และแล้วเรื่องราวของทีวีดิจิตอลก็เป็นไปอย่างที่มีการคาดหมายล่วงหน้าไว้ ว่าจะต้องมีคนโยนผ้าขอยอมแพ้อย่างแน่นอน

ปรากฏว่าหวยไปออกที่ บริษัทไทยทีวี จำกัด ของ คุณพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” ที่ประมูลเอาไว้ 2 ช่อง...และได้ยื่นขอบอกเลิกสัญญากับ กสทช.ไปเรียบร้อย

แต่เรื่องราวคงไม่จบง่ายๆเพราะ กสทช. บอกว่าถึงเลิกสัญญาก็ต้องจ่ายที่เหลือจนครบไม่อย่างนั้น กสทช.จะยึดเงินค้ำประกันที่ธนาคารค้ำไว้

เหตุการณ์จะลงเอยฉันใด จะรอมชอมกันได้ หรือจะสู้กันผ่านศาลใดศาลหนึ่งโปรดติดตามข่าวกันเอาเองนะครับ

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามผมขออนุญาตย้ำอีกครั้งต่อเนื่องจากข้อเขียนผมเมื่อวันก่อนว่าผมอยากให้ทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบทีวีดิจิตอลอย่าเพิ่งท้อถอยแม้จะมีปัญหามากมายก็ตาม

ขอให้ทั้ง กสทช. และผู้ประกอบการที่ยังกัดฟันสู้ต่อจ่ายเงินค่าประมูลงวด 2 ไปแล้ว จับเข่าคุยกัน พร้อมกับหาทางออกร่วมกันเพื่อให้ทีวีดิจิตอลเกิดและโตให้ได้ในประเทศนี้

ช่วยกันพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสว่างั้นเถอะ

เพราะทีวีดิจิตอลเป็นระบบทีวีที่ดีที่สุด ทั้งคมทั้งชัดทั้งสวยเหนือ กว่าระบบดั้งเดิมไม่รู้กี่เท่า--หากระบบนี้จะไม่เกิดหรือเกิดอย่างกระท่อน–กระแท่นเจียนไปเจียนอยู่อย่างทุกวันนี้ก็จะเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง

ผมเองก็เพิ่งได้พบกับประสบการณ์ที่ว่าดูทีวีดิจิตอลแล้วมีความสุขมากกว่าดูทีวีธรรมดา เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ขออนุญาตนำมาเล่าสู่กันอ่าน เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการกอบกู้ทีวีดิจิตอลได้บ้างไม่มากก็น้อย

คงจำกันได้นะครับเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติเวียดนาม โดย ไทยรัฐทีวี จากสนามราชมังคลากีฬาสถาน

...

ว่าไปแล้วผมก็ดูไทยรัฐทีวีมาตั้งแต่เริ่มเปิดนั่นแหละ เพราะติดรายการข่าวซึ่งน้องๆเขาทำได้เยี่ยมเหลือเกิน

ดูถ่ายทอดสดฟุตบอลก็หลายครั้ง เพราะไทยรัฐทีวีเขาถ่ายทอดอยู่บ่อยๆ ทั้งฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและทีมช้างศึกไทยนัดสำคัญๆ

เผอิญผมดูผ่านทรูวิชั่นส์ ซึ่งเขาไม่ได้ส่งมาให้ดูในระบบ HD ผมจึงมองไม่เห็นความโดดเด่นของทีวีดิจิตอลแต่ประการใด

ซึ่งผมก็มิได้คิดอะไรมาก...ถือว่าเราได้มีโอกาสดูทีวีดิจิตอลเมืองไทยครบทุกช่องก็พอใจแล้ว

จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ผมไปรับประทานอาหารกับครอบครัวที่ห้างใกล้ๆบ้าน พอรับประทานเสร็จระหว่างเดินย่อยอาหารก็ผ่านแผนกขายเครื่องรับทีวี ซึ่งเขาเปิดจอยักษ์จอแบนในระบบดิจิตอลให้ดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย-เวียดนาม โดย ไทยรัฐทีวี อย่างที่ว่า

ถือเป็นโชคดีของผม เพราะขณะที่เดินผ่านทีมไทยก็ยิงประตูได้พอดี และชั่วครู่ต่อมากล้องก็แพนไปให้เห็นภาพคนไทย 4-5 หมื่นคน ในสนามไชโยโห่ร้องด้วยความดีอกดีใจ

รวมทั้งมีการคลี่ธงชาติไทยผืนยักษ์ผืนหนึ่งให้สะบัดไปตามคลื่นมนุษย์ที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์...เห็นแล้วขนลุกซู่เลยครับ

ผมไม่เคยเห็นธงชาติไทยผืนไหนจะสวยเท่ากับผืนใหญ่ยักษ์ที่แฟนบอลบนอัฒจันทร์สนามราชมังคลาฯ ช่วยกันคลี่ให้โบกสะบัด หลังเราได้ชัยชนะเหนือเวียดนามในคืนนั้นเลย

ถ้าผมยังดูไทยรัฐทีวีอยู่ที่บ้าน ผมก็คงไม่ตื่นเต้นประทับใจเท่าที่มายืนดูอยู่หน้าเครื่องรับที่เขาตั้งขายอยู่ในห้างอย่างแน่นอน

ทำให้ผมรู้สึกเสียดายเวลาและโอกาสที่ผ่านไปเกือบปีเต็มๆขึ้นมาติดหมัดและตัดสินใจจะเอาคูปองที่ผมได้รับแจกมานานแล้วแต่ยังทิ้งไว้ในลิ้นชักไปแลกกล่องมาดูทีวีดิจิตอลโดยเร็วที่สุด

เท่าที่ผมทราบพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศหลายล้านคนที่ดูโทรทัศน์ด้วยระบบดาวเทียม และมีโอกาสได้ดูทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง ของเราด้วยก็คงคิดแบบเดียวกับผมว่า แม้ดาวเทียมจะไม่ส่งในระบบ HD มาให้แต่ท่านก็พอใจแล้วที่ได้ดู ชัดไม่ชัด สวยไม่สวยก็ช่างเถอะ

หลายๆท่านจึงไม่ไปรับคูปองจนเป็นเหตุให้กองพะเนินเทินทึกอยู่ที่สำนักงานไปรษณีย์ทั่วประเทศ

ผมทราบดีว่าคนไทยเรายึดมั่นในคำสอนที่ว่าจงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ...แต่ถ้าเรามีโอกาสจะได้ดูอะไรที่ดีกว่า และเขาก็เตรียมการเอาไว้ให้อย่างนี้แล้ว จงเลิกพอใจในสิ่งที่ท่านดูอยู่โดยเร็วเถอะครับ...รีบไปรับคูปองแล้วไปแลกกล่องมาดูของใหม่กันเลย.

“ซูม”