ครูโรงเรียนที่หลังสวน พบนักเรียนกว่า 50% เข้าไม่ถึงเรียนออนไลน์ ผุดโครงการ "หนูอยู่ไหนครูก็ไปถึง" จัดครูไปสอนถึงบ้าน จนพบความเป็นอยู่ลำบาก พ่อแม่ขาดรายได้ ไม่มีแม้เงินซื้อข้าวสาร วอนผู้ใจบุญช่วย

วันที่ 19 พ.ค.63 นางสาวภนิดา นพชำนาญ ผอ.โรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมคณะครูออกเยี่ยมเยียนพบปะผู้ปกครองและนักเรียนเพื่อตรวจสอบฐานะความเป็นอยู่ ตามโครงการ “หนูอยู่ไหนครูก็ไปถึง” หลังจากมีนโยบายให้มีการเรียนการสอนทางระบบออนไลน์แก่นักเรียนชั้นอนุบาลถึงชั้น ป.6 เพื่อสำรวจความพร้อม

โดยพบว่า บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 7 ต.ขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ของครอบครัว นางจรรยา สุดภักดี อายุ 31 ปี กับนายอนุชาติ ปิ่นจอม อายุ 35 ปี มีลูกสาว 3 คน เรียนอยู่ชั้น ม.2, ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง และ ป.1 โรงเรียนวัดขันเงิน เป็นกระต๊อบหลังเล็กๆ ยกสูงราว 1 เมตร ฝาบ้านเป็นแผ่นไม้เก่าๆ หลังคามุงสังกะสี มีสนิมกัดผุกร่อน สภาพเอียงใกล้จะพัง ภายในบ้านมีห้องเพียงห้องเดียว อยู่ห่างไกลความเจริญ ข้างๆ บ้านทำเป็นเพิงไว้เป็นที่หุงข้าว โดยใช้เตาถ่าน ส่วนห้องน้ำอยู่แยกออกไป ทำด้วยเศษไม้ และปิดกั้นผ้าเต็นท์ไว้สำหรับอาบน้ำและปลดทุกข์

นายอนุชาติและนางจรรยา มีอาชีพทำสวนปาล์มเพียงเล็กน้อยและรับจ้างทั่วไป ก่อนมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ครอบครัวมีรายได้ วันละ 200-300 บาท ใช้เลี้ยงทั้ง 5 ชีวิตของครอบครัว แต่เมื่อเกิดโรคโควิด-19 ไม่มีรายได้ทำให้ความเป็นอยู่ลำบากอย่างมาก

...

นางสาวภนิดา เปิดเผยว่า โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนทั้งสิ้น 1,426 คน ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดใน อ.หลังสวน มีนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้น ป.6 มาจาก 5 อำเภอในพื้นที่ทางตอนใต้ของ จ.ชุมพร ได้แก่ อ.หลังสวน อ.พะโต๊ะ อ.ละแม อ.ทุ่งตะโก และ อ.สวี นักเรียนมาจากครอบครัวที่มีฐานะดี ไปจนถึงฐานะยากจน

หลังจากที่ได้เปิดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ได้ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะครูได้มานั่งวิเคราะห์กัน พบว่ามีการตอบรับจากนักเรียนไม่ถึง 50% เพราะเข้าไม่ถึงระบบการเรียนการสอนทางออนไลน์ ทำให้เกิด "โครงการหนูอยู่ไหนครูก็ไปถึง" โดยจัดคณะครูออกเยี่ยมบ้านนักเรียนตามพื้นที่ต่างๆ และพบความยากลำบากของนักเรียนจำนวนหนึ่ง ที่บ้านไม่มีไฟฟ้า ไม่มีทีวี ตนจึงแก้ปัญหาโดยให้ครูเดินทางเข้าไปสอนถึงบ้าน ขณะที่บางครอบครัวหลังจากเกิดโควิด-19 ทำให้ขาดรายได้ ไม่มีเงินส่งลูกเรียนต่อ

นางสาวภนิดา กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังพบว่า บางครอบครัว บางวันไม่มีแม้เงินจะซื้อข้าวสารไว้รับประทาน จึงอยากให้สังคมได้ช่วยเหลือครอบครัวที่ยากลำบากเหล่านี้ด้วย โดยเฉพาะครอบครัวของน้องกระแต อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.1 ซึ่งน้องเป็นเด็กเรียนดีมาก จึงอยากให้สังคมให้การช่วยเหลือเพื่อให้โอกาส เพราะว่าการศึกษาเท่านั้นจะทำให้ชีวิตของคนเหล่านี้ดีขึ้น 

ภายหลังจากที่คณะครูได้พบกับสภาพปัญหาดังกล่าว จึงรายงานไปยัง นายประกาศิต พระประสิทธิ์ นายอำเภอหลังสวน ได้รับทราบพร้อมกับสั่งการให้ช่วยเหลือในเบื้องต้นโดยนำถุงยังชีพไปมอบให้ และจะหาทางช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป

ส่วนผู้ที่ต้องการช่วยเหลือ นักเรียนของโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน สามารถบริจาคเงินไปช่วยเหลือได้ที่โรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร หรือบริจาคได้ที่หมายเลขบัญชี 317-0-71813-8 ธนาคารกรุงเทพ สาขาหลังสวน.