โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลผลักดันโครงการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประเทศในระยะยาว วอนประชาชนเปิดใจกว้างและแสดงความเห็นอย่างเป็นกลางตามหลักวิชาการ นายกฯ ย้ำหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้เกิดความชัดเจน
วันที่ 25 ตุลาคม พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นับตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ ได้พยายามผลักดันโครงการสำคัญๆ หลายโครงการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคง พัฒนาความเจริญก้าวหน้าของประเทศ บริการสาธารณะ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น โครงการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2558-2578 (PDP 2015) กำหนดสัดส่วนการใช้พลังงานในการผลิตไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน หรือโรงงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ เป็นต้น แต่ที่ผ่านมาบางโครงการยังประสบปัญหาเรื่องความเข้าใจของสังคม ที่อาจเกิดจากการให้ข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐไปสู่ประชาชนยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันกับประชาชน ทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและเห็นต่างเพื่อให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงตรงกัน
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนเปิดใจกว้างรับฟังและแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นกลางตามหลักวิชาการ หลักกฎหมาย และเทคโนโลยี โดยหลีกเลี่ยงการตั้งแง่ต่อต้านตั้งแต่เริ่มต้น ตัวอย่างในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาและมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับผลกระทบของโครงการ ที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน แต่ในที่สุดเมื่อได้ศึกษาข้อมูลของโครงการอย่างละเอียด จนมีความเข้าใจในนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงก็ให้การยอมรับ และสนับสนุนโครงการเพราะเชื่อว่ามีความปลอดภัย
...
พลตรีสรรเสริญ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่ผ่านมาของประเทศไทยคือ นายทุนและกลุ่มการเมืองบางส่วน มักแสวงหาประโยชน์จากประชาชน โดยละเลยการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น การสนับสนุนให้ประชาชนรุกพื้นที่ป่า เพื่อให้ได้ที่ดินมาครอบครอง หรือปลูกฝังความเชื่อให้ข้อมูลว่าการเผา การฝังกลบเป็นวิธีกำจัดขยะที่ดีที่สุด โดยหวังประโยชน์ในการขายหรือให้เช่าที่ดินของตน แทนที่จะรณรงค์ให้ประชาชนแปลงขยะให้เป็นพลังงานและเชื้อเพลิง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงน้ำมันเพียงอย่างเดียว
"นายกฯ กำชับให้หน่วยงานภาครัฐขยันสร้างความเข้าใจกับประชาชน เพราะเขาอาจมีบทเรียนจากอดีตที่ทำให้ไม่ไว้วางใจในความปลอดภัยของการใช้เทคโนโลยี หลายประเทศได้พัฒนาโรงไฟฟ้าจากถ่านหิน พลังงานชีวมวล และมีการสำรวจแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่น ปิโตรเลียม เพื่อใช้ในประเทศ ส่งออกสร้างรายได้ และลดพึ่งพาการนำเข้า เนื่องจากทุกคนเห็นความสำคัญของความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน รัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญกับการดูแลด้านความปลอดภัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว จึงอยากให้คนไทยหันมาพิจารณาข้อเท็จจริงของประเทศอย่างมีจิตสำนึก เพื่อสร้างประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน" พลตรีสรรเสริญ กล่าว.