หนุ่มเล่าประสบการณ์ป่วยมะเร็งโพรงจมูก ทั้งที่เข้าฟิตเนส กินคลีน ดูแลตัวเองอย่างดี เผยเริ่มรู้ตัวเพราะมีเม็ดปริศนาขึ้นที่คอ เข้ารับการรักษาจนหายดี หวังสร้างกำลังใจให้คนฮึดสู้...
วันที่ 11 พ.ค.62 เฟซบุ๊ก JI Jiraphat ซึ่งเป็นอดีตผู้ป่วยมะเร็ง โพสต์ภาพและข้อความเล่าประสบการณ์ว่า ตนเองเป็นคนที่ดูแลตัวเอง ชอบฟิตเนสมาก ฟิตทุกวัน วิ่งทุกวัน จนวันหนึ่งมีเจ้าเม็ดปริศนาโตขึ้นที่ข้างคอด้านขวา ล่างติ่งหู โผล่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ก็เลยไปหาหมอ และพบว่าเป็นก้อนเนื้อร้าย ทั้งที่บรรพบุรุษก็ไม่เป็น ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ก็ไม่ได้ทำ หมอก็บอกทุกวันนี้ทางการแพทย์ก็ยังหาสาเหตุจริงๆไม่ได้
"ความรู้สึกตอนนั้น ก็ช็อกอะ เหล้าแทบไม่กิน บุหรี่แทบไม่สูบ ออกกำลังกาย กินคลีน กินดี กลับเป็นมะเร็ง แต่ก็ทำใจ ให้ทำไงอะ เกิดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องรักษา"
ก่อนเริ่มฉายแสงก็เปิดด้วยการเจาะท้องเลย ความคิดในหัวตอนนั้นคิดว่าจะเจาะทำไม เดี๋ยวซิกแพคสวยๆ ต้องมีรอยแผลเป็น ซึ่งหมอก็ให้คำตอบว่าเจาะไปเถอะ เพราะถ้าฉายแสงไปสักพัก มันจะไหม้ แล้วกินอะไรไม่ได้เลยนะ ทีแรกจะไม่เจาะ แต่แม่ขอให้เจาะ เลยเจาะก็ได้
...
หลังรักษาจบยกที่ 1 (ฉายแสงครบ 33 ครั้ง) คอไหม้ กินอะไรทางปากก็ไม่ได้ ต้องกินผ่านที่เจาะท้องไว้ โดยการปั่นอาหารเหลวๆ ใส่สายทางหน้าท้อง ต้องกราบหมอกราบแม่ที่แนะนำให้เจาะตอนนั้น จำได้ว่ามีช่วงหนึ่งคิดว่าจะกระโดดลงไป ห้องอยู่ชั้น 4 แต่ทำไม่ลงเพราะสงสารแม่ หลังจากรักษายกที่ 2 จบ (คีโม3รอบใหญ่) จากรูปแรกๆ ที่กล้ามๆ เหลือแค่นี้ ผอมแบบคนขาดสารอาหาร น้ำหนักจาก 67 กิโลกรัม เหลือ 57 กิโลกรัม
หลังจากให้คีโมครบจบ ก็พักร่างกายอีก 1 เดือน แล้วเริ่มกลับไปฟิตเนส แต่ร่างกายมันช่างมหัศจรรย์ หลังจากใช้เวลาพักและกลับมาเข้าฟิตเนสร่างกายก็เร่ิมดีขึ้น กลับไปใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ซึ่งร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน บางคนฟื้นตัวไว้ บางคนฟื้นตัวช้า อยู่ที่หลายๆ ปัจจัยจริงๆ
เราไม่อยากแค่ให้กำลังใจคนที่กำลังป่วยหรือกำลังรักษาไม่ว่าจะโรคอะไรก็ตาม แต่เราอยากเป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้คนทุกคน ใช้ชีวิตให้มันคุ้มค่าให้มีพลังบวกมากกว่าเดิม รวมไปถึงเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่กำลังท้อไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามให้กลับมาสู้ใหม่
วันนี้ปีนี้ (10 พ.ค 62) ผมตอบกับตัวเองแล้วว่า นี่แหละ คือการก้าวข้ามผ่านข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของเรา และเรา achive มันได้แล้ว หวังว่าเพื่อนๆ ไม่ว่าจะประสบข่าวร้ายหรืออะไรก็ตามที่มันบั่นทอนกำลังใจ ลองเงยหน้าสู้กับมันให้สุด สู้ให้ถึงฝั่ง มันยากมากๆ แต่มันทำได้ 1 ปีที่ชีวิตฉันเปลี่ยนไป...ตลอดกาล
(ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก JI Jiraphat)