เมื่อวานนี้ จันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ผมเขียนถึงการสัมมนาที่ผมเห็นว่า “สำคัญที่สุด” ในช่วงเวลานี้ ได้แก่ การสัมมนาในหัวข้อ “ทางรอดไทยในโลกยุคปั่นป่วน” ซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในช่วงสายๆของวันเดียวกัน

ที่ถือว่าสำคัญที่สุดก็เพราะโลกเราจะต้องปั่นป่วนแน่นอน เมื่อคุณ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับเข้ารับตำแหน่งใหม่อีกหนพร้อมกับนโยบาย “เขย่าโลก” ทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ และการบริหารกิจการภายในของท่าน ซึ่งไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร

เขียนต้นฉบับเสร็จสรรพส่งเข้าโรงพิมพ์ไปเรียงล่วงหน้าเพื่อตีพิมพ์ในฉบับวันจันทร์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงมีข่าวว่าคุณทรัมป์ยิงกระสุน 3 นัดแรกประกาศสงครามเศรษฐกิจตามที่ท่านขู่ไว้

นั่นก็คือการลงนามในคำสั่งตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าอย่างเข้มงวดจาก เม็กซิโก, แคนาดา และ จีน รวม 3 ประเทศ โดยให้เก็บเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 25 สำหรับเม็กซิโกและแคนาดา...ส่วนจีนนั้นให้เก็บเพิ่มขึ้นร้อยละ 10

จะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้จาก 3 ประเทศ อย่างไรบ้าง? และจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกตามมาแค่ไหน? โดยเฉพาะประเทศไทยเรา จะเจอกับผลกระทบเพียงไรคงจะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 17 มกราคม ก่อนพิธีสาบานตน ประธานาธิบดีทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก็โทรศัพท์คุยกันมาแล้วรอบหนึ่ง โดยไม่มีการเผยรายละเอียดว่าคุยอะไรกันบ้าง นอกจากระบุว่าบรรยากาศการคุยค่อนข้างดี แต่ก็ยังมีเรื่องที่จะต้องคุยกันอีกยาว หลังทรัมป์ รับตำแหน่งแล้ว

คนเราเมื่อสามารถยกหูโทรศัพท์คุยกันได้ผมก็ว่าที่จะห้ำหั่นพันตูกันอย่างแรงๆ หรือเอาเป็นเอาตายน่าจะลดลง

หวังว่าทั้ง 2 ฝ่าย คงจะโทรศัพท์คุยกันบ่อยขึ้นและไม่ถึงขั้นทำสงครามทางเศรษฐกิจที่รุนแรงจนเศรษฐกิจโลกทรุดลงไปอีกอย่างที่หลายๆฝ่ายเป็นห่วง

...

ก่อนจะทำสงครามอะไรกันรุนแรงกว่านี้ก็ขอให้หยุด คิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ ผมก็ได้แต่ภาวนาขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปในแนวนี้...แต่จะเป็นเช่นที่ภาวนาหรือไม่ คงต้องดูกันต่อไป

ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์นี่เอง เวลา 8 โมงเช้าเศษๆ ของประเทศไทยท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ก็ได้ออกมาพูดคุยอย่างสบายๆผ่านรายการ “โอกาสไทยกับนายกฯแพทองธาร” ทางโทรทัศน์ เป็นเวลา 20 นาทีเห็นจะได้

เนื้อหาสาระๆมาในทำนองบันทึกเหตุการณ์ในรอบเดือนว่าท่านทำอะไรมาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นที่ทราบอยู่แล้วจากข่าวที่เกิดขึ้น โดยนำมาย้ำให้ทราบอีกครั้งพร้อมเบื้องหลังบ้างเล็กๆน้อยๆ

เผอิญผลงานของรัฐบาลในเดือนมกราคมที่ท่านมีส่วนในการสั่งการและร่วมปฏิบัติ ยังไม่มีงานไหนที่จะมาช่วยตอบคำถามเรื่อง “ความปั่นป่วน” ของโลก ที่ผมกำลังหวาดกลัวได้ ผมจึงให้ ความสนใจค่อนข้างน้อย

แต่ก็ไม่คิดจะต่อว่าอะไรท่านนะครับ เพราะเจตนารมณ์ของท่านที่จะรายงานว่ารัฐบาลทำอะไรบ้างในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งท่านยังไม่ได้ทำเรื่องนี้ จึงไม่อยู่ในผลงานที่ท่านจะต้องรายงานประชาชน

ก็ได้แต่หวังว่าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ท่านจะเดินทางไปจีน และจะมีโอกาสได้พบประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และบุคคลสำคัญในรัฐบาลจีนหลายๆท่าน...จึงอาจจะมี “คำตอบ” ในเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจกลับมาฝากคนไทยพอที่จะทำให้เห็นความหวังในการเอาตัวรอดจากภาวะเศรษฐกิจโลกป่วนได้บ้าง

กลับมาถึงก็แถลงข่าวเลยนะครับ อย่าให้ต้องรอถึงวันอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคมที่จะมาจัดรายการ “โอกาสไทยกับนายกฯแพทองธาร” ก็แล้วกัน เพราะเรื่องสำคัญอย่างนี้คนไทยเราใจร้อนอยากรู้เร็วๆครับ ท่านนายกฯ.


"ซูม"

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม