“วิลาศ” แฉ ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม อาจโยงผลประโยชน์ทับซ้อน หลังผู้แทนสำนักงบฯ ทักท้วงว่า ราคาจ้างบริษัทที่ปรึกษาโครงการแพงเกินจริงกว่า 200 ล้านบาท

วันที่ 21 พ.ค. นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ครม.มีมติเมื่อเดือน เม.ย. 2559 ให้ก่อสร้างงานโยธารถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 8.29 ล้านบาท ซึ่งต้องมีการประมูลบริษัทที่ปรึกษาในการก่อสร้างก่อน แล้วค่อยเปิดประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้าง แต่โครงการนี้กลับพบว่ามีการประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้างก่อน ตั้งแต่ 9 ก.พ.2560 แล้วค่อยมาเปิดซองประมูลหาบริษัทที่ปรึกษา เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2560 จนได้มา 3 บริษัท แต่ในการประชุมคณะกรรมการ รฟม. เพื่อพิจารณาว่าจ้าง แต่นายกรณินทร์ กาญจโนมัย ผู้แทนสำนักงบประมาณได้ทักท้วงกลางที่ประชุมบอร์ด รฟม.ว่า การประมูลไม่น่าจะถูกต้อง เพราะแพงกว่าราคากลางของสำนักงบฯ ไป 200 กว่าล้านบาท จึงขอคุยกับนายกรณิรทร์เป็นการส่วนตัว

จากนั้นเมื่อวันที่ 15 พ.ค. หลังคุยเสร็จพบว่า ทั้ง 3 บริษัท ยอมลดค่าจ้างลงมารวม 43 ล้านบาท บอร์ด รฟม.ก็ยอมและส่งจดหมายเวียนถึงกรรมการทุกคน ในวันที่ 17 พ.ค.ให้ตอบกลับในวันที่ 18 พ.ค.ว่า ตกลงหรือไม่ ตนสงสัยว่าเพราะอะไร ทั้ง 3 บริษัท จึงได้ลดค่าจ้างลงรวม 43 ล้านบาท ทั้งที่ผู้แทนสำนักงบฯ ทักท้วงว่าแพงเกินจริงกว่า 200 ล้านบาท และเหตุใดบอร์ดจึงใช้หนังสือเวียนแทนการประชุม นอกจากนี้ยังพบว่าในบริษัทที่ 1 ซึ่งรับปรึกษาโครงการ มีบอร์ด รฟม. 1 คน มีชื่อเป็นอดีตประธานบริษัทที่ชนะการประมูล และบริษัทที่ 2 มีภรรยาของกรรมการบอร์ด รฟม. มีหุ้นสูงสุดในบริษัทนั้น ถือเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่.