รองเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร แจ้ง ตร. เป็นหลักฐาน เพราะไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิด กรณีสีกาบุกกุฏิวัดกลางดึก ไล่เคาะประตูขอเงินพระ พบเคยมาแล้วหลายครั้ง ...

จากกรณีที่เฟซบุ๊ก "Teerawit Sukontavaranon" ของ พระครูปลัดกวีวัฒน์ รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา และรองเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร โพสต์ข้อความและกล้องวงจรปิด ระบุเมื่อช่วงเวลา 21.00 น. วันที่ 7 ส.ค. มีหญิงสาวอายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีเทา สวมรองเท้าผ้าใบ เดินเข้ามาภายในกุฏินกพิราบ ภายในวัดด้านคณะใต้ ก่อนจะขึ้นชั้น 2-3 ของกุฏิ และเคาะประตูห้องภายใน แต่ไม่มีใครกล้าเปิดออกมา ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะเดินออกไป

คืบหน้า เวลา 13.00 น. วันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามพระครูปลัดกวีวัฒน์ ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.สามเสน โดยหญิงคนดังกล่าวมีพฤติการณ์ คือ เดินเข้ามาภายในกุฏิพระยามวิกาล และเดินขึ้นไปด้านบนกุฏิ ชั้น 3 เคาะประตูเรียก แต่ไม่มีใครอยู่ จึงเดินลงมาชั้น 2 เคาะประตูห้องเรียกก็มีเพียงเด็กวัดพักอยู่เท่านั้น แต่ไม่ได้เปิดประตูให้เข้ามา ซึ่งหญิงคนดังกล่าวได้พูดคุยขอเงิน เมื่อไม่ได้ ก็ออกไปจากกุฏิตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้

ด้าน พระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสราชาธิวาสวิหาร เจ้าคณะภาค 16-17-18 ธรรมยุต และประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา เปิดเผยว่า จากการสอบลูกศิษย์ทราบว่า ผู้หญิงคนนี้เคยมาที่วัดนี้ 3 ครั้ง ส่วนใหญ่มาตอนกลางวัน ลักษณะแต่งตัวดี พูดจาไพเราะ ไม่มีท่าทีของคนวิกลจริต หรือมึนเมาแต่อย่างใด โดยจะพูดขอเงินกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เนื่องจากมีญาติเสียชีวิต แต่ก็ไม่มีใครให้เงิน กระทั่งล่าสุดหญิงคนดังกล่าวได้ทำพฤติกรรมเดิมแต่เข้ามาในยามวิกาล ซึ่งไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

...

พระครูธรรมกิตติเมธี เผยอีกว่า สำหรับวัดนี้ เมื่อถึงเวลา 22.00 น. ประตูใหญ่หน้าวัดจะปิด ส่วนภายในวัด จะไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งเหตุการณ์ที่หญิงสาวเข้ามาขอเงินในยามวิกาลนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก หลังจากนี้ต้องให้ลูกศิษย์วัดคอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อย

ด้าน ร.ต.อ.วรพรต ตาลแก้ว รอง สว.(สอบสวน)​ สน.สามเสน เปิดเผย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางพระครูปลัดกวีวัฒน์ ต้องการไม่ให้มีใครนำคลิปวงจรปิดไปเสนอให้เกิดความเข้าใจผิดว่า มีสีกามาหาพระในยามวิกาล จึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพียงเท่านั้น ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด

มีรายงานข่าว เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทางพระธรรมกิตติเมธี และพระครูปลัดกวีวัฒน์ เคยถูกกล่าวหาว่า ภายในกุฏิมีการลักลอบเล่นการพนัน และฉายหนังโป๊ แต่เมื่อตำรวจ สน.สามเสน เข้าตรวจสอบก็ไม่พบตามที่ได้รับแจ้ง ในครั้งนั้นเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งจากบุคคลไม่หวังดี.