ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การบินไทย แจงดราม่าแย่งที่นั่งผู้โดยสาร ยันนักบินไม่ผิดแต่ขาดจิตใต้สำนึก ลั่นถ้าเป็นตัวเองจะเสียสละที่นั่ง เหตุเงินเดือนมาจากค่าตั๋วผู้โดยสาร 


จากกรณี ผู้บริหารการบินไทย แถลงการณ์ขอโทษผู้โดยสาร กรณีเที่ยวบินที่ TG 971 ซูริก-กรุงเทพฯ ดีเลย์ เนื่องจากนักบินไม่ยอมนำเครื่องขึ้น เพราะที่นั่งของนักบินที่จะโดยสารต้องการเดินทาง ไม่ได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาสตามต้องการ ทำให้ผู้โดยสารปกติประมาณ 300 คนต้องรอ สุดท้ายมีผู้โดยสาร 2 คน สามี-ภรรยายอมสละที่นั่งชั้นธุรกิจให้นักบินที่ต้องการเดินทาง เครื่องจึงขึ้นบิน

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ต.ค.61 ที่ บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การบินไทย แถลงข่าวชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ในวันนี้ได้เรียกนักบินทั้ง 4 คน มาสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่าเหตุผลทั้งหมดเกิดจากอะไร เกิดจากปัญหาของอะไร และใครเป็นผู้เสียหายในครั้งนี้ ซึ่งพยายามจะทำให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้

หลังจากเกิดเหตุก็มีกระแสข่าวว่า การบินไทยจะมีการปรับโครงสร้างองค์กรนั้น เรื่องดังกล่าวมีการคุยกันมานานแล้ว เนื่องจากเห็นว่าการบินไทยนั้นใหญ่โต แต่ ขาลีบ จึงเล็งเห็นว่าอาจจะมีการปรับโครงสร้างองค์กร แต่จะ ปรับอย่างไรนั้นยังไม่ได้คุยในรายละเอียด แต่โดยส่วนตัวของตนคิดว่า อยากให้ลดหน่วยงานของการบินไทยให้น้อยลง เพื่อลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน

นายดำรงค์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสิทธิ์พนักงานการบินไทยที่ทุกคนบอกว่ามากเกินไปนั้น สิทธิ์ของพนักงานการบินไทยทั่วไปมีเหมือนกับทุกองค์กรอื่น ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ไม่ได้มีมากหรือน้อยกว่ากัน ซึ่งบางส่วนอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ แต่คนทั่วไปอาจมองว่าสิทธิ์ของการได้รับตั๋วเครื่องบินนั้นดูมากเกินไป แต่ทางองค์กรมองว่า ตั๋วเครื่องบินนั้นเป็นเหมือนขวัญกำลังใจของพนักงานที่ทำงานอย่างหนัก และเป็นสัญลักษณ์ถึงความจงรักภักดีที่มีต่อองค์กรด้วย

...

ทั้งนี้ ตั๋วที่ทางพนักงานการบินไทยจะได้รับเป็นตั๋วที่ไม่แน่ใจว่าจะเดินทางหรือไม่ เพราะจะต้องมีที่นั่งว่าง ถึงจะได้เดินทาง ส่วนค่าอาหารและค่าภาษีสนามบินพนักงานก็ต้องเป็นคนจ่าย ตนมองว่ามันค่อนข้างลำบาก เหมือนพนักงานเป็นขอทานที่ต้องนั่งรอตั๋วว่าจะมีที่ว่างสามารถไปหรือไม่

ในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นการบินไทยให้สิทธิ์ที่นั่งนักบินในชั้นเฟิร์สคลาส หากนักบินที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นเหมือนผู้โดยสารทั่วไป มีสิทธิ์ที่จะได้นั่งในชั้นเฟิร์สคลาส หรือชั้นธุรกิจ แต่หากนักบินที่ต้องทำหน้าที่บิน จะมีนั่งในชั้นเฟิร์สคลาส ตามที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ โดยในสายการบินอื่นๆ ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน เนื่องจากนักบินจะต้องได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่เพื่อที่จะขึ้นเที่ยวบินต่อไป หากร่างกายไม่พร้อมจะมีผลต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

และตามข้อมูลที่ทราบ ลูกค้าจองตั๋วชั้นธุรกิจแต่ไม่ทราบในรายละเอียด โดยจะรอให้ผลสอบออกมาก่อน เท่าที่ทราบน่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน สรุปในเที่ยวบินนั้นทราบว่า ผู้โดยสารกลับมานั่งชั้นธุรกิจ และทางการบินไทยได้ออกมายอมรับในความผิดพลาด จนลูกค้าพอใจและดูแลเยียวยาเป็นอย่างดี โดยส่วนตัวผู้โดยสารไม่ได้มีปัญหา

"เรื่องดังกล่าวที่ออกมานั้น ทางนักบินไม่ได้มีส่วนผิดเนื่องจากเป็นสิทธิ์ที่นักบินจะต้องได้รับอยู่แล้ว แต่ขาดจิตใต้สำนึก ด้วยสัญชาตญาณการเป็นกัปตันของตนเอง ที่เป็นนักบินถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในไฟลต์บินนั้น แต่ควรคำนึงว่า เราเป็นพนักงานของสายการบินไทย ถ้าหากเป็นผม ผมจะให้ผู้โดยสารขึ้นก่อน หรืออาจเปลี่ยนไฟลต์บิน เพราะเราได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง มาจากเงินที่ผู้โดยสารที่เลือกเดินทางด้วยสายการบินเรา ไม่ได้ให้เพราะความเมตตา

หากไม่มีผู้โดยสาร ทางสายการบินจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร โดยก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน หลังจากนี้จะมีการพูดคุยเรื่องการปรับโครงสร้างขององค์กรและมีการแก้ไขให้ภาพลักษณ์ของการบินไทยดีขึ้น"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง