โฆษก ปชป.ขอ "นิวัฒน์ธำรง" เสียสละร่วมถกวุฒิฯด้าน "องอาจ" ปูด 5 แผนรัฐยื้ออำนาจ

วันที่ 17 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีวุฒิสภา เสนอแถลงการณ์ 3 ข้อ ในการหาทางออกประเทศว่า แม้ว่าจะไม่เป็นที่ถูกใจของทุกฝ่าย และมวลมหาประชาชน เพราะ ส.ว.ไม่สามารถดำเนินการให้สุดซอย โดยไม่สามารถเสนอชื่อนายกฯ หรือ ทูลเกล้าฯชื่อนายกฯคนใหม่ได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้กำลังใจกลุ่ม ส.ว. ที่เห็นตรงกันว่า เราจำเป็นต้องปฏิรูป โดยต้องมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ แต่แผนการปฏิรูปประเทศ ไม่สามารถเดินหน้าได้ เนื่องจากรัฐบาลรักษาการ และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ไม่ยอมเข้าหารือกับวุฒิสภา โดยอ้างว่า ติดภารกิจดูแลปัญหาแผ่นดินไหวทางภาคเหนือ ทั้งที่เกิดเหตุเป็นสัปดาห์แล้ว แต่พอมีเรื่องสำคัญใน กทม. นายนิวัฒน์ธำรง กลับเอาเรื่องนี้มาอ้าง จึงขอเรียกร้องให้นายนิวัฒน์ธำรง เสียสละเข้าหารือกับวุฒิสภา โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 19 พ.ค. เพราะการเสนอชื่อนายกฯ ไม่ได้เสนอตามมาตรา 7 แต่ทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 180 ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ เมื่อนายนิวัฒน์ธำรง ให้ความร่วมมือ ถ้าได้รัฐบาลใหม่ก็จะแก้ปัญหาประชาชนได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะความเดือดร้อน ปากท้องค่าครองชีพ สินค้าเกษตรตกต่ำ เงินค้างหนี้ชาวนา วิกฤติภัยแล้งกว่า 47 จังหวัดใน 2 หมื่นอำเภอ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจ ส.ว. ที่พยายามช่วยหาทางออกให้กับประเทศ แต่การดำเนินการของ ส.ว.ต้องยืนอยู่บนหลัก 3 ข้อ คือ 1.ต้องกล้าหาญ อดทน โดยต้องคำนึงถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 122 ที่บัญญัติว่า ส.ว.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยไม่อยู่ในอาณัติของใคร 2.การหาทางออกต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ 3. ต้องคำนึงถึงเสียงข้างมากที่กลุ่ม ส.ว. เดินสายรับฟังความเห็นจากคณะบุคคล และองค์กรต่างๆ โดยนำผลการหารือมาสรุป โดยยึดประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก

...

แต่สถานการณ์ขณะนี้ รัฐบาลยังไม่คำนึงถึงการเดินหน้าหาทางออก กลับใช้ยุทธศาสตร์เพื่อรักษาอำนาจตัวเองไว้ใน 5 ประการ คือ 1. เดินหน้าเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปเพื่อกลับมายึดอำนาจรัฐต่อ 2.ใช้มวลชนคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวกดดันฝ่ายตรงข้ามทุกรูปแบบ 3. ใช้มวลชนสนับสนุนรัฐบาลสายฮาร์ดคอร์ออกมาคุกคามประกาศว่าจะใช้ความรุนแรงทุกรูป แบบหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น 4. ใช้กลไกของรัฐจัดการข้าราชการระดับกลาง ที่ไม่ยอมสยบให้กับอำนาจรัฐ และ 5.ใช้ข้าราชการระดับสูงที่ได้ดีจากระบอบทักษิณ ไล่บี้นักธุรกิจ เอกชนที่สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แต่ยุทธศาสตร์นี้คงไม่สามารถยับยั้งการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้