จากใจคนขายประกัน พนักงานตั้งกระทู้แนะนำวิธีปฎิเสธ "คนโทรมาขายประกัน" แต่กลายเป็นดราม่าเล็กๆ

สมาชิกหมายเลข 1989828 ได้ตั้งกระทู้ จากใจพนักงานขายประกันทางโทรศัพท์ พร้อมระบุว่า วันนี้มีเรื่องจะมาบอกกล่าวให้ทุกคนได้รับทราบถึงปัญหาของพวกเรา ชาวพนักงานขายประกันทางโทรศัพท์ พวกเราทุกคนเข้าใจว่าบางทีเราโทรไปรบกวนเวลาของคุณลูกค้าทุกๆ ท่านเลย

หากถามว่าเราอยากโทรไปรบกวนไหม ตอบได้เลยว่า ไม่ แต่เราทำงานอยู่ตรงนี้ นั่งอยู่หน้าโทรศัพท์ ก็จะมีหัวหน้าคอยจี้ว่า อ้าว ยกหูเร็ว ต่อสายกันหน่อย ซึ่งเราก็ไม่มีทางเลือกอะไรไปมากกว่าการต่อสายโทรไปหาลูกค้า บางทีเจอด่าบ้าง บางทีคุยดี บางทีวางหูใส่ดื้อๆ เลย

วันนี้เรื่องที่จะมาบอกกล่าวก็คือ เวลาปฏิเสธเรา อย่าใช้คำว่า ไม่สะดวกค่ะ ไม่ว่างครับ ติดต่อใหม่ตอนโน้นตอนนี้ บอกไว้เลยว่าความปั่นป่วนจะเกิดขึ้นกับชีวิตท่านแน่นอน เพราะทุกเสียงสนทนาเขาบันทึกเสียงไว้ หัวหน้านำไปฟัง ก็จะบังคับให้โทรกลับไปหาอยู่ดี วิธีปฏิเสธเราง่ายๆ เลยครับ บอกว่า "เราไม่ต้องการซื้อประกัน กรุณานำเบอร์ของเราออกจากบริษัทด้วยง่ายๆ เท่านี้เลยครับ จะไม่มีใครโทรไปรบกวนท่านอีกเลย"

ขออนุญาตเพิ่มเติมนะครับ
- ที่ผมมาตั้งกระทู้เพื่อเป็นการแจ้งว่าวิธีที่ปฏิเสธบริษัทประกัน ผมเข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้ทางเราโทรไปหาหรอกครับ แต่ถ้าเกิดมีโทรมาแล้วเลี่ยงไม่ได้ล่ะ ควรทำอย่างไร
- ที่มาตั้งกระทู้ผมไม่ได้มาขอความเห็นใจจากใครอย่างที่หลายคนว่าเข้ามาครับ ผมมาเรียนแจ้งวิธีการปฏิเสธเฉยๆ แต่ต้องขอขอบคุณคนที่เห็นใจและเข้าใจผมมากๆ เลยนะครับ

...

สุดท้ายแล้วผมต้องขออภัย และจะนำกลับไปปรับปรุง หรือไปปรึกษากับที่บริษัทเพื่อให้การให้บริการในจุดนี้ดีขึ้นนะครับ ไม่รู้จะได้ผลไหมนะครับ เพราะเสียงผมคนเดียวคงดังไม่พอ

ป.ล. ผมชอบงานนี้นะครับ เพราะบางทีโทรไปเจอคนแก่อยู่บ้านคนเดียว แล้วเวลาแกคุยรู้สึกเหมือนทีความสุขมากที่มีคนโทรมาหา มาคุยบ้าง อยากบอกทุกคนให้โทรกลับไปหาคนแก่ที่บ้านบ้างนะครับ แกน่าจะเหงา

ทั้งนี้ มีชาวพันทิปล็อกอินเข้าไปตอบกระทู้ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และกระทู้ดังกล่าวก็ได้รับความสนใจในโลกโซเชียล

