คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค เตือนซื้อ "เชฟโรเลต" ช่วงโปรไฟไหม้ ลด 50% พร้อมเรียกร้องบริษัท 4 ข้อ ดูแลลูกค้าหลังการขาย

จากกรณี "เชฟโรเลต" จัดโปรโมชั่นลดราคาสูงสุด 50% ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.-31 ธ.ค.63 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ในรุ่น เชฟโรเลต แคปติวา, โคโลราโด และ เทรลเบลเซอร์ หลังประกาศยุติการผลิต-ขายในประเทศไทย ภายในปี 2563 ซึ่งหลายศูนย์แจ้งปิดการรับจองไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) โดยหลังจากนั้นก็มีคนหัวใสมาโพสต์ประกาศขายใบจองรถในราคา 60,000-100,000 บาท ระบุว่า เป็นการจองซื้อเงินสดเป็นคนแรกๆ และมีโอกาสได้รถอย่างแน่นอน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมา เฟซบุ๊ก "มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า คอบช. และ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เตือนผู้บริโภคระวัง 'โปรไฟไหม้' พร้อมเรียกร้อง สคบ. และบริษัทรถยนต์รับผิดชอบลูกค้าเดิมที่ยังไม่หมดสัญญาประกัน

โดย นายไพบูลย์ ช่วงทอง ประธานคณะอนุกรรมการสินค้าและบริการ ของคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค (คอบช.) กล่าวว่า คอบช. และ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค อยากฝากเตือนผู้บริโภคให้ระวังการซื้อรถยนต์ในช่วงการส่งเสริมการขายที่นำรถยนต์ที่คงค้างอยู่ในคลังสินค้า เนื่องจากเสี่ยงในเรื่องการรับประกันหลังการขาย ที่อาจจะเป็นไปได้ยากขึ้น ทั้งเรื่องศูนย์บริการ อะไหล่ การรับประกันคุณภาพ เป็นต้น

เนื่องจากผู้ประกอบการได้ประกาศยุติการผลิต การจำหน่าย และการดำเนินธุรกิจในประเทศทั้งหมด หากเกิดการชำรุดบกพร่อง และเกิดการฟ้องร้องคดี ที่ผู้บริโภคชนะ ก็จะได้รับเพียงแค่คำพิพากษา ไม่สามารถบังคับคดีได้ และหาทรัพย์จำเลยไม่เจอ

...

ดังนั้น คณะอนุกรรมการสินค้าและบริการ (คอบช.) จึงมีข้อเรียกร้องต่อหน่วยงานและบริษัท ดังนี้ 1. ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จัดทำบันทึกข้อตกลงความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงให้วางเงินประกันหากสินค้าเกิดชำรุดบกพร่อง ตามปริมาณรถและรายได้ที่จำหน่ายไปแล้ว โดยที่รถยนต์ยังอยู่ในสัญญาประกัน

2. บริษัทจะต้องสนับสนุนให้มีตัวแทนผู้รับผิดชอบและบริการหลังการขาย หลังบริษัทได้ยุติการประกอบการอย่างถาวรอย่างน้อย 4 ปี เพื่อรับผิดชอบต่อสินค้าของบริษัท

3. เร่งให้ผู้บริโภคที่เพิ่งจัดทำสัญญาซื้อขายที่อยู่ในระยะเวลาประกัน ดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับผิดชอบสัญญารับประกันคุณภาพสินค้า ตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ ส่วนรถยนต์ที่ซื้อในช่วงโปรไฟไหม้ ควรมีการรับประกันที่ชัดเจน อย่างน้อย 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เป็นต้น

และ 4. ขอให้ชี้แจงนโยบายการดูแลผู้บริโภค ในระยะเวลาการรับประกัน ก่อนยุติการผลิตและยุติการจัดจำหน่ายในประเทศไทย

ที่มาจาก : เฟซบุ๊ก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

ภาพ : เฟซบุ๊ก Chevrolet