มาตรการเยียวยาและชดเชย ตามมติที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประชุมร่วมกับ ทีมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น โครงการเราชนะ คนละครึ่ง หรือลดค่าน้ำค่าไฟ น่าจะเป็น ยาสามัญ ประจำบ้าน ที่ไม่สามารถจะเยียวยาความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ สังคมของประเทศที่พังลงมาเป็นนั่งร้าน ได้รับผลกระทบโดยทั่วกันไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจระดับรากหญ้าหรือเศรษฐกิจระดับบน คนรวย คนจนเดือดร้อนเหมือนกันหมด

อย่าลืมว่า รัฐบาลติดกระดุมผิดเม็ด ไม่ยอมคบบัณฑิต ผลที่ออกมาจึงมีความรุนแรงหลายเท่าตัว ไม่เฉพาะเศรษฐกิจเท่านั้น สังคมก็ล้มเหลว เด็กหมดโอกาสที่จะได้รับการศึกษา ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำหมดโอกาสที่จะได้รับการรักษาพยาบาล ต้องอยู่กันแบบอนาถา อดมื้อกินมื้อไม่เท่าไหร่ คนไทยไม่ทิ้งกันมีอะไรก็ช่วยเหลือจุนเจือกันตามอัตภาพ แต่ความเป็นความตายจาก โควิด รอบนี้ ยิ่งใหญ่กว่าเยอะ คนไทยไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวว่า สิ่งที่เขารักและหวงแหนจะตายไปต่อหน้าต่อตา มันสะเทือนใจนะจ๊ะ

การแจกเงินเยียวยาให้ผู้ที่ขาดรายได้ หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เหมือนการแจกขนมเด็กๆให้หายร้องไห้งอแง แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ตรงจุด ห้างปิด ร้านค้าปิด ธุรกิจการบริการปิด ระบบขนส่งสาธารณะปิดเร็วขึ้น ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ กองถ่ายหนัง ถ่ายละคร งานอีเวนต์ ต้องยกเลิกหมด เขาเหล่านั้นจะอยู่อย่างไร รัฐบาลจะเยียวยาไหวไหม เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่รัฐเอาไปเยียวยาก็คือ เงินกู้ที่กระทรวงการคลังไปกู้มาเพื่อใช้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งสิ้น

การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เชิญชวนให้ประชาชนแจ้งความเอาผิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ การที่ ทีดีอาร์ไอ หรือ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ที่เป็นองค์กรของรัฐ ออกมาสรุปความผิดพลาดในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถูกทุกข้อ และให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศและประชาชน เป็นเสียงสะท้อนว่า รัฐบาลควรจะอยู่เฉยๆ ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน หรือจะต้อง ปรับ ครม. เปลี่ยนแปลงบุคลากรในการรับมือกับความล้มเหลวแก้ปัญหาโควิด หรือในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออก สุดแล้วแต่ใจจะไขว่คว้า

...

แต่สิ่งที่ สะท้อนออกมาจากประชาชนทุกกลุ่มทุกสาขาอาชีพ จากทุกหยดน้ำตาของความสูญเสีย จากทุกชีวิตที่จากไปเพราะโควิด คือหมื่น คือแสน คือล้านศรัทธา ที่หมดลงกับ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลชุดนี้

แม้แต่เพียง หนึ่งชีวิต ไม่ว่าจะยากดีมีจน ไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือคนชรา ไม่ว่าจะเรียนสูงต่ำแค่ไหน ก็ย่อมมี ความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน มีเลือดเนื้อและจิตใจเหมือนกัน

รัฐบาลตั้ง ศบค.ด้านความมั่นคง ศบค.เยียวยาเศรษฐกิจ แต่รัฐไม่คิดจะตั้ง ศบค.ด้านสังคมบ้างเลยหรือ ทรัพยากรบุคคลของประเทศด้อยคุณภาพลงขนาดไหน ก็เท่ากับว่าโอกาสในการแข่งขันของประเทศไทยก็ต่ำเตี้ยติดดินมากขึ้นเท่านั้น เวลานี้ทั้งสังคม เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศป่วยหนัก ถ้ารักษาไม่ทันการณ์

ประเทศไทยจะเป็นขี้โรคแห่งเอเชียอย่างสมบูรณ์.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th