ชาวสวนมะม่วงเฮ นักวิจัย ม.นเรศวร อัพมูลค่ามหาชนก เพิ่มสารแคโรทีนอยด์ แอนโธไซยานิน ต้านมะเร็ง ลงทุนเพิ่มแค่ต้นละ 240 บาท ดันราคาเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว ไม่มีสารตกค้าง รสชาติทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ได้คุณค่าทางโภชนาการเพิ่ม

ผศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร เผยว่า มะม่วงมหาชนกเป็นมะม่วงที่โดดเด่นกว่าพันธุ์อื่น เมื่อสุกเปลือกจะมีผิวสีแดงม่วงสวยงามหรือเหลืองเข้มปนแดง ในเนื้อมีสารแคโรทีนอยด์ และแอนโธไซยานิน หรือสารมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง จึงได้ทำการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดสีแดง เพื่อหวังเพิ่มสารมีประโยชน์และเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกร โดยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ตามโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.)

ดร.พีระศักดิ์ เผยถึงผลการวิจัยพบว่า การใช้สารเมทิลจัสโมเนต ในความเข้มข้น 80 ppm ปริมาณ 8 ซีซี ต่อน้ำ 100 ลิตร ฉีดพ่นต้นมะม่วงมหาชนก หลังดอกบานไปแล้ว 90 วัน จะทําให้เกิดพื้นที่สีแดงเพิ่มขึ้น 25% ของพื้นที่ผิวเปลือกผล มีปริมาณแคโรทีนอยด์เพิ่มขึ้นจาก 50 มก. เป็น 100 มก. ต่อน้ำหนักมะม่วง 100 กรัม และมีแอนโธไซยานินเพิ่มขึ้นจาก 1.22 มก. เพิ่มเป็น 1.43 มก. ต่อน้ำหนักมะม่วง 100 กรัม

...

นอกจากนี้ยังพบวิตามินซี น้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส ซูโครสเพิ่มขึ้นอีกด้วย มีคุณค่าทางโภชนาการ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ถึง 40% ลดความเสี่ยงเป็นโรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยลดอัตราเสี่ยงเส้นเลือดอุดตันในสมอง ยับยั้งจุลินทรีย์ที่ก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร

“มะม่วง 1 ต้น ใช้สารเมทิลจัสโมเนตผสมน้ำประมาณ 10 ลิตร จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 240 บาท แต่หลังจากเพิ่มสารต้านมะเร็งเหล่านี้ไปแล้ว น่าจะช่วยให้ราคามะม่วงขยับขึ้นมากกว่า 2 เท่า ที่สำคัญมะม่วงเมื่อสีแดงสวยขึ้น ความต้องการน่ารับประทานจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลงานมงคล จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เพราะเกษตรกรสามารถทำได้เอง โดยไม่ต้องลงทุนซื้อหาเครื่องมือเพิ่มเติมแต่อย่างใด” ดร.พีระศักดิ์ กล่าว.