เตือน ผอ.วิทยาลัยอย่าเชื่ออ้างชื่อ เร่งให้ความรู้จัดซื้อจัดจ้างแนวใหม่

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดประชุมผู้บริหารสถานศึกษาสังกัด สอศ.ทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศ โดย ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) มอบ นโยบายการจัดการอาชีวศึกษา ปีการศึกษา 2560 ตอนหนึ่งว่า ขอให้ผู้บริหารทุกคนนำพระบรมราโชบาย ของในหลวงรัชกาลที่ 10 ใน 4 ด้าน สู่การปฏิบัติแก่เด็กอาชีวศึกษาให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงต้องจัดทำโครงการต่างๆให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งนี้ อาชีวะต้องจัดการเรียนการสอนให้แตกต่างจากอุดมศึกษา โดยเฉพาะระดับปริญญาตรีที่เน้นสายปฏิบัติการไม่ใช่วิชาการเหมือนมหาวิทยาลัย ซึ่งขณะนี้ตนได้ตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางที่จะเปิด ทางให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนสามารถเปิดการสอนระดับปริญญาตรีได้ อยู่ระหว่างปรับแก้กฎหมาย

เลขาธิการ กอศ.กล่าวอีกว่า พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 กำลังจะมีผลบังคับใช้ ดังนั้น ขอให้กองคลังของ สอศ.เร่งอบรมฝ่ายการเงินของทุกวิทยาลัย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจจะได้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ขอให้วิทยาลัยทุกแห่งเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯประจำปี 2560 ให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล โดยภายใน เดือน ส.ค.นี้ ขอให้เบิกจ่ายงบฯให้ได้ 96% ส่วนงบฯปี 61 นั้น สอศ.ได้รับจัดสรรงบฯกว่า 26,000 ล้านบาท ลดลงกว่า 1,000 ล้านบาท และเสนอแปรญัตติของบเพิ่มเติมไปอีก 8,000 ล้านบาท แต่ก็ไม่ได้รับความเห็นชอบ ดังนั้น ในการทำคำของบฯปี 2562 ขอให้ทุกวิทยาลัยเสนอแผนเข้ามาว่าหากจะจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพต้องใช้งบฯในส่วนใดบ้าง คาดว่ามีจำนวนถึง 100,000 ล้านบาท

...

“ช่วงนี้อยู่ระหว่างพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย ผมได้รับบัตรสนเท่ห์และใบปลิวเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งการร้องเรียน ผอ.วิทยาลัยและตัวผมเองว่ารับเงินทอน แต่เป็นการเขียนมาลอยๆ โดยไม่มีการ ลงชื่อเสียงเรียงนาม หากเป็นแบบนี้ผมไม่ทราบว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไรเพราะไม่มีที่มาที่ไป ดังนั้น หากใครมีปัญหาอะไรให้เข้ามาคุยกับผมโดยตรงผมพร้อมที่จะรับฟัง เพื่อจะได้ช่วยกันแก้ปัญหาอย่างตรงจุด โดยเฉพาะหากมีผู้รับเหมาหรือผู้ประกอบการใดอ้างชื่อผมให้จัดซื้อครุภัณฑ์ อุปกรณ์การเรียนการสอน หรือเรียกเปอร์เซ็นต์ ขออย่าได้หลงเชื่อ เพราะผมไม่มีการคุยกับผู้รับเหมาหรือนักธุรกิจในเรื่องนี้ และไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น เพราะผมไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน” ดร.สุเทพกล่าว.