นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวภายหลังการลงนามข้อตกลงคุณธรรมและการลงนามสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิตระยะ 2 ร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง และบริษัทผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ว่า หลังจากการเซ็นสัญญา อภ.จะส่งมอบพื้นที่ 60 ไร่ ให้แก่บริษัทผู้รับเหมา ก่อสร้าง เพื่อเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตยาที่ใหญ่ที่สุดของไทยในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดทำการผลิตได้ภายในวันที่ 1 มิ.ย. 2565 โดยโรงงานแห่งนี้จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เทคโนโลยีหุ่นยนต์ เทคโนโลยีการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตกับระบบบริหารจัดการ รวมถึงมีระบบคลังอัตโนมัติมาใช้ประมาณ 60% ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะสร้างเสร็จตามกำหนดเนื่องจากมีการทำสัญญาที่รัดกุมเป็นสัญญาเดียวไม่เหมือนการสร้างโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดนก ที่ จ.สระบุรี ที่สร้างนานกว่าที่ตั้งเป้าไว้

ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รอง ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า เมื่อสร้างโรงงานเสร็จจะถือเป็นการยกระดับการผลิต ช่วยให้คนไทยเข้าถึงยาคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม ด้วยกำลังการผลิตยาที่จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ช่วยชาติประหยัดค่าใช้จ่ายด้านยามากกว่าในปัจจุบันที่ประหยัดได้ปีละ 7,500 ล้านบาท และถือเป็นการเสริมศักยภาพด้านอุตสาหกรรมการผลิตยาเพื่อส่งออกในอนาคต ซึ่งการก่อสร้างครั้งนี้ใช้งบก่อสร้าง 5,396 ล้านบาท.