แกร็บ เผยปิดสำนักงาน 5 วันฆ่าเชื้อ หลังพบพนักงานจากบริษัทแม่ที่สิงคโปร์เดินทางมาไทยมีเชื้อโควิด-19 ส่วนศูนย์บริการพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ ไม่ได้รับผลกระทบเพราะอยู่คนละแห่ง และให้บริการตามปกติ

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 63 จากกรณีสํานักข่าว บลูมเบิร์ก ระบุว่า มีพนักงานแกร็บ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติป่วยเป็นติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น ล่าสุด ทางแกร็บ ประเทศไทย ขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ดังนี้

บริษัทฯ ขอแจ้งว่า มีพนักงานของบริษัท แกร็บ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ แกร็บ ประเทศไทย ได้ติดโควิด-19 จริง โดยพนักงานคนดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งประจำอยู่ในสำนักงานใหญ่ ประเทศสิงคโปร์

โดยได้เข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ณ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 63 และพบว่ามีผลการตรวจเป็นบวก ซึ่งขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทฯ ได้ให้การดูแลและคุ้มครองพนักงานคนดังกล่าว รวมทั้งครอบครัวอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ พนักงานคนดังกล่าวปฏิบัติงานอยู่ในส่วนของสำนักงาน และไม่ได้เกี่ยวข้องกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และ พาร์ทเนอร์ร้านค้าของแกร็บ โดยได้เดินทางมาติดต่องานในประเทศไทยในระหว่างวันที่ 5 – 6 มี.ค.63 ณ บริเวณชั้น 19 ของอาคารสมัชชาวาณิช 2 หรืออาคาร UBC 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ แกร็บ ประเทศไทย โดยมิได้แสดงอาการป่วยแต่อย่างใด และได้เดินทางกลับไปยังประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.63 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าว บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเพื่อระบุตัวตนของบุคคลที่พนักงานคนดังกล่าวได้มีปฏิสัมพันธ์ด้วย โดยได้จัดให้พนักงาน แกร็บ ประเทศไทย ที่ได้ติดต่องานกับพนักงานคนดังกล่าว โดยตรงเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ทำการปิดสำนักงานใหญ่ของ แกร็บ ประเทศไทย ณ อาคาร UBC 2 เป็นการชั่วคราวโดยทันที เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเป็นเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 9 – 13 มี.ค.63 โดยในระหว่างนี้ พนักงาน แกร็บ ประเทศไทย ที่ประจำอยู่ในสำนักงานดังกล่าวจะปฏิบัติงานอยู่ที่บ้านตลอดทั้งสัปดาห์

...

ส่วนที่ศูนย์บริการพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ (หรือ Grab Driver Center) ณ อาคารธนภูมิ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ โดบแกร็บ ยังคงให้บริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันของเราตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น บริการการเดินทาง บริการรับส่งอาหาร การจัดส่งสินค้าและพัสดุ ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนบริการทางการเงินต่างๆ

บริษัทฯ ขอยืนยันว่า เราให้ความสำคัญสูงสุดกับสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานทุกคน รวมถึงพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ผู้ใช้บริการ ตลอดจนพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจ โดยนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความกังวลการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศไทย บริษัทฯ ได้ติดตามข่าวสารของสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและได้ประกาศใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในทุกสำนักงานและสาขาย่อยทั่วประเทศ

ทั้งยังได้ประสานความร่วมมือกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อยกระดับมาตรการการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ อาทิ

- การตรวจวัดอุณหภูมิของพนักงาน รวมถึงผู้ที่มาติดต่อในสำนักงานต่างๆ
- การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคพื้นที่ปฏิบัติงานเป็นประจำ
- การจัดให้มีเจลล้างมือเพื่อทำความสะอาดในสำนักงานต่างๆ
- การประกาศให้พนักงานที่เดินทางมาจากสำนักงานอื่น รวมทั้งผู้ที่มาติดต่อ ต้องกรอกแบบฟอร์มเพื่อแจ้งข้อมูลด้านสุขภาพและเปิดเผยประวัติการเดินทาง ก่อนเข้าไปในสำนักงานนั้นๆ
- การแจกหน้ากากอนามัยให้กับพนักงาน รวมถึงพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้กำหนดแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan) เพื่อประเมินสถานการณ์และความเสี่ยง พร้อมกำหนดแนวทางและขั้นตอนการรับมือเพื่อให้ธุรกิจของเรายังคงดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะยังคงติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานทุกคน รวมถึงพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ผู้ใช้บริการ ตลอดจนพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจ จะได้รับการดูแลและป้องกันเป็นอย่างดี