พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน พระบรมราโชวาท ในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ราชวัลลภ “เทิดไท้จอมราชา 72 พรรษามหามงคล” ณ พระลานพระราชวังดุสิต ที่มีขึ้นเป็นครั้งแรก ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 10 ทรงขอ ให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันและร่วมกับทุกฝ่ายในบ้านเมืองใช้ความรู้ ความสามารถ ปฏิบัติภารกิจน้อยใหญ่อย่างมีเอกภาพ ให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ในการนี้ พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำการสวนสนาม ของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์สามเหล่าทัพในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงม้านำขบวนกองพันทหารม้า รักษาพระองค์ร่วมสวนสนามในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับ กองพันทหารม้ารักษาพระองค์” พิธีอลังการตระการตาสุดสง่างาม สามเหล่าทัพพร้อมใจถวายสัตย์ปฏิญาณดังกึกก้อง จักจงรักภักดีจนชีวิตหาไม่ ปิดท้ายด้วยการ แสดงอากาศยานไร้คนขับกว่า 2 พันลำ สวยงามอร่ามฟ้าตราตรึงใจพสกนิกร

นับเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของรัชกาลที่ 10 สำหรับพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ ทั้งนี้ เมื่อเวลา 17.20 น.วันที่ 3 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราช ดำเนินไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ราชวัลลภ เทิดไท้จอมราชา 72 พรรษามหามงคล ณ พระลานพระราชวังดุสิต ที่จัดขึ้นอย่างอลังการตระการตาสุดสง่างาม เป็นพิธีที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อทหารรักษาพระองค์ทุกเหล่าทัพและเป็นโอกาสพิเศษในการถวายความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพไทย ในการนี้ สมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลย ราชกุมาร ทรงเฝ้าฯรอรับเสด็จ ณ พลับพลาที่ประทับ

ก่อนหน้านั้นในเวลา 17.15 น. พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งมาปฏิบัติหน้าที่องค์ผู้บังคับการกองผสม เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จถึงพระลานพระราชวังดุสิต พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงดำรงตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” ทรงสั่งกองผสมถวายความเคารพพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นองค์ผู้บังคับกองผสมทรงวิ่งจากแถวหน้า บก.กองผสม ไปยังจุดถวายความเคารพ องค์ผู้บังคับกองผสมถวายความเคารพและกราบบังคมทูลรายงาน กราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ทรงตรวจพลสวนสนาม เสร็จแล้วองค์ผู้บังคับการกองผสมเสด็จฯ ไปประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่งตรวจพลสวนสนาม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่ง ทรงตรวจพลสวนสนาม จำนวน 4 กรม 10 กองพัน ประกอบด้วย กรมทหารรักษาวัง มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ กรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรือ กรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ กองพันทหารอากาศโยธิน 3 กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองพันทหารม้าที่ 25 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 102 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 และกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

เมื่อทรงตรวจพลสวนสนามเสร็จ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ “พระที่นั่งชุมสาย” ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ แล้วประทับพระราชอาสน์ พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งกลับมาประจำจุดยืนหน้าแถว บก.กองผสม ทรงสั่งกองผสมเรียบ-อาวุธและทรงสั่งกองผสมจัดแถวเตรียมสวนสนาม แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณเตรียมตัวจบแล้วองค์ผู้บังคับกองผสมและพลสวนสนามเดินพร้อมกัน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธี ทรงรับการถวายความเคารพจากองค์ผู้บังคับกองผสม ธงชัยเฉลิมพลและกำลังพลสวนสนาม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงร่วมประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธี หน้าพระที่นั่งชุมสาย ภายหลังพลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสวนสนามผ่านพลับพลาที่ประทับแล้ว เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับไปประทับยืนเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับการถวายความเคารพจากแถวทหาร กรมสวนสนาม จำนวน 4 กรม 10 กองพันตามลำดับ

จากนั้น พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์” ทรงม้า “Fürst Henry” (ฟรุ๊ต เฮนรี่) อายุ 14 ปี เพศผู้ตอน สีดำ สายพันธุ์ดัตช์ วอร์มบลัด (KWPN) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ นำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ 1 กองพันเข้ามายังหน้าพลับพลาพิธี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พลโทรัฐพล ธูปประสม เจ้ากรมสารบรรณทหาร เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าถวายสูจิบัตร แด่พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พันโทหญิงวลัยลักษณ์ อาวรณ์ หัวหน้าปรับปรุงโครงการ สำนักงานปลัดบัญชีทหารเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯถวายสูจิบัตร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้นเป็นพิธีเชิญธงชัยเฉลิมพล

