เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ออกแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ที่ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดหรือในกำกับศธ.ถือปฏิบัติ โดยกรณีได้เรียกเก็บไปแล้ว ให้คืนในส่วนที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นในระหว่างที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และกรณีจำเป็นต้องเรียกเก็บเพื่อใช้จ่ายจัดการเรียนการสอน อาจผ่อนผันหรือขยายระยะเวลาการเรียกเก็บนั้น ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เมื่อมีประกาศจากศธ.ไปแล้ว จึงมอบอำนาจให้โรงเรียนบริหารจัดการได้ตามความเหมาะสม ส่วนโรงเรียนในจ.บุรีรัมย์ที่มีการคืนค่าธรรมเนียมการศึกษานั้นก็เป็นการบริหารจัดการของโรงเรียนเองที่อยากช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ตนได้ย้ำเป็นนโยบายไปแล้วว่า ขอให้โรงเรียนดูตามบริบทที่บริหารจัดการได้ว่ามีรายการใดบ้างที่ต้องเรียกเก็บ และรายการใดบ้างที่ไม่มีความจำเป็นในช่วงที่ไม่ได้จัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนก็ต้องคืนผู้ปกครอง หรือผู้ปกครองขอผ่อนผันก็ต้องดำเนินการให้

ด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) อยู่ระหว่างจัดทำประกาศเรื่องการคืนค่าธรรมเนียมการศึกษา เพื่อแจ้งให้โรงเรียนเอกชนรับทราบล่วงหน้า 15 วัน แต่ส่วนใหญ่มีการลดค่าและคืนแล้ว ส่วนบางแห่งที่มีการปรับค่าธรรมเนียมการศึกษาเพิ่มขึ้น สช.ได้ตีกลับให้ไปทบทวนใหม่ หากโรงเรียนจำเป็นต้องปรับเพิ่มจะต้องไม่ปรับเพิ่มกับนักเรียนที่เรียนอยู่เดิม แต่ให้ปรับเพิ่มกับนักเรียนที่สมัครเรียนใหม่ หรือโรงเรียนจะต้องตรึงราคาเดิมไว้ก่อน พร้อมสั่งการให้ชะลอการเปลี่ยนแปลงรายการที่ผู้ปกครองต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เช่น การเปลี่ยนค่าเครื่องแบบนักเรียน เป็นต้น เรื่องนี้ สช.ไม่อนุญาตแน่นอน.

...