ประธานวิปฝ่ายค้าน มั่นใจ อภิปรายไม่ไว้วางใจไร้หนอนบ่อนไส้ ฝ่ายค้านไม่ทำข้อมูลซักฟอกรั่ว ขู่พร้อมอภิปรายโยงผู้นำจิตวิญญาณรัฐบาล หากพบการกระทำทำลายความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
วันที่ 4 ก.พ. 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการนัดดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้าน วันที่ 7 ก.พ. เพื่อเตรียมความพร้อมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า การนัดพูดคุยวันที่ 7 ก.พ.นี้ จะหารือถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อตรวจสอบพรรคร่วมรัฐบาล จะมีการแถลงข่าวหลังการรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ยังไม่ได้ข้อสรุปจะมีประเด็นซักฟอกกี่เรื่อง ต้องรอคุยวิปรัฐบาลและประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงกรอบเวลาการอภิปรายด้วย แต่จะพยายามทำให้ประเด็นที่มีความสำคัญอภิปรายได้ครบถ้วน เบื้องต้นจะอภิปรายเดือนมี.ค. แต่จะเป็นสัปดาห์ใดต้องคุยกันอีกครั้ง ส่วนข้อกังวลเรื่องข้อมูลอภิปรายรั่วไหลนั้น ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คิดว่ามีปัญหาข้อมูลรั่วไหลน้อย เพราะไม่ต้องส่งไฟล์พรีเซนเทชันให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบล่วงหน้า ปัญหาที่จะไปแอบดึงไฟล์ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เป็นไปไม่ได้ ทุกคนจะได้เห็นตอนอภิปรายพร้อมกัน เมื่อถามว่า มั่นใจว่าไม่มีหนอนบ่อนไส้ในพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายปกรณ์วุฒิตอบว่า มั่นใจว่าไม่มี การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหานี้
เมื่อถามว่า การอภิปรายจะโยงไปถึงผู้นำจิตวิญญาณของรัฐบาลหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า คิดว่าไม่ใช่ตัวบุคคล แต่เป็นพฤติการณ์ที่เป็นไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรมหรือกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ไม่ว่าจะกระทำต่อผู้ใด หากการกระทำของรัฐบาลทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องพูดโยงไปถึง ที่ผ่านมาการอภิปรายของพรรคก้าวไกล จนมาพรรคประชาชนจะกระจายทุกเรื่อง ไม่เน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หากเป็นความบกพร่องของรัฐบาล จะอภิปรายหมด ส่วนขั้นตอนการยื่นองค์กรอิสระ เพื่อตรวจสอบหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น มีการพูดคุยกันจะดำเนินการอย่างไรต่อ หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งไม่นาน มีประเด็นที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ ตอบว่า พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล 1 ปีครึ่ง ไม่ว่าใครเป็นนายกฯ แต่รัฐมนตรีหลายคนอยู่ในตำแหน่งมาเกิน 1 ปี มองว่านายกรัฐมนตรีทั้งสองคนของพรรคเพื่อไทย น่าจะใช้นโยบายพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างคิด
...