สั่งคัดกรองทุกคน บ้านเราติดเชื้ออีก 1 อนุทินชี้คาดแมสก์ไม่ป่วยก็ไม่ต้องใส่

อนุทินประกาศเลื่อนแข่ง “โมโตจีพี” ไม่มีกำหนด หลังเจอพิษไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกันเข้าถกอุปทูตจีนเจรจาขอซื้อยาสู้ไวรัสโควิด-19 แต่ยาในสต๊อกของกระทรวงสาธารณสุขยังมีพอ ขณะที่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ ผีน้อยและคนไทยที่อยู่เกินวีซ่าในเกาหลีใต้ หนีไวรัสมรณะที่ระบาดหนัก ขอเผ่นกลับไทยไม่อยู่แล้วแดนกิมจิ สมัครใจกลับแล้วครึ่งหมื่น วิษณุเผยจะกลับได้ไม่ได้อยู่ที่เกาหลีใต้ บอร์ด สปสช.เคาะใช้งบกว่าพันล้านเบิกจ่ายกรณี “โควิด-19” ของหน่วยบริการ มหาดไทยจ่อชง ครม. ขอ 250 ล้านบาทผลิตหน้ากากอนามัย

ยังคงเป็นที่หวาดผวาและระมัดระวังกันทั่วโลก สำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยอดผู้เสียชีวิตในหลายประเทศรวมทั้งในจีนมีอัตราเพิ่มขึ้น รวมทั้งผู้ติดเชื้อ ส่วนในไทยสถานการณ์เรื่องเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลของประชาชนทั่วไป

...

“อนุทิน” ถกอุปทูตจีนขอซื้อยาสู้โควิด

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 2 มี.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว. สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบกับรักษาการอุปทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยว่า ได้ติดต่อผ่านสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ขอให้ช่วยเจรจากับบริษัทผู้ผลิตยาที่เพิ่งได้ลิขสิทธิ์การผลิตยาที่จีนประกาศว่ามีสรรพคุณที่ใช้ได้ดีกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ไทยซื้อยาตัวนี้ได้ ขอให้เป็นนโยบายพิเศษ ขณะนี้จีนยังไม่อนุญาตให้ขายยาตัวนี้ออกนอกประเทศ เพราะในประเทศยังต้องการมาก แต่เราบอกว่าเราต้องการยาตัวนี้มาเพื่อนำมารักษาคนจีนที่ป่วยในไทย ขอให้ช่วยประสานงานให้เราซื้อได้ จีนให้ความร่วมมือเต็มที่

ยันสต๊อกยามีเพียงพอ

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ยาในสต๊อกของกระทรวงสาธารณสุข หากสถานการณ์ไม่บานปลายไปมากกว่านี้ มีมากเพียงพอเอามารักษาผู้ป่วยได้ ขอย้ำว่ายาไทยที่เราผลิตเองรักษาได้ อย่างกรณีที่ใช้กับผู้ป่วยที่ รพ.ราชวิถี ตามข่าวที่ว่าเราขาดยา ไม่มียารักษาไม่เป็นความจริง ยิ่งตอนนี้ยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ดูจากผู้ป่วย 43 ราย เสียชีวิตไป 1 ราย การเสียชีวิตยังต้องไปดูว่าด้วยเชื้อโควิด-19 หรือโรคอื่นที่ผู้ป่วยเป็นอยู่แล้ว เพราะตอนผู้ป่วยเข้ามารักษาตัวมีอาการค่อนข้างหนักอยู่แล้ว แต่ในผู้ป่วย 43 คน กลับบ้านไปแล้ว 28 คน ดังนั้น มีผู้ป่วยอยู่ 13-14 คน การรักษาโดยใช้ยาของเราเอง ขณะนี้พยายามเร่งผลิตให้เพียงพอกับความต้องการ ยืนยันว่าเพียงพอแน่นอน

เห็นด้วยไม่ป่วยไม่ต้องใส่แมสก์

เมื่อถามถึงเรื่องหน้ากากอนามัย นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนใหญ่ควรให้ผู้ป่วยเป็นผู้ใส่เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปยังผู้อื่น ส่วนผู้ที่ไม่ป่วยไม่จำเป็น ที่มีการขาดตลาดของหน้ากากนั้น รู้ว่ามีการกักตุน กรมการค้าภายในคงมีการดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่อยากฝากให้ทุกคนคิดใช้หน้ากากที่ทำมาจากผ้า ที่นำมาซักได้ หากคนส่วนใหญ่ใช้หน้ากากผ้าที่ทำกันเอง คนที่กักตุนไว้จะนำออกมาขายแน่นอน เมื่อถามกรณีที่มีนักวิทยาศาสตร์ออกมาตั้งข้อสังเกตว่ายิ่งใส่หน้ากากยิ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทำให้ประชาชนเริ่มสับสน นายอนุทินกล่าวว่า จะให้กรมควบคุมโรคชี้แจงเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวเห็นด้วยกับตรงนี้ ต้องทำความเข้าใจและให้คิดว่าจะต้องกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือตลอด ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในที่แออัดคนเยอะ

เลื่อนแข่งโมโตจีพีไม่มีกำหนด

เวลา 09.30น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโตจีพี ประจำปี 2562-2563 (2 ปี) และกล่าวว่า การจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโตจีพี สนามที่ 2 รายการโออาร์ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2020 ในเดือนมีนาคม ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ต้องขอยกเลิกการแข่งขันในเดือน มี.ค.ออกไปไม่มีกำหนด เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และไทยได้ประกาศให้ไวรัสโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายแล้ว เพื่อเป็นตัวอย่างว่าไทยจริงจังในการแก้ไขปัญหา ไม่ให้เกิดการรวมตัวกันของทั้งคนไทยและทีมผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากต่างประเทศ เพราะส่วนใหญ่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จึงไม่ขอนำประชาชนไปเสี่ยง ได้รายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก-รัฐมนตรี เพื่อให้รับทราบแล้ว

“สมคิด” มาทำงานปกติหลังกลับจากญี่ปุ่น

เช้าวันเดียวกัน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลตามปกติภายหลังเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว โดยมีท่าทีเป็นปกติ และทักทายนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกฯ บรรยากาศที่ทำเนียบฯ มีการเปิดจุดผ่านคัดกรองในตึกสันติไมตรี ที่นายกฯมีภารกิจ เป็นประธานมอบนโยบาย จัดการภายในและการเตรียมการเก็บน้ำฤดูฝนปี 2563 ข้าราชการเข้าร่วมงานทุกคนรวมถึงนายกฯและสื่อมวลชนต้องผ่านจุดคัดกรอง ตรวจวัดไข้ ติดสติกเกอร์ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ ในทำเนียบฯมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้น หลังวันที่ 1 มี.ค. ระดมเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดพื้นที่จุดเสี่ยง พ่นละอองกำจัดเชื้อโรค นำเจลล้างมือวางตามอาคารต่างๆ

แห่รับแจกหน้ากากอนามัย

อีกด้านที่กระทรวงสาธารณสุข ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. มีประชาชนมาเข้าแถวรอรับแจกหน้ากากอนามัยยาวเหยียด ตามที่แต่ละกรมสังกัดกระทรวง กำหนดแจกพร้อมกันในเวลา 09.00 น.และหมดภายในเวลา 10.00 น. โดยในการแจกเจ้าหน้าที่ได้ประทับตราวันที่แจกที่ข้อมือผู้รับแจกและแจกให้คนละ 3 แผ่น น.ส.จุฑาพร กลิลพัฒน์ อายุ 62 ปี ชาวนนทบุรี ผู้มารับแจกหน้ากากอนามัย กล่าวว่า มารับหน้ากากอนามัยเพราะหาซื้อไม่ได้มา 2 สัปดาห์แล้ว มีความหวาดระแวงในการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ก็มีความเชื่อมั่นในมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขว่าจะควบคุมการระบาดในประเทศได้

ไทยยังเฝ้าระวัง 11 ประเทศ

เวลา 11.00 น. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงเรื่องการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย อาชีพดูแลนักท่องเที่ยว เป็นคนที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยลำดับที่ 37 ที่เป็นพนักงานขับรถให้นักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็รักษาผู้ป่วยที่ รพ.ราชวิถี หายเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทยที่กลับจากญี่ปุ่น สรุปผู้ป่วยสะสมมี 43 ราย ขณะนี้สถานการณ์โรคในหลายประเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก กระทรวงมีการปรับเกณฑ์เฝ้าระวัง เพิ่มในผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจที่เป็นกลุ่มก้อน 5 คนขึ้นไป หากผู้ป่วยสงสัย มีไข้ ไอ โรคระบบทางเดินหายใจ ไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาลเอง แต่ขอให้โทร.มาที่สายด่วน 1422 เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ไปรับตัวเข้ามารักษาเอง หากประชาชนกลับมาจากประเทศที่มีการระบาดให้เฝ้าระวังตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน สำหรับประเทศที่มีการเฝ้าระวังขณะนี้ ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า อิหร่าน อิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมนี

ตั้งคณะ กก.วิชาการ 8 ราย

นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการด้านวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 จำนวน 8 ราย มีหน้าที่และอำนาจให้คำแนะนำแก่ รมว.สาธารณสุข ในการประกาศพื้นที่เขตติดโรคและให้คำแนะนำแก่อธิบดีกรมควบคุมโรค ในการประกาศโรคระบาด ให้คำแนะนำแก่ รมว.สาธารณสุข หรืออธิบดีกรมควบคุมโรค ในการประกาศยกเลิก เมื่อสภาวการณ์ของโรคสงบลงหรือมีเหตุอันควร และปฏิบัติการอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมาย ส่วนเรื่องยารักษาหรือยาฟาวิพิราเวียร์ ได้ประสานทางการทูต ซึ่งวันนี้มีการนำเข้ามาจากจีนจำนวน 2,000 เม็ด จะมีทีมแพทย์พิจารณาว่าจะใช้กับผู้ป่วยรายใด ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ยานี้ 1 รายจะต้องใช้ประมาณ 50 เม็ด แต่ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงสามารถใช้ยาตัวอื่นในการรักษาได้

หมอทวีศิลป์เคลียร์เรื่องใส่หน้ากาก

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องที่แพทย์ชาวอเมริกาออกมาระบุว่า หากคนที่ไม่ป่วยแล้วใส่หน้ากากอนามัย จะมีโอกาสติดเชื้อมากกว่านั้น หลักการในการใส่หน้ากากอนามัยเป็นเรื่องของการป้องกันการแพร่เชื้อเป็นหลัก คนที่ติดเชื้อมาแล้วใส่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากไม่ติดเชื้อแล้วมาใส่ตามกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียที่สร้างความสับสนนั้น หมายถึงการที่เราไปสัมผัสสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น แล้วไปจับใบหน้าซึ่งมีเนื้อเยื่ออ่อนจำนวนมาก ดังนั้น จึงไม่อยากให้ใบหน้าถูกสัมผัส โดยมือหรืออะไรต่างๆ ส่วนการใส่หน้ากากแล้วไปจับตามจุดต่างๆบ่อยๆ แล้วมาจับหน้ากากอนามัยของเราจะทำให้ติดเชื้อ เป็นเพียงข้อสังเกตและห่วงใย แต่ไม่ใช่การใส่หน้ากากแล้วจะติดเชื้อทุกคนหรือยิ่งป่วยเข้าไปใหญ่ เป็นเพียงอีกมุมที่มีความห่วงใย

บอร์ด สปสช.เคาะใช้งบ 1,020 ล้าน

ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เวลา 14.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) หรือบอร์ดบัตรทอง กล่าวภายหลังประชุมบอร์ด สปสช.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง พร้อมอนุมัติหลักการให้ใช้เงินกองทุน รายการรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสมจำนวนไม่เกิน 1,020 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเบิกจ่ายในกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 ของหน่วยบริการ และในวันที่ 3 มี.ค. 2563 จะเสนอคณะรัฐมนตรี ในการของบประมาณกลางปี มาใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคนี้ด้วย

แจกแจงการขอใช้งบ

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณ สปสช.ที่บอร์ดอนุมัติแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.งบประมาณจำนวน 1,020 ล้านบาท จากส่วนกำไรสะสมที่มีอยู่รวม 4,000 ล้านบาท บอร์ดได้ให้ขยายขอบเขตนำมาใช้เป็นค่ารักษาในกรณีติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ 2.งบค่าเสื่อม ให้ใช้งบนี้ให้สถานพยาบาลต่างๆ นำมาใช้ เพื่อปรับปรุงสถานพยาบาลรองรับโรคอุบัติใหม่ได้ 3.งบกองทุนตำบลที่มีเงินอยู่ 3,000 ล้านบาท เสนอขอเพื่อใช้ดำเนินการในการส่งเสริมป้องกันโรคให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องโรคโควิด-19 และการป้องกันตนเองมากขึ้น อีกทั้งเนื่องจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ในงบประมาณปี 2563 ยังไม่มีการพิจารณาโรคนี้ในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสิทธิบัตรทอง จึงจะมีการเสนอ ครม.ของบกลางปีจำนวน 3,500 ล้านบาทมาใช้เป็นค่ารักษาโรคนี้ในช่วง 7 เดือนที่เหลือของปีงบ 63 ด้วย

ผีน้อยเกาหลีขอกลับไทยเพียบ

ส่วนกรณีที่คนไทยที่พำนักเกินวีซ่าในเกาหลีใต้ เข้ารายงานตัวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นครแทกู แสดงความประสงค์เดินทางกลับไทยเพราะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเกาหลีใต้นั้น นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทางการเกาหลีใต้มีมาตรการให้ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่เกินวีซ่า แสดงความสมัครใจออกนอกประเทศได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.โดยไม่ต้องเสียค่าปรับและไม่มีโทษห้ามกลับเข้าเกาหลีใต้ ขณะนี้เกาหลีใต้ยังไม่มีมาตรการปิดเมืองหรือจำกัดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ที่แพร่ระบาด คนไทยที่จะเดินทางกลับไทยเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน ไปติดต่อกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในเขตที่พักอาศัยได้ทันที จะใช้เวลา 3-15 วัน ในการออกเอกสารยืนยันการออกนอกประเทศ

แห่ไปรายงานตัวแล้ว 5 พันคน

นายเชิดเกียรติกล่าวต่อว่า เกาหลีใต้ยืนยันว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทุกรายจะได้รับการรักษาตามมาตรฐานในสถานพยาบาลที่ทางรัฐกำหนด รัฐบาลเกาหลีใต้จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่พำนักในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมายหรือไม่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ยืนยันว่าผู้ป่วยทุกคนจะไม่ถูกจับกุม ไม่ถูกส่งตัวกลับ หากไม่สมัครใจ สถานเอกอัครราชทูตสอบถามสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทราบว่านับแต่เดือน ธ.ค.2562-1 มี.ค.2563 มีคนไทยไปรายงานตัวแล้วกว่า 5,000 คน ส่วนเฉพาะที่นครแทกู สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ข้อมูลว่ามีคนไทยรายงานตัวรวมจำนวน 136 คน คนไทยที่เดินทางกลับประเทศไทย จะต้องผ่านมาตรการคัดกรองของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และกักตัวเพื่อดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

ตั้งกลุ่มไลน์ประสานคนไทยในพื้นที่

อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ตั้งกลุ่มไลน์ แจ้งข่าวสาร สอบถามความเป็นอยู่ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางขอรับคำปรึกษาด้านสุขภาพกับหน่วยงานของเกาหลีใต้ ในกลุ่มไลน์นี้มีคนไทยในพื้นที่ระบาดสูง จ.คยองซัง-เหนือ (รวมนครแดกู) เข้าร่วมประมาณ 270 คน มีผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงสาธารณสุขของไทย ให้คำแนะนำในกลุ่มดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้ติดตามความเป็นอยู่ของชาวไทยในพื้นที่นี้ กับตัวแทนเครือข่ายคนไทยอย่างใกล้ชิด ทุกคนยังคงใช้ชีวิตตามแนวทางของรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยหลีกเลี่ยงที่ชุมชนและการเดินทางโดยไม่จำเป็น สถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังจัดส่งหน้ากากอนามัย ให้กับคนไทยในพื้นที่ที่ประสบปัญหาในการหาซื้อด้วย หากคนไทยในเกาหลีใต้มีเหตุเร่งด่วน ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลข +82-106747 0095 รวมทั้งติดตามข่าวและประกาศของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทาง Facebook: “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล Royal Thai Embassy, Seoul

ผ่านสนามบินไทยต้องคัดกรองหมด

วันเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้ ต้องการเดินทางกลับประเทศไทยว่า แรงงานกลุ่มนี้ที่ติดต่อมอบตัวกับ ตม.เกาหลีใต้ จะถูกส่งกลับมาในฐานะผู้ส่งกลับ มีจำนวนเท่าใดยังไม่ทราบแน่ชัด ส่วนการตรวจคนเข้าเมือง ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข มีการแยกโซน หลุมจอด เฉพาะอยู่แล้ว ไม่ให้ปะปนกับผู้โดยสารอื่นๆ ส่วนกลุ่มที่จะถูกส่งกลับมาจากเกาหลีใต้ มีการแยกโซนไว้เฉพาะเช่นกัน เมื่อเดินทางมาถึงไทย ต้องผ่านการตรวจคัดกรอง จัดทำประวัติโดยละเอียด หากพบอาการจะถูกส่งต่อไปยังสถาบันบำราศนราดูรทันที หากไม่มีก็ให้กลับไปพัก ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ พร้อมให้รายละเอียดหนังสือคู่มือการเก็บตัวภายในที่พักอาศัย 14 วัน การเฝ้าดูอาการตัวเอง ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ได้เรียกประชุมหัวหน้าด่าน ตม.ทุกด่านทั่วประเทศ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติงาน โดยให้ระมัดระวังตัวเองด้วย

วิษณุชี้ชะตาผีน้อยขึ้นอยู่กับเกาหลี

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ต้องการเดินทางกลับไทย หนีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง การเข้าประเทศไทยปัญหาอยู่ที่จะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศเกาหลีใต้ได้หรือไม่ ส่วนกลับมาแล้วจะถูกดำเนินคดีในประเทศไทยหรือไม่ ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง ขณะนี้เกาหลียังไม่ให้ใครออกนอกประเทศโดยไม่จำเป็น เช่นเดียวกับไทยที่ไม่อยากให้ใครออกนอกประเทศโดยไม่จำเป็นเช่นกัน เมื่อถามว่ารัฐบาลไม่สามารถช่วยแรงงานผิดกฎหมายเหล่านั้นได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ถ้าเริ่มต้นเข้าไปโดยผิดกฎหมายก็เสี่ยงหลายอย่าง เมื่อมีการแพร่ระบาดต้องดูว่าทางเกาหลีจะเอาผิดหรือมีโทษอย่างไร

ผบ.ทอ.สั่งทุกกองบินเตรียมที่รองรับ

พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือการแพร่ระบาด ไวรัสโควิด-19 ระยะที่ 3 ว่า เบื้องต้นต้องดำเนินการตามประกาศของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังมีกฎหมายใหม่ออกมาและประกาศบังคับใช้ หากสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 ให้ทุกกองบินจัดสถานที่เฝ้าระวังและสังเกตอาการของผู้มีความเสี่ยงจะติดเชื้อ ในทุกกองบินยังมีโรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่วนกลาง กำลังพลของกองทัพอากาศได้เน้นย้ำมาตั้งแต่แพร่ระบาดช่วงเริ่มต้น ขณะนี้หน้ากากอนามัยขาดแคลน ได้ให้กำลังพลของ ทอ.ใส่เฉพาะบุคคลที่จำเป็นเท่านั้น ภารกิจกองทัพเช่นการฝึกแลกเปลี่ยน จะมีการคัดกรองเข้มข้นก่อนเข้ามาสู่ประเทศไทย จะตรวจเช็กอาการตลอดช่วงเวลาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย พร้อมสั่งการให้กำลังพลงดภารกิจไปต่างประเทศทั้งหมด

เผยเหตุหน้ากากอนามัยขาด

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์หน้ากากอนามัยในขณะนี้ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้หน้ากากอนามัยในประเทศขาดแคลน เป็นเพราะความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าของกำลังการผลิต ที่ผลิตได้ประมาณวันละ 1.35 ล้านชิ้น เกิดจากประชาชนตื่นตระหนกในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงขอให้อย่าตื่นตระหนกมากเกินไป ซื้อหน้ากากอนามัยใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อให้ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ก่อนได้ใช้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ขณะนี้มีโรงงานผลิตทั้งหมด 11 แห่ง มีกำลังการผลิตวันละ 1.35 ล้านชิ้น เดินเครื่องผลิตตลอด 24 ชั่วโมง หยุดงานเพียง 1 วัน จากเดิมที่ยังไม่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องการใช้เพียงเดือนละ 30 ล้านชิ้น ที่ผ่านมา มีการนำเข้าเดือนละ 20 ล้านชิ้น แต่ปัจจุบันไม่ได้นำเข้าเลย เพราะประเทศผู้ส่งออกอย่างจีนห้ามการส่งออกโดยเด็ดขาด

กำลังกระจายทั่วประเทศ

อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวต่อว่า กระทรวงพาณิชย์ขอปันส่วนแบ่งการผลิตจากโรงงานมาวันละ 600,000 ชิ้น มาไว้ที่ศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยของกระทรวง เพื่อกระจายผ่านองค์การเภสัชกรรมไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ วันละ 200,000 ชิ้น ผู้ผลิตส่งให้โรงพยาบาลโดยตรงอีกวันละ 150,000 ชิ้น รวม 350,000 ชิ้น ให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) วันละ 18,000 ชิ้น, สมาคมร้านขายยา วันละ 25,000 ชิ้น เพื่อส่งต่อ ไปให้ร้านขายยาสมาชิก 3,000 แห่งทั่วประเทศ ที่เหลือกระจายผ่านร้านธงฟ้าทั่วประเทศกว่า 1,400 แห่ง รวมถึงร้านสะดวกซื้อต่างๆ โดยจำกัดการซื้อไม่เกินคนละ 4 ชิ้นเช่นกัน ส่วนผู้ค้าหน้ากากอนามัยที่ขายราคาสูงเกินจริง กำลังหาช่องทางเอาผิดตามกฎหมาย ขอความร่วมมือให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1569 โดยต้องมีรายละเอียดให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อให้ทำงานได้ง่ายขึ้น

มท.จ่อชง ครม.ขอ 250 ล. ผลิตแมสก์

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม กังวลปัญหาหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน กำชับกระทรวงพาณิชย์กระจายสินค้า หน้ากากอนามัยให้ทั่วถึง ขณะที่ประชุมแนวทางบริหารจัดการหน้ากากอนามัย รัฐบาลได้เชิญผู้ผลิตกว่า 10 โรงงานมาร่วมหารือเพื่อขอให้เพิ่มกำลังการผลิต จากเดือนละ 30 ล้านชิ้น เป็นเดือนละ 35-40 ล้านชิ้น ถ้าเป็นไปได้ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เตรียมขออนุมัติงบกลาง ในที่ประชุม ครม. วันที่ 3 มี.ค. วงเงิน 250 ล้านบาท เพื่อให้ท้องถิ่นช่วยผลิตหน้ากากอนามัย และสั่งเคร่งครัดดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กักตุน และขายเกินราคา

เดอะมอลล์แจงไม่มี พนง.ติดเชื้อ

วันเดียวกัน เดอะมอลล์กรุ๊ป ชี้แจงเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องมีพนักงานขายของห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง พนักงาน เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการทั้งในศูนย์การค้า ในห้างเดอะมอลล์และในเครือทุกสาขา มีการตรวจคัดกรองและวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนก่อนเข้าพื้นที่ทุกวัน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่และพนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยในจุดให้บริการใกล้ชิดลูกค้า หากพบว่ามีอุณหภูมิร่างกายสูง หรือมีการเข้าข่ายเป็นโรคหวัดให้พบแพทย์ทันที และหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการข้อบังคับของกระทรวงสาธารณสุข จึงขอความร่วมมือทุกท่านในการคัดกรองข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ และโปรดระมัดระวังในการเผยแพร่ ส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความ จริง ที่จะสร้างความเข้าใจผิดในสังคม หากพบผู้ มีเจตนาส่งต่อและเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงดังกล่าว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ยอดเสียชีวิตรวมทะลุ 3,000

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานถึงสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดลุกลามเป็นวงกว้างในภูมิภาคต่างๆ โดยระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตใน 68 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ได้เพิ่มเป็น 3,044 คน ยืนยันการติดเชื้อมากกว่า 89,000 คน ในจำนวนนี้ เป็นการพบผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีน 131 คน ติดเชื้อนอกประเทศจีน 8,980 คน ถือเป็น การตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก 1 วันก่อนหน้า 547 คน

สั่งประหารหนุ่มจีนแทง จนท.

ขณะที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนระบุว่า ผู้เสียชีวิตในจีนอยู่ที่ 2,912 คน ติดเชื้อ 80,026 คน วันเดียวกันนี้ มีรายงานว่า ศาลมณฑลยูนนาน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ได้ตัดสินประหารชีวิตนายหม่า เจียนกัว ชายชาวจีนวัย 23 ปี หลังก่อเหตุเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ใช้มีดแทงเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกสั่งหยุดรถ เรียกตรวจร่างกายที่ด่านกักกันเชื้อ

