ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยหลังประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model หรือโมเดลเศรษฐกิจใหม่ สาขาพัฒนาคน/บุคลากร ครั้งที่ 1 มี ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาแนวทางในการพัฒนากำลังคนในด้าน BCG ประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
โดยในแผนระยะสั้นที่จะให้เกิดผลเร็วที่สุด คณะกรรมการเห็นว่าควรจะพัฒนาในกลุ่มบุคลากรที่ได้รับการจ้างงาน ภายใต้โครงการยก ระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ “มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ” หรือ U2T ซึ่งปัจจุบันมีการจ้างงานกว่า 53,000 คน ที่ลงไปทำงานในพื้นที่ 3,000 ตำบลทั่วประเทศ โดยทำโครงการและกิจกรรมกว่า 10,000 กิจกรรม ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ของกิจกรรมสอดรับกับ BCG โดยคาดว่าจะมีนักศึกษา บัณฑิตจบใหม่ และประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับการจ้างงานภายใต้โครงการ U2T ไม่น้อยกว่า 35,000 คน ที่ทำกิจกรรมยกระดับเศรษฐกิจแบบ BCG ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตรและอาหาร ประมาณ 10,760 คน ด้านสุขภาพ สมุนไพรและเครื่องสำอาง ประมาณ 3,890 คน ด้านการจัดการขยะ น้ำและสิ่งแวดล้อม ประมาณ 6,570 คน ด้านหัตถกรรม เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ประมาณ 3,550 คน และด้านท่องเที่ยวประมาณ 10,770 คน
รองปลัด อว.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า เนื่องจากกลุ่มคนในโครงการ U2T เหล่านี้ได้เรียนรู้ประสบการณ์จริงจากการทำงานในพื้นที่น่าจะนำมาพัฒนาศักยภาพเพิ่มเติม ทั้งการฝึกอบรมเฉพาะด้านในความรู้ BCG การส่งเสริมการนำเสนอแนวคิดการพัฒนาพื้นที่ใน BCG การนำความรู้ไปปฏิบัติจริงในพื้นที่ ตลอดจนการส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้มีศักยภาพในการสร้างธุรกิจใหม่ หรือวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนากำลังคนด้าน BCG ระยะสั้นภายใน 1 ปีได้
...
“สำหรับแนวทางการพัฒนากำลังคนด้าน BCG ในโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล จะเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค.-ธ.ค.นี้ โดยให้มีการเพิ่มพูนความรู้และฝึกทักษะ BCG ผ่านคอร์สออนไลน์ และผ่านโครงการเมกกะแฮกกาธอน คือ การให้ผู้ได้รับการจ้างงานเป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันระดมสมอง ต่อยอดแนวความคิดเพื่อสร้างธุรกิจจริงและผ่านการส่งเสริมการสร้างธุรกิจด้าน BCG ผ่านโครงการยุวชนสตาร์ตอัพของกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ เทคฟันด์” ศ.ดร.ศุภชัยกล่าว.