ใครจะอยากเป็นหนี้! โชเฟอร์รถตู้ เปิดใจว่าทำไมต้องยอมเสียเงินเดือนละหลายหมื่น เพื่อเปลี่ยนรถใหม่ป้ายแดง ชี้หากไม่ยอมก็กระทบกันหมด ประชาชนก็ต้องเดือดร้อน...

ภายหลังจาก คณะกรรมการจัดระเบียบฯ ลงมติไม่อนุมัติขยายอายุรถตู้กว่า 900 คัน ซึ่งให้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ หรือ รถตู้วิน ที่กำลังจะหมดอายุสิ้นเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากอายุใช้งานเกิน 10 ปี ตามข้อกำหนดความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบกนั้น

สำหรับประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถตู้เป็นประจำ กำลังเกิดความวิตกกังวลว่าการเดินทางจะลำบากยิ่งขึ้นหรือไม่ ขณะที่ภาครัฐก็ยังคงพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดให้ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้ประชาชนจำนวนมากต้องเดือดร้อน

ขณะที่ ทีมข่าวเจาะประเด็น เดินทางลงพื้นที่ 'ท่ารถตู้บริเวณฟิวเจอร์พาร์ครังสิต' พบการเดินทางของเหล่าผู้โดยสารจำนวนมาก ที่ใช้บริการรถตู้ในการสัญจร เมื่อได้พูดคุยกับผู้ดูแลคิวรถตู้ หรือที่เรียกกันว่า 'นายท่ารถตู้' ก็ได้เปิดเผยข้อมูลด้วยความท้อใจว่า รถตู้ที่ท่านี้มีประมาณ 50 คัน ยอมออกป้ายแดงมาแล้ว 30 คัน เพราะต้องทำตามระเบียบ จะไปฝ่าฝืนก็ไม่ได้ก็ต้องรู้หน้าที่ เพราะเรื่องแบบนี้มีมาตั้งหลายรอบแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าหากไม่ยอมเปลี่ยนก็จะกระทบกันไปหมด

...

"ถามว่าทำไมหลายคนต้องยอม เพราะรถอายุ 10 ปี วิ่งไปก็โดนจับ ปรับครั้งละเป็นพัน ถ้ามั่วแต่จอดอยู่กับที่ไม่วิ่งรถ ครอบครัวจะกินอะไร มันก็มีผลกระทบกันหมด เอาจริงไม่มีใครอยากออกรถใหม่ แต่ถ้าวิ่งแล้วโดนจับก็ต้องเลือกความถูกต้อง" นายท่ารถตู้ กล่าว

เมื่อสอบถาม นายคิม (นามสมมติ) คนขับรถตู้โดยสาร ได้เปิดเผยข้อมูลคล้ายระบายความในใจให้ทีมข่าวฟังว่า "ใครจะไปอยากเป็นหนี้! รถพี่คันเก่ายังใหม่อยู่เลย เพราะพี่ดูแลรถดีมาก แต่ก็ต้องเปลี่ยนต้องออกรถใหม่ ถามว่ามีเงินไหมก็ไม่มีหรอก ถ้ามีเงินคงไม่มาเป็นหนี้ผ่อนค่ารถเดือนละ 2 หมื่น ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ยิ่งเดียวนี้รายได้ไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน มันเป็นเพราะเศรษฐกิจและอะไรก็เปลี่ยนไปหมด ตั้งแต่เขาเข้ามาจัดระเบียบ รายได้ไม่แน่นอน หากินก็ลำบาก"

"เดียวนี้ผู้โดยสารไม่เยอะอย่างเมื่อก่อน ตอนแรกยังคิดเลยว่าถ้าออกรถมาแล้ว ต้องส่งค่างวดเดือนละ 2 หมื่น แต่ผู้โดยสารน้อยลงจะทำยังไง เพราะผู้โดยสารก็เริ่มเปลี่ยนวิธีการเดินไปแบบอื่น ไหนจะเรื่องเส้นทางถนนที่เดียวนี้มันไม่ดีเหมือนแต่ก่อน ยิ่งมีการสร้างรถไฟฟ้าก็กระทบกันหมด โดยเฉพาะเวลาที่รถติดแล้วรถขาดลูกค้าต้องรอนาน บางครั้งก็ถูกร้องเรียนแต่รถมันติดจริงก็ไม่รู้จะแก้ยังไง"

ขณะที่ นายท่ารถตู้ กล่าวทิ้งท้ายว่า "สำหรับวันที่ 1 ต.ค.นี้ คนขับรถตู้หลายคนได้นัดหยุดวิ่งรถเพื่อร้องเรียน คงเป็นเพราะเขาไม่มีกันจริงๆ เส้นทางที่วิ่งคงไม่ดีเอาเลย แต่ท่ารถของเราพวกเขาคงไม่ได้ไปกัน เพราะถ้าต้องหยุดไป 1 วัน เพื่อไปร้องเรียน รายได้ก็หายไปแล้ว 800-1,000 บาท แล้วจะเอาเงินที่ไหนกินและส่งค่างวดรถ แต่ก็ทำให้พวกเราโดนมองว่าไม่ให้ความร่วมมือ".