รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เผย ช่วยอีก 6 แรงงานในอินโดฯ กลับไทย 1 เม.ย.นี้ ขณะที่ "บิ๊กตู่" สั่งให้แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน แนะสื่อมวลชนควรเสนอข้อมูลอย่างครบถ้วน โดยเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก...
วันที่ 29 มี.ค. 58 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเสนอข้อมูลของสื่อมวลชนบางแขนง ต่อกรณีแรงงานประมงไทยและการที่ไทยติดอยู่ในกลุ่ม 3 ของกฎระเบียบว่าด้วยการทำประมงที่ผิดกฎหมายไม่รายงานและไร้การควบคุม Illegal, Unreported and Unregulated Fishing (ไอยูยู) เป็นข้อมูลที่เป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว การที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จัดอันดับให้ไทยอยู่ในบัญชีรายชื่อกลุ่มที่ 3 โดยนำข้อมูลระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 2556 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2557 อยู่ในช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. กำลังทำเพื่อแก้ไขปัญหาที่หมักหมม และไร้การดูแลจากรัฐบาลที่ผ่านมา เพื่อให้ประเทศไทยได้รับการประเมินดีขึ้น เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมและแรงงานภาคประมงทั้งระบบ หากสื่อมวลชนได้ทำหน้าที่ เกาะติดปัญหานี้อย่างเหมาะสม ทันเวลาจริง ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน คงไม่เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น ดังนั้นควรนำเสนอข้อมูลอย่างครบถ้วน โดยเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
พล.ต.สรรเสริญ เผยต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงานประมงไทยที่ถูกจับในประเทศอินโดนีเซีย มีรายงานเพิ่มเติมว่าจะมีแรงงานอีก 6 คน ที่ได้ประสานความร่วมมือกับทางการอินโดนีเซียส่งตัวกลับมา คาดว่าจะเดินทางถึงเมืองไทยในวันที่ 1 เม.ย. นี้ นอกจากนี้นายกฯ มีบัญชาและต้องการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน มิใช่ช่วยเหลือเป็นคราวๆ ไปเช่นนี้ จึงมอบนโยบายให้ไปตรวจสอบทำบัญชีเรือประมงและเจ้าของเรือที่มีพฤติกรรมกระทำผิดในอดีต เช่น ใช้แรงงานไม่ถูกต้อง จับปลาโดยไม่มีใบอนุญาต สกัดผู้ประกอบการที่ไม่มีความรับผิดชอบออกไป เพื่อรักษาธุรกิจอุตสาหกรรมประมงของประเทศในระยะยาว รวมไปถึงนโยบายการสถาปนาความร่วมมือระหว่างประเทศ ในน่านน้ำที่มีการทำประมง
...