คำฮิตประจำสัปดาห์นี้เห็นทีจะหนีไม่พ้นคำว่า “ลักหลับ” ไปได้ล่ะครับ เพราะแพร่กระจายเต็มโซเชียลไปหมด หรือแม้แต่สื่อหลักอย่างหนังสือพิมพ์ก็ยังหยิบมาใช้ในคอลัมน์วิจารณ์การเมืองทั้งหลาย

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ซึ่งเป็นฉบับที่มีการชำระล่าสุดและใช้กันอยู่ขณะนี้ให้คำจำกัดความของ “ลักหลับ” เอาไว้สั้นๆว่า...ก.(กิริยา) ลักลอบร่วมประเวณีขณะที่ผู้หญิงนอนหลับ

อยู่ในหมวดของคำว่า “ลัก” ต่างๆ เช่น ลักไก่, ลักทรัพย์, ลักพา, ลักเพศ, ลักยิ้ม, ลักลอบ, ลักลั่น ฯลฯ และ ลักหลับ เป็นคำสุดท้าย

เหตุที่คำนี้ซึ่งเป็นคำโบราณคู่บ้านคู่เมืองมานานช้ากลับมาฮิตอีกครั้งหนึ่ง เป็นผลพวงมาจากการแถลงข่าวแบบกั๊กๆ หรือชักเข้าชักออกของบิ๊กตู่นั่นเอง

ช่วงเย็นๆวันศุกร์ท่านบอกว่าไม่มีการ “ล็อกดาวน์” แน่ๆ แต่จะใช้วิธีปิดเป็นจุดๆ ณ บริเวณเกิดเหตุ โดยเฉพาะจะปิดแคมป์ก่อสร้าง กักตัวแรงงานก่อสร้างซึ่งมีการติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิด-19 มากกว่ากลุ่มอื่นๆ

รวมทั้งอาจจะมีมาตรการอื่นๆที่เข้มงวดตามมาบ้าง แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดว่ามีอะไรบ้าง

คนไทยที่ฟังข่าวก็นึกว่าไม่มีการล็อกดาวน์ ปิดจังหวัดปิดเมืองอย่างที่ลือๆกันในตอนแรก

ที่ไหนได้ประมาณตี 1 ของคืนเดียวกัน กลับมีประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงรายละเอียดของมาตรการต่างๆที่มียาแรงๆหลายขนาน รวมทั้งมาตรการห้ามร้านอาหาร หรือภัตตาคาร เปิดตั้งโต๊ะขายให้นั่งรับประทาน ให้ซื้อกลับบ้านอย่างเดียว

เท่านั้นเองเสียงบ่นเสียงโอดครวญระคนเสียงสวดชยันโตก็ดังกระหึ่มไปทั่ว...และคําว่า “ลักหลับ” ที่มีความหมายว่า “ลักลอบร่วมประเวณี ขณะที่ผู้หญิงนอนหลับ” ก็เกิดขึ้นในนาทีนั้น

...

เพราะบิ๊กตู่ท่าน “ลักลอบ” จริงๆเพราะตอนแถลงไม่เห็นมี ไม่เห็นบอกใบ้ว่าจะแรงแค่ไหน นอกจากปิดแคมป์ก่อสร้าง

จากนั้นก็มาประกาศในช่วงที่ประชาชนกำลังนอนหลับเป็นส่วนใหญ่...แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่า “ลักหลับ” อย่างไรล่ะครับ

หากเราไปดูพฤติกรรมของ “ชาย” ลักหลับ “หญิง” เท่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมาแต่โบราณกาล ก็จะพบว่ามักลงเอยด้วยการเป็นคดีขึ้นโรงพักเป็นข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ยุคโน้นบ่อยๆ

บางครั้งฝ่ายหญิงอาจจะอายไม่กล้าแจ้งความแต่อย่างน้อยก็จะร้องตะโกนโวยวาย และบางรายที่แข็งแรงก็ถึงขั้นใช้เท้าถีบฝ่ายชายกระเด็นตกเตียง วิ่งหัวซุกหัวซุนเป็นเรื่องเล่าแบบข่าวชาวบ้านอยู่เสมอๆ

ฉันใดก็ฉันนั้น การลักหลับของรัฐบาลครั้งนี้ จึงเรียกเสียงตะโกน เสียงโอดครวญและเสียงสวดเสียงบ่น จากประชาชนในกลุ่มที่เจอผลกระทบอย่างจัง...ดังที่เราได้ยินข่าวกันอยู่ เมื่อ 2-3 วันที่แล้ว

นี่ถ้าท่านบอกตรงๆว่าฉันจะทำอย่างนั้นอย่างนี้กับเธอนะจ๊ะ...โดยไม่ถือโอกาส “ลักหลับ”หรือประกาศในขณะคนส่วนใหญ่กำลังหลับ...

เสียงโอดครวญและเสียงสวด เสียงบ่น คงไม่มากเท่านี้

เพราะคนที่อยากเห็นท่านใช้ยาแรงๆเสนอให้ “ล็อกดาวน์” แต่ต้นก็มีมากถึงขนาดพูดกันว่า “เจ็บแต่จบ” ด้วยซํ้า

ท่านนายกฯเสียอีกที่เถียงว่า คุณรู้ได้ไงว่าเจ็บแล้วจะจบ...ถ้าไม่จบล่ะอะไรจะเกิดขึ้น?

เอาเข้าจริงๆที่ท่านลักหลับครั้งนี้ก็เจ็บพอๆกันแถมยังเจ็บใจเอาเสียอีกด้วย สำหรับผู้ได้รับผลกระทบอย่างไม่คาดคิดจากหลายๆกลุ่ม

ขอให้การลักหลับครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะครับ อย่าทำอะไรทำนองนี้อีกเลย มีอะไรก็บอกตรงๆ (ภาษาโซเชียลยุคหนึ่งใช้คำว่า “บ่องตง”) เพราะด้วยสถานการณ์อันหนักหนาสาหัสอย่างทุกวันนี้ ประชาชนเขารู้

และพร้อมให้ความร่วมมือขอให้เปิดหัวใจออกมาพูดกันเท่านั้น

ก็เอาเถอะไหนๆท่านก็ลักหลับไปแล้วและเราก็ได้ระบายความโกรธกันแล้ว รวมทั้งล่าสุดท่านก็ออกมากล่าวแสดงความเสียใจแล้วที่ต้องทำแบบนี้ และเตรียมงบประมาณไว้ก้อนหนึ่งสำหรับเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบใน 6 จังหวัดทั้งนายจ้าง ลูกจ้างและร้านอาหารด้วยแล้ว

จากนี้ไปคงต้องปฏิบัติตามมาตรการทุกข้ออย่างเต็มที่ และหวังว่า หลังจากร่วมมืออย่างเต็มที่ของทุกๆฝ่ายแล้วจะสามารถลดการแพร่ระบาดลงได้ในเร็วๆวันนี้

สำหรับผมเองได้ระบายออกมาบ้างก็รู้สึกค่อยยังชั่ว

คืนนี้จะหลับเร็วเพราะไม่มีบอลยูโรเตะเนื่องจากเพิ่งจบรอบน็อกเอาต์...ห้ามใครมา “ลักหลับ” ผมอีกนะครับ.

“ซูม”