ธุรกิจจีนพยายามปรับตัว

ส่วนสื่อท้องถิ่นจีนรายงานว่า เครือธุรกิจยักษ์ใหญ่ในจีน อย่างบริษัทน้ำมันซิโนเปก ได้ออกมาตรการช่วยชาวนาท้องถิ่นให้นำพืชผักมาฝากขาย กับบริษัทผ่านแอปพลิเคชันมือถือ และจะส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าสั่งของเวลาขับรถเข้าไปเติมน้ำมันในปั๊ม 6,000 แห่งทั่วประเทศ บริษัทเมงนิว เดียรี ผู้ผลิตนมอันดับที่สองของประเทศ ได้เพิ่มการติดตั้งตู้รับสินค้าแก่ลูกค้าที่สั่งของทางออนไลน์ พร้อมรับการสั่งซื้อของแบบค้าส่งแก่ชุมชน หรืออาคารพักอาศัย เพื่อที่ชาวบ้านจะได้ไม่ต้องออกเดินทางไปไหน ขณะที่บริษัทลัคอิน คอฟฟี่ คู่แข่งของสตาร์บัคส์ในจีน ได้ตัดสินใจจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์ล้างมือและสบู่ฆ่าเชื้อ

ตั้งข้อหากลุ่มศาสนาเกาหลีใต้

สำหรับสถานการณ์ในเกาหลีใต้ ที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังรุนแรง กระทรวงสาธารณสุขได้ยืนยันพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 26 คนติดเชื้อ 4,212 คน ถือว่าเพิ่มจากวันก่อน 476 คน พร้อมมีคำสั่งขยายกำหนดเวลาการเปิดภาคเรียน ไปเป็นวันที่ 23 มี.ค. ขณะที่สำนักงานอัยการเกาหลีใต้ สั่งฟ้องนายอี มัน-ฮี ผู้นำกลุ่มศาสนาชินชอนจี พร้อมแกนนำอีก 11 คนหลายข้อหา รวมถึงข้อหาละเมิดพ.ร.บ.โรคติดต่อและข้อหาฆาตกรรม ฐานไม่ให้ความร่วมมือในการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต่อมานายมัน-ฮี ออกแถลงการณ์คุกเข่าขอโทษต่อสาธารณชน จากกรณีที่มีสมาชิกกลุ่ม มีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในประเทศเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในเมืองแทกู ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้

อิเหนาพบติดเชื้อครั้งแรก

ขณะที่นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ออกแถลงยืนยันการพบผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรกของประเทศ เป็นหญิงแม่ลูกวัย 64 ปี และวัย 31 ปีอาศัยอยู่ในเมืองเดปอก ชานกรุงจาการ์ตา ได้รับเชื้อ มาจากเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในมาเลเซีย ช่วงวันที่ 14 ก.พ. ขณะที่การตรวจสอบผู้พักอาศัยในอาคารเดียวกันอีก 2 คน ไม่พบว่าติดเชื้อไวรัส แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ทางการจัดตั้งทีมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้น

ออสซีเจอติดเชื้อในประเทศรายแรก

ส่วนที่ออสเตรเลีย หน่วยงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คน เป็นแพทย์วัย 31 ปี ถือเป็นกรณีแรกของการติดเชื้อในประเทศ และยังไม่ชัดเจนว่าได้รับเชื้อมาจากไหน ขณะที่อีกรายเป็นหญิงวัย 41 ปี ที่น้องชายเพิ่งเดินทางกลับมาจาก อิหร่าน หนึ่งในจุดการแพร่ระบาดหลักในภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่งผลให้ยอดการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 24 คน วันก่อนมีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นชาวออสเตรเลีย ผู้โดยสารจากเรือสำราญไดมอนด์ ปรินเซสส์ ที่ญี่ปุ่น

ที่ปรึกษาผู้นำอิหร่านเสียชีวิต

ด้านสื่อรัฐบาลอิหร่านประกาศยืนยันว่า นายโมฮัมหมัด มีร์โมฮัมมาดี วัย 71 ปี ที่ปรึกษาของอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างอยาตุลเลาะห์ กับรัฐสภาอิหร่าน ได้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังคงลุกลาม พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 1,501 คน เสียชีวิต 66 คน สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขต่างแสดงความกังวล เพราะมีความเป็นไปได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจริงอาจสูงมากกว่านี้ เพราะยอดผู้เสียชีวิตและยอดผู้ติดเชื้อในอิหร่านไม่สมดุลกันเหมือนประเทศอื่นๆ

