“อิ๊งค์” กำชับ “บิ๊ก ขรก.” ไม่ตั้งกำแพงทำงาน เน้นย้ำ 3 ภารกิจ “แก้ฝุ่น-ยกระดับ กระชับสัมพันธ์ 50 ปีไทย-จีน-ด้านความ มั่นคง” ยังไม่รู้ พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเสร็จเมื่อไหร่เลขาฯกฤษฎีกาเผยกรรมการคณะพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิเพียบ เปรียบเหมือนทำอาหารปรุงกฎหมายตามใจลูกค้า ฝ่ายค้านจี้กำหนดสัดส่วน-จำนวนกาสิโนให้ชัด โต้รัฐบาลยกโมเดