ฝั่งทนาย "แพรวา" เผยสั้นๆ ด้าน แม่เหยื่อเสียงเศร้า บอกไม่ขอรับเงิน 5 แสนจากกองทุน บอกเงินจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีค่ามาก ด้าน อ.ปรเมศวร์ แนะวิธีทำให้เรื่องไม่ยืดเยื้อ

จากกรณีอุบัติเหตุสุดสะเทือนขวัญเมื่อปี 2553 ที่ นางสาวแพรวา ขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสาร บริเวณบนทางด่วนโทลล์เวย์ขาเข้า หน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ โดยครอบครัวผู้เสียหายยังไม่ได้รับการเยียวยาทางจิตใจ และการชดเชย ซึ่งต่อมา ราชสกุล "เทพหัสดิน ณ อยุธยา" แถลงข่าวตั้งกองทุนเยียวยาเหยื่อ 

จากนั้นใน รายการ "ถามตรงๆกับจอมขวัญ" มีการพูดคุยกับเหยื่อในคดีนี้ ซึ่งเป็นแม่ของคนขับรถตู้ที่เสียชีวิต และผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น

นายวรัญญู เกตุชู ผู้ได้รับบาดเจ็บ เผยว่า ตนยังไม่ได้คุยกับคนอื่น แต่ความรู้สึกของตน ไม่ได้ออกมา เพื่อตั้งกองทุน เรียกร้อง เยียวยา เหมือนผู้ยากไร้ จริงๆ เอาเงินจำนวนนี้ ไปให้ครอบครัวน้องแพรวา เค้าจะได้เอามาจ่ายเรา จะเป็นประโยชน์มากกว่า

ด้าน แม่ทองพูน แม่ของคนขับรถตู้ เผยว่า แม่เป็นคนที่ด้อยสุดในทั้งหมด 9 คน แต่แม่ก็ไม่ขอรับ เงินจำนวนมากก็จริง แต่ไม่ได้มีค่ามาก ซึ่งต้องคุยกันก่อน แต่ก็คาดว่า จะออกมาในทิศทางเดียวกัน

เมื่อถามว่า หลายวันที่ผ่านมา สังคมช่วยกันทวงถาม เป็นอย่างไรบ้าง คุณแม่ทองพูน เผยว่า ดีใจที่สังคมยังให้ความสนใจกับข่าวที่ผ่านมาแล้วเกือบ 9 ปี ทั้งๆที่เราไม่ได้เจตนาให้เป็นแบบนี้ ตอนนี้มันเหมือนเจ็บทั้งสองฝ่าย เราเองไม่กล้าก้าวก่ายราชสกุล เราทราบดีว่าใครผิดใครถูก คนทำผิด ก็ควรจะออกมาให้เร็วกว่านี้ ถ้าตอนแรกที่ดำเนินคดี เข้ามาหาเราแต่แรก เราก็ไม่บอบช้ำขนาดนี้ แต่ตอนนี้มันนานเกินไป เราต้องใช้สังคมเยียวยาเรา ซึ่งเรายืนยันว่า เราไม่ได้เหมารวมราชสกุลทั้งหมด

...

เมื่อถามถึงขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ระหว่างพิจารณาคดี นายวรัญญู เผยว่า ตนผ่านการไกล่เกลี่ยครั้งเดียว ที่ศาลแพ่ง ซึ่งมีตอนศาลอาญาด้วย แต่ตนไม่ได้ไป เพราะรู้สึกเจ็บปวด ไม่สบายใจ 

ส่วนที่ศาลแพ่ง เพราะเป็นชั้นฎีกาแล้ว ตนจึงไปนัดไกล่เกลี่ย ตนก็คาดว่าจะเจอครอบครัวน้อง เพราะมีคำพูดมากมายที่จะบอกว่า ให้อภัย และไม่ได้โกรธ เนื่องจากอยากปลดล็อกตัวเอง แต่เค้ากลับไม่มา ครอบครัวน้องก็ไม่มา มีแต่ทนาย ซึ่งก็เจอคำพูดของทนาย ที่บอกว่า ถ้าไม่ยอม ก็ไปต่อไม่ได้ ทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจกลับมา หลังจากนั้นตนยังโทรหาทนายเค้า บอกคำพูดที่เราอยากบอกกับเค้า เพราะมันจะได้เหมือนยกภูเขาออกจากอก เดินสวนกันจะได้ไม่ต้องวิ่งหนีกัน ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันก็ได้

ด้าน อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เผยถึงกรณีที่ราชสกุล ถูกดึงมาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะมีการกล่าวอ้าง ขอทุเลาในการบังคับคดี ตั้งแต่ชั้นศาล ซึ่งก็ไม่ควรอ้าง เพราะราชสกุลนี้ เกี่ยวข้องอยู่ 3 คน ไม่ใช่คนทั้งตระกูล และโลกโซเชียลก็ค่อนข้างแรง การอ้างแบบนี้ ไม่รู้ว่าทนายเขียนเองหรือเปล่า หรือราชสกุลรับทราบหรือไม่  ซึ่งตนไม่เคยเจอ เพราะส่วนใหญ่เค้าจะอ้างว่ามีสินทรัพย์อะไรบ้าง ที่ดิน บ้าน แต่ไม่ใช่เอาวงศ์ตระกูลมาชำระหนี้ วงศ์ตระกูลนำมาตีราคาไม่ได้ การทุเลาคือ พร้อมชำระหนี้ ขอทุเลา ต้องอ้างสินทรัพย์ ไม่ใช่อ้างชื่อเสียง ชื่อเสียงชำระหนี้ไม่ได้

ทั้งนี้ วิธีการแก้ปัญหาที่เร็วคือ ต้องไม่บังคับคดี จะได้ไม่ยืดเยื้อ ฝากไปถึง ครอบครัวแพรวา วันนี้ต้องมานั่งคุย โดย อาจจะให้กระทรวงยุติธรรม เข้ามาช่วยให้ทั้งสองฝ่ายมานั่งคุยกันก่อน ว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นโฉนดอย่างเดียว กระเป๋าใบแพงๆ เครื่องเพชร อาจจะต้องสละ นำมากองแล้วหาคนจัดการทรัพย์สิน ถ้าเราขายกองนี้ได้ แบ่งไปตามส่วนให้ผู้เสียหายแต่ละคน เหมือนคดีล้มละลาย 

เพราะหากมีการนำทรัพย์เข้าบังคับคดี จะขายได้ในราคาที่ถูกลง นอกจากนั้นยังต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขายอีก 3% ซึ่งการบังคับคดีมีอายุ 10 ปี ซึ่งตนเชื่อว่าคงไม่ถึงขนาดนั้น ตอนนี้อยากรู้ว่า โฉนดที่ดินดังกล่าว ที่จะขายชำระหนี้ มีการประเมินราคาหรือยัง ราคาครบการชำระหนี้หรือไม่ ถ้าขายได้แน่ๆ ก็จะจบเร็วด้วย

ส่วนการจะให้กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ออกเงินชำระหนี้ให้ก่อน ทำไม่ได้ เพราะเป็นระเบียบ แต่เป็นผู้ช่วยเหลือสามารถทำได้

ทั้งนี้ จอมขวัญ ระบุว่า ทางทีมงานได้ต่อสายถึงทนายความในคดีนี้แล้ว ครั้งแรกปลายสายเป็นผู้หญิงรับ บอกไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีก

ขณะที่ แม่ทองพูน เผยว่า นับตั้งแต่วันนี้ ขอทานน้ำใจ ให้ครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จะได้จบ

ด้าน นายวรัญญู ระบุ การที่แม่น้องแพรวา ออกมาให้สัมภาษณ์ ก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา ถ้าไม่พร้อมเจอก็ไม่เป็นไร แต่อย่าผลักเราไปในทิศทางอื่นเลย.