สมาชิกล็อกอิน แปลว่ายังมีลมหายใจอยู่ไง : จากใจลูกค้านะครับ 1. ลูกค้าไม่ได้บังคับให้คุณทำอาชีพนี้ คุณสมัครใจทำเอง 2. ไม่สะดวก ไม่ว่าง ใครอนุญาตให้บันทึกเสียงครับ ได้ขออนุญาตลูกค้าหรือยัง หรือคุณทำเองโดยพลการ 3. แล้วไปเอาเบอร์ลูกค้ามาจากไหน 4. ถ้าลูกค้าอยากได้ประกัน เขาจะติดต่อไปเอง ไม่ควรใช้วิธีโทรล่าลูกค้าแบบนี้ และ 5. แล้วขายประกันให้คนแก่นี่ยังเรียกมีจรรยาบรรณอยู่อีกเหรอ ถ้าเผลอตอบตกลงไปคำเดียวคือเสร็จคุณเลยนะ รู้หรือเปล่าสำหรับบางคนนี่คือเงินเหลือก้อนสุดท้ายของชีวิตเขา กี่รายแล้วที่ต้องมาหมดตัวกับอาชีพแบบนี้

- คุณเขียนบนกระทู้ว่าทุกเสียงสนทนาเขาบันทึกไว้ ตอนนี้มาแถว่าบันทึกเสียงพนักงาน
- แล้วอีก 20% ที่เหลือมาจากไหน
- ผมขอยืนยันว่าคนแก่ส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เรื่องประกัน และเสี่ยงถูกหลอกง่ายมาก
คนแก่โดนหลอกขายประกันทางโทรศัพท์ก็เยอะลองไปหาข้อมูลดูบ้างนะ จะได้ไม่เข้าข้างตัวเองขนาดนี้

ป.ล. อาชีพโทรขายประกันถ้าเลิกได้ก็เลิกนะครับ

สมาชิกล็อกอิน บ่าวเวียงจันทน์ถูกต้ม : บอกไม่อยากทำก็โทรมาอยู่ดี บอกว่าทำแล้วก็ยังโทรมาอยู่ดี บอกไม่สะดวกก็ยังโทรมาอยู่ดี วางสายตัดสายก็ยังโทรมาอยู่ดี อันนี้เจอมากับตัว เจอแทบทุกบริษัท ดีที่ยังไม่มีโทรมาตอนกลางคืน ปกติไม่เคยให้เบอร์ใครง่ายๆ ครับ นอกจากธนาคารที่ต้องไปทำธุรกรรม หรือหน่วยงานรัฐที่ต้องไปติดต่องานเอกสารราชการ

สมาชิกหมายเลข 4350165 : จริงๆ ที่เจ้าของกระทู้มาตั้งไว้มีประโยชน์นะ ขอบคุณมากจะลองเอาไปทำดู แต่ก็ต้องยอมรับ ว่าหลายคนมีความรู้สึกไม่ดีกับพนักงานขายประกันทางโทรศัพท์ ขนาดเราเข้าใจ แต่บางทีก็อดหงุดหงิดไม่ได้ เพราะทำงานสำคัญบ้าง ประชุมอยู่บ้าง บางทีใช้จีพีเอสอยู่บ้างพนักงานประกันโทรมารับสาย หลงทาง ขับผิดก็มีบ้าง

ส่วนเรื่องข้อมูลส่วนตัวที่ได้ไป มันผิดที่ระบบ คงต้องไปแก้ที่ต้นเหตุ โวยวายกับพนักงานไปเค้าก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้ามีให้ระบุว่าเปิดเผยเพื่ออะไรได้ไม่ได้ก็ดีนะ เพราะบางเรื่องสนใจ บางเรื่องไม่สนใจ ส่วนเราจะกาไม่เปิดเผย เพราะไม่ได้กู้บ้านกู้รถอะไร เปิดบัญชีเฉยๆ เอ๊ะหรือมาจากบัตรเครดิต ของเราส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทประกันที่ทำประกันการเดินทางโทรมามากกว่า แย่ตรงที่เดินทางบ่อยแล้วเปลี่ยนบริษัทไปเรื่อยๆ ตามลักษณะการเดินทางทริปนั้นเลยเยอะ 

ป.ล.พักหลังมีพนักงานขายคอนโดโทรมาแล้ว บอกว่าเราไปกรอกข้อมูลเอาไว้รึเปล่า งง ไม่เคยกรอก ไม่เคยคิดซื้อ อันนี้ได้มายังไง มึน งง

(คลิกอ่านต้นฉบับ ที่นี่)