อิตาลี–เยอรมนียอดพุ่ง

สำหรับสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ในยุโรป อิตาลี ซึ่งมีการแพร่ระบาดสูงสุดในภูมิภาค ได้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 1,694 คน ถือเป็นเกือบเท่าตัวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เสียชีวิต 34 คน ทำให้สายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ส อเมริกัน แอร์ไลน์ส ของสหรัฐฯ ประกาศระงับเที่ยวบินบางส่วน สู่เมืองมิลาน ในแคว้นลอมบาร์ดี ขณะที่รัฐบาลเวียดนาม ประกาศระงับการออกวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี ส่วนกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนียืนยันยอดผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ที่ 150 คน เพิ่มจากวันก่อน 21 คน และที่โปรตุเกสมีรายงานพบผู้ติดเชื้อ 2 คนแรก ของประเทศ

ฝรั่งเศสปิดลูฟวร์–อังกฤษเตรียมคุม

ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานด้วยว่า พิพิธภัณฑ์ “ลูฟวร์” แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในกรุงปารีส ได้ปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. เนื่องจากพนักงานลูฟวร์กังวลต่อสถานการณ์ไวรัสที่แพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 130 คน เสียชีวิต 2 คน ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อยู่ระหว่างพิจารณามาตรการปิดโรงเรียน และงดจัดกิจกรรมในที่สาธารณะ หากมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างก็เตรียมที่จะขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ปลดเกษียณให้กลับมาทำงานอีกครั้ง

ยุโรปเตือนภัยระดับสูง

นางเออร์ซูลา วอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ได้ออกแถลงการณ์ว่า สำนักงานควบคุมโรคแห่งสหภาพยุโรปได้ตัดสินใจเพิ่มระดับการเตือนภัยในภูมิภาค จากระดับปานกลางเป็นระดับสูง เนื่องจากไวรัสยังคงแพร่ระบาดอย่าง ต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทไนกี้ ผู้ผลิตสินค้ากีฬาชื่อดังของสหรัฐฯได้ประกาศปิดสำนักงานใหญ่ภูมิภาคยุโรป ที่เนเธอร์แลนด์ เป็นการชั่วคราว หลังพบพนักงานติดเชื้อ

สหรัฐฯตายอีกราย–พบที่นิวยอร์ก

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ หรือซีดีซี รายงานการตรวจพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เป็นรายที่ 2 ของประเทศ เป็นชายชาวอเมริกันวัย 70 ปี ในรัฐวอชิงตัน ทั้งมีการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในนครนิวยอร์ก ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯเพิ่มเป็น 80 คน ขณะที่นายอเล็กซ์ อาซาร์ รมว.สาธารณสุขสหรัฐฯ เชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้น แต่ขอให้ชาวอเมริกันรับรู้ว่า ความเสี่ยงยังคงอยู่ในระดับต่ำ และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะแสดงอาการป่วยเล็กน้อยถึงปานกลาง

WHO จี้ตุนเครื่องช่วยหายใจ

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกแถลงการณ์วันเดียวกัน เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ตุนเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากการบำบัดด้วยออกซิเจน ถือเป็นหนึ่งในวิธีช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการป่วยรุนแรงจากเชื้อโควิด-19 พร้อมย้ำข้อมูลว่า อัตราการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสตัวนี้อยู่ที่ 2-5 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีอายุมากกว่า 60 ปี และคนที่มีอาการป่วยจากโรคอื่นอยู่ก่อนหน้านี้ และอย่างที่ประเทศจีน การตรวจสอบผู้ติดเชื้อ 45,000 คน นับตั้งแต่เริ่มการแพร่ระบาดจนถึงวันที่ 24 ก.พ. พบว่า คนอายุต่ำกว่า 20 ปี มีเพียง 2.1 เปอร์เซ็นต์

นักลงทุนถอยทัพจากเอเชีย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติถอนเม็ดเงินการลงทุนในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่อินโดนีเซียมีการขายพันธบัตรรัฐบาลทิ้งรวมกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกาหลีใต้มีการขายหุ้นทิ้ง 3,000 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับมาเลเซีย 300 ล้านดอลลาร์ ไต้หวัน 3,140 ล้านดอลลาร์ ไทย 572 ล้านดอลลาร์ ขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของชาติกลุ่มประเทศพัฒนา หรือโออีซีดี ประกาศเตือนว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ อาจอยู่ที่ 2.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่เหตุวิกฤติการเงินโลกปี 2551