ผลพวงจากการที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างหนึ่งก็คือทำให้สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางสงบลงได้
“อิสราเอล”-“ฮามาส” ตกลงหยุดยิง
ทำให้การเจรจาต่างก็ยอมปล่อยตัวประกันแลกเปลี่ยนกันทำให้ 5 คนไทยที่ถูกจับกุมมานานหลายเดือนจากกลุ่มฮามาสได้รับผลบุญไปด้วย แม้จะยังเหลืออีก 1 คน ที่ต้องรออีกระยะหนึ่ง
ก็ดีใจแทนพวกเขาและญาติพี่น้อง!
เหลื่อมๆเวลากันนี้ “ทรัมป์” ที่ลงนามให้ยกเลิกการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในประเทศต่างๆ อ้างว่าสหรัฐฯต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก
แต่ถูกโจมตีจากฝ่ายต่างๆว่าไร้มนุษยธรรม อีกทั้งศาลสหรัฐฯก็คัดค้านเรื่องนี้ทำให้ “ทรัมป์” ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
เรื่องนี้ก็เกี่ยวกับประเทศไทยเช่นเดียวกันเนื่องจากมีค่ายผู้ลี้ภัยหลายแห่งที่ต้องอาศัยงบประมาณที่สหรัฐฯจ่ายให้
หากสหรัฐฯไม่จ่ายเราก็ต้องจ่ายเองซึ่งเป็นเงินจำนวนไม่น้อยแต่มีบางฝ่ายเสนอว่ารัฐบาลควรดูแลรับผิดชอบเอง
สำคัญว่าจะเอาที่ไหนเพราะเวลานี้เศรษฐกิจของประเทศก็ไม่ดีเงินทองก็ไม่มี
แต่เมื่อ “ทรัมป์” เปลี่ยนใจก็โล่งไปได้เปลาะหนึ่ง...
พูดถึงเรื่องผู้ลี้ภัยหรือตัวประกัน คิดไปถึงชาวประมงของไทย 4 คน ที่ถูกเมียนมาจับกุมข้อหารุกล้ำน่านน้ำ ตอนแรกรัฐบาลก็บอกว่าจะได้รับการปล่อยตัววันนั้นวันนี้
แต่ถึงวันนี้แล้วยังไม่มีวี่แวว สงสัยจะยาวแน่
ความจริงเรื่องทำนองนี้การรุกล้ำน่านน้ำไม่น่าจะถูกลงโทษกันหนักอย่างนี้น่าจะอะลุ่มอล่วยกันได้โดยเฉพาะ 2 ประเทศเพื่อนบ้านมีพื้นที่ติดกันยาวเหยียด
ที่สำคัญก็คือไทยนั้นช่วยเหลือเมียนมามาเยอะแล้ว แต่เรื่องนี้เมียนมาจะหนักข้อไปหน่อย ไม่รู้ว่ามีการเจรจากันอย่างไร
...
ยิ่งไปกว่าสถานการณ์ในเมียนมา ณ ปัจจุบันก็รู้กันดีว่าไม่ค่อยจะดีนัก เนื่องจากรัฐบาลทหารต้องสู้รบกับชนกลุ่มน้อยจนเกิดความไม่สงบมายาวนาน
ไทยก็พยายามช่วยเหลือเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น โดยเฉพาะอาเซียนก็มีความห่วงใยที่จะให้ไทยเป็นเจ้าภาพเพื่อเปิดการเจรจา
แต่ก็ยังไม่มีช่องทาง!
ยิ่งไปกว่านั้นไทยยังได้รับผลจากปัญหายาเสพติด ซึ่งแหล่งผลิตอยู่ในพื้นที่ของเมียนมา ที่รัฐบาลเมียนมาก็ไม่ได้ดูแลช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหานี้
ปัจจุบันมีเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาศัยเขตพื้นที่อิทธิพลของชนกลุ่มน้อยในเมียนมาใช้เป็นศูนย์กลางเพื่อก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
ที่ทำให้คนไทยถูกหลอกลวงสูญเงินไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นภัยคุกคามต่อสภาพชีวิตความเป็นอยู่ทุกวันนี้
เพราะรับโทรศัพท์ทีก็ต้องกังวลว่าแก๊งพวกนี้โทร.มาหลอกลวงหรือเปล่า?
ทุกวันนี้ปัญหามากกว่านั้นเพราะทำให้ไทยต้องได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีการหลอกลวงชาวต่างชาติโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อข้ามไปเมียนมา
ทำให้ไทยถูกกกล่าวหาว่าเป็นดินแดนแห่งการก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายยับเยิน
นักท่องเที่ยวที่ชมชอบเมืองไทยว่าเป็นเมืองสงบปลอดภัยก็เลยหวาดกลัวไม่ยอมมา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน
นี่ยังไม่รวมประเทศที่ติดต่อกับไทย ทั้งกัมพูชา ลาว ที่แก๊งพวกนี้ก็ไปตั้งศูนย์เพื่อหลอกลวงนักท่องเที่ยวจากจีนอื่นๆ
โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน
ก็ถูกแล้วที่รัฐบาลบอกว่าปัญหานี้เป็นวาระแห่งอาเซียน เนื่องจากมันเกี่ยวพันกับประเทศอื่นๆด้วยที่จะต้องแก้ไขร่วมกัน!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม