นเจ้าเมืองภูเก็ต ผู้ที่พระมหากษัตริย์ทรงยกย่อง ชมเชย เป็นผู้ที่มีพระคุณต่อวัดประชุมโยธี จะถูกรื้อถอนหรือไม่ และว่าหลายคนที่ไม่ทราบเรื่องราวของเรือนหลังนี้ ทำการลบหลู่ ปรากฏว่า เจอดีทุกราย แต่ถ้าเขารื้อได้สำเร็จ ก็ถือว่า เป็นความประสงค์ของเจ้าเรือน แต่เมื่อขณะที่รื้อ มีอาเพศ ก็รับกรรมกันเอาเอง
ทำให้มีการแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากทั้งในสื่อออนไลน์ต่างๆ และประชาชาชนทั่วไป พร้อมกับแสดงความคิดเห็น บางคนก็ว่าไม่อยากให้รื้อถอน และพร้อมจะเข้ามาช่วยซ่อมแซม รวมถึงสมทบทุนเพื่อทำการบูรณะ
...
ล่าสุด ผู้สื่อข่าว ไปตรวจสอบที่เรือนโบราณหลังนี้ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านข้างวัดประชุมโยธี พระอารามหลวง เขตเทศบาลเมืองพังงา ซึ่งทางวัดได้จัดซื้อที่ดินแปลงนี้มาจากภาคเอกชน พบว่ามีสภาพเป็นบ้านร้าง 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ มีบันไดขึ้นชั้นบนทั้งซ้ายขวา มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทางวัดได้ติดป้ายชำรุด ห้ามเข้าภายในตัวบ้าน ขณะที่พบว่ามีคนเข้ามาเยี่ยมชมถ่ายภาพกันเป็นระยะ และบอกว่าอยากให้อนุรักษ์เรือนโบราณหลังนี้เอาไว้ หากรื้อถอนก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ด้าน นายชัยณรงค์ เปิดเผยว่า เรือนโบราณหลังนี้เป็นของเจ้าจอมยี่สุ่น สมัยที่พระยาบริรักษ์ภูธรแสง มาปกครองเมืองพังงา จากนั้นก็ตกทอดมรดกมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลานรุ่นเหลน จากการศึกษาดูข้อมูลแล้ว บ้านหลังนี้มีอายุถึงเกือบ 200 ปี เมื่อได้ข่าวว่า ทางวัดประชุมโยธีจะมีการรื้อถอน ก็เห็นว่าเรือนหลังนี้เป็นแหล่งโบราณสถานแห่งหนึ่งที่มีอายุยาวนาน การที่จะรื้อถอนโบราณสถานที่มีอายุมากกว่า 50 ปีนั้น จะต้องได้รับความชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน
ส่วนตัวเห็นว่าบ้านนี้เป็นบ้านที่มีความผูกพันกับคนพังงาจำนวนมาก เป็นบ้านที่มีความหมายต่อเมืองพังงาบ่งบอกถึงรากเหง้าของเมืองพังงาได้ดีที่สุด เป็นสมบัติจึงอยากให้ชาวพังงาเห็นคุณค่าของความเป็นอัตลักษณ์เป็นรากเหง้าของเมือง ก็เลยอยากจะบอกพี่น้องชาวพังงาหรือว่าผู้ที่รักในเรื่องของสถาปัตยกรรม มาร่วมกันที่จะทำให้เรือนหลังนี้อยู่นานเท่านาน ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา
ด้าน พระเทพปัญญาโมลี เจ้าอาวาสวัดประชุมโยธี พระอารามหลวง กล่าวว่า ขอยืนยันว่ายังไม่มีการรื้อถอนในขณะนี้ โดยข้อเท็จจริงเรื่องนี้ทางวัดประชุมโยธี ได้ขยายพื้นที่โดยซื้อที่ดินเอกชนแปลงหนึ่งซึ่งเป็นที่ของตระกูล ณ ถลาง โดยในพื้นที่แปลงนี้มีบ้านเก่าอยู่หลังหนึ่ง ทางวัดได้พัฒนาสร้างเสนาสนะ (ที่อยู่อาศัยของภิกษุสงฆ์) บางอย่าง ก็ได้สร้างไปเกือบแล้วเสร็จแล้ว และจะทำพัฒนาพื้นที่เพื่อเตรียมจัดสร้างเสนาสนะส่วนอื่นเพิ่มเติม
และในวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมของคณะสงฆ์สัญจรของจังหวัดพังงา ได้มีการทำพิธีสวดถอนพื้นที่ เพื่อว่าในพื้นที่ ที่วัดซื้อมานั้น ในอดีตอาจจะมีอุโบสถเก่าหรือเจดีย์เก่าอยู่ จึงได้ทำพิธีสวดถอน รวมถึงบ้านหลังนี้ก็อยู่ในพื้นที่นี้ด้วย และเมื่อมีการสวดถอน ก็ถือว่าเราได้ทำถูกต้องแล้ว เราจะสร้างเสนาสนะอย่างอื่นทำอย่างอื่นก็ทำได้ แต่หลายคนกลับกลัวว่า เมื่อทำพิธีสวดถอนแล้ว พระจะทำการรื้อถอนบ้านหลังนี้ ซึ่งความจริงแล้วการจะรื้อถอนบ้านหลังนี้ ตามสิทธิ์ก็สามารถทำได้ แต่ความเป็นจริงไม่ใช่
ทั้งนี้ ทางวัดได้ประสานทางโยธาธิการและผังเมืองเข้ามาตรวจสอบดูแล้วว่าโครงสร้างของบ้านยังมีความแข็งแรงพอที่จะรองรับทำการบูรณะได้หรือไม่ ถ้าหากทำได้ ใครจะรับผิดชอบเรื่องเงินในการบูรณะ หรือใช้งบประมาณส่วนไหน ที่ผ่านมา ทางกรมศิลปากรเคยเข้ามาตรวจสอบ ประเมินเบื้องต้น ต้องใช้งบฯ บูรณะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเกินกำลังของวัดที่จะบูรณะซ่อมแซม แต่หากญาติโยมคนไหน เห็นควรที่จะต้องช่วยกัน ก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้.