สวดมนต์ข้ามปี
กิจกรรมในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต่อเนื่องถึงรุ่งเช้าของวันขึ้นปีใหม่ ที่คณะสงฆ์ โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศฯริเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2548
เพื่อหวังให้เป็นกิจกรรมที่ดึงคนออกจากอบายมุขในช่วงคืนข้ามจากปีเก่าและก้าวเข้าสู่ปีใหม่ จากที่ผู้คนมักนิยมไปเฉลิมฉลองตามสถานที่ต่างๆให้หันกลับมาเข้าวัดสวดมนต์แทน เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
หลังจากนั้นเป็นต้นมากิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีก็ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยคณะสงฆ์ ที่สำคัญภาครัฐและเอกชนหลายแห่งให้ความสนใจเข้ามาร่วมจัดกิจกรรมนี้มากขึ้น จนทำให้จำนวนผู้เข้าร่วมสวดมนต์ในคืนข้ามปี 2561 จากวัดไทยทั่วโลก มีจำนวนมากถึง 21,964,312 คน
สำหรับการสวดมนต์ข้ามปีในคืนส่งท้ายปี 2562 นี้ มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้วัดทั่วประเทศ และวัดไทยในต่างประเทศทั่วโลกจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.2562 ต่อเนื่องถึงเช้าวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 ม.ค.2563 โดยส่วนกลางมีศูนย์กลางการจัดกิจกรรมที่ พุทธมณฑล จ.นครปฐม และที่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ส่วนภูมิภาคให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ร่วมกับเจ้าคณะจังหวัด ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเลือกวัดที่มีความเหมาะสมเป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรม
...
ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้คือ “พิธีสวดมนต์พุทธวิถี เสริมบารมีเริ่มสิ่งดีรับปีใหม่ 2563” บริเวณลานรอบองค์พระประธานพุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งจะจัดขึ้นก่อนในวันที่ 30 ธ.ค. เวลา 17.19 น. โดยจะมีการนิมนต์พระเกจิ พระเถราจารย์ จากทั่วประเทศจำนวนถึง 76 รูป มาทำพิธี “สืบดวงชะตาเสริมบารมี” ให้กับผู้ที่เข้าร่วมพิธี โดยมีพระเกจิแถวหน้าของเมืองไทย คือ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) หรือ “สมเด็จธงชัย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และหลังจากเสร็จพิธีจะได้รับ น้ำพระพุทธมนต์จากสระน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์โบราณ วัดหงส์รัตนาราม กรุงเทพฯ กลับไปเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย
ขณะที่ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เตรียมจัดกิจกรรม “ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลถึงประชาชนโดยกระทรวง วัฒนธรรม มอบความสุขแบบวิถีไทย ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2563” เพื่อส่งมอบความสุขในด้านมิติศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่ประชาชน โดยมีกิจกรรมสำคัญ คือ สวดมนต์ข้ามปีถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย วันที่ 31 ธ.ค.2562-1 ม.ค.2563 ที่วัดและศาสนสถานทั่วประเทศ โดย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานไฟพระฤกษ์ให้กับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อนำไปประกอบพิธีในแต่ละจังหวัดด้วย
กิจกรรมไหว้พระรับสิริมงคล “ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล” วันที่ 28 ธ.ค.2562-1 ม.ค.2563 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. มีรถบริการรับ-ส่งฟรี ประกอบด้วย 1.วัด ราชโอรสาราม 2.วัดอรุณราชวราราม 3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 4.วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม 5.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 6. วัดสุทัศนเทพวราราม 7.วัดบวรนิเวศวิหาร 8. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม 9.วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก และ 10.วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร (วัดทุ่งสาธิต)
นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมสักการะพระพุทธรูปสำคัญที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรมศิลปากรเตรียมอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ให้ประชาชนสักการะ ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.2562–5 ม.ค.2563 ประกอบด้วย พระพุทธสิหิงค์ ศิลปะสุโขทัย-ล้านนา ปลายพุทธศตวรรษที่ 20–21 พระ-พุทธรูปประทานอภัย ศิลปะอินเดีย แบบคันธาระ พุทธศตวรรษที่ 6–9 พระอมิตาภพุทธเจ้า (พระอมิดะเนียวไร) ศิลปะญี่ปุ่น สมัยคามากุระ พ.ศ.1728–1879 พระพุทธรูปสมาธิ ศิลปะลังกา สมัยโปลนนารุวะ พุทธศตวรรษที่ 18–20 พระพุทธศากยมุนี (เซ็กเกียมอนี้ฮุด) ศิลปะจีน สมัยราชวงศ์หมิง พ.ศ.1911–2187 พระพุทธรูปทรงเครื่องมารวิชัย ศิลปะพม่า สมัยนยองยาน พุทธศตวรรษที่ 22–23 พระพุทธรูปมารวิชัย ศิลปะลาว พุทธศตวรรษที่ 22–23 พระพุทธศากยมุนี ศิลปะเวียดนามเหนือ สมัยราชวงศ์หลีตอนปลาย พุทธศตวรรษที่ 20–24 พระพุทธรูปมารวิชัย ศิลปะพม่า สมัยมัณฑะเลย์ ต้นพุทธศตวรรษที่ 25 และพระพุทธรูปทรงเครื่องมารวิชัย ศิลปะช่างเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา กลางพุทธศตวรรษที่ 25
“ทีมข่าวศาสนา” ขอใช้โอกาสในช่วงสัปดาห์ส่งท้ายปี 2562 เชิญชวนชาวไทยทั้งที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ในวัดหรือศาสนสถานใกล้บ้าน
เพราะนอกจากจะได้เข้าร่วมกิจกรรมดีๆส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงแล้ว การเข้าวัดสวดมนต์ในคืนข้ามปี ยังช่วยให้ห่างไกลอบายมุขตามสถานบันเทิงที่ต่างพากันจัดกิจกรรมรื่นเริงกันอย่างครึกโครมด้วย
ที่สำคัญที่สุดคือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคล พร้อมจิตใจที่ผ่องใสอย่างแท้จริง...
ทีมข่าวศาสนา