ต่อมาพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.สส. นำผู้บัญชาการเหล่าทัพ ประกอบด้วยพลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. พลอากาศเอกพันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. พลโทอชิรวิชญ์ ศรีไพบูลย์ ที่ปรึกษาพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย เข้าประจำหน้าพลับพลาที่ประทับ พลเอกทรงวิทย์ ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพและกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล พร้อมนำกำลังพลสวนสนามกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนจักจงรักภักดีจนชีวิตหาไม่จบแล้ววงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ปืนใหญ่ยิงสลุตเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่กำลังพลสวนสนามทั้งหมดความว่า “ขอขอบ ใจในไมตรีของท่านทั้งหลาย ขอสนองน้ำใจไมตรีนั้นด้วยความจริงใจเช่นเดียวกัน ความพร้อมเพรียงเป็นสง่าที่ท่านทั้งหลายได้แสดงให้เห็นนี้ เป็นนิมิตหมายอันดีว่า ทหารทุกหมู่ทุกเหล่าจะพร้อมเพรียงกันปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกัน รักษาความมั่นคง ปลอดภัยของประเทศเพื่อความวัฒนาผาสุกของประชาชนจึงขอให้ทุกท่านร่วมแรงร่วมใจกันและร่วมกับทุกคนทุกฝ่ายในบ้านเมืองใช้ความรู้ ความสามารถ ปฏิบัติภารกิจน้อยใหญ่อย่างมีเอกภาพให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนพร้อมทุกส่วน ก็จะเป็นการรักษาคำปฏิญาณที่ให้ไว้อย่างเที่ยงแท้ อันจะนำมาซึ่งความดีความเจริญทั้งของตนเองและชาติบ้านเมืองอย่างยั่งยืน ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งอำนาจแห่งความจงรักภักดี อันมั่นคงต่อประเทศชาติ จงบันดาลให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญและความสำเร็จในหน้าที่ทุกประการ” จบแล้วกำลังพลสวนสนามฯ ร่วมกันร้องเพลงราชสวัสดิ์ถวายและถวายความเคารพธงชัยเฉลิมพล

ก่อนเสด็จฯ กลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพฯ แล้วเสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งออกจากพระลานพระราชวังดุสิต กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ระหว่างรถพระที่นั่งเคลื่อนเข้าสู่ประตูภูธรลีลาศ รองผู้บังคับการกองผสมนำกำลังพลสวนสนามฯ และผู้ร่วมในพิธีเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วพระลานพระราชวังดุสิต จากนั้นเป็นการแสดงแปรอักษรจากอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งสิ้น 12 ฉากกว่า 2,000 ลำ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการแสดงโดรนอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับพระราชพิธีในวันนี้ ได้รับความสนใจจากเหล่าทูตานุทูตจากนานาประเทศเข้าร่วมรับชมจำนวนมาก

ขณะที่บรรยากาศที่ถนนราชดำเนินนอกตั้งแต่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีประชาชนพากันสวมใส่เสื้อเหลือง รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก มารอเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แม้ว่าสภาพอากาศจะร้อนแดดจะแรง แต่ประชาชนที่มาเฝ้าหาได้ย่อท้อไม่ เพราะหัวใจเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี ทั้งนี้ รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมชมงาน โดยได้จัดจุดพักคอย เก้าอี้ 3,956 ที่นั่ง ตลอดสองฝั่งถนนราชดำเนินนอกระหว่างแยกมิสกวันถึงแยกกองทัพภาคที่ 1 พร้อมจัดเจ้าหน้าที่แจกอาหารว่าง เครื่องดื่มให้แก่ประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จทุกพื้นที่

นางญาณ์นิษา แข็งการเขตร อายุ 66 ปี ชาวอำเภอเมืองนครสวรรค์ เดินทางมานั่งรอรับเสด็จตั้งแต่ช่วงบ่ายกล่าวว่า ปลื้มปีติ อิ่มอกอิ่มใจ ที่ได้มารอเฝ้าฯ รับเสด็จทั้งสองพระองค์ในวันนี้อีกครั้ง ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยล้าที่ได้ติดตามเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามงานพระราชพิธีสำคัญๆทุกครั้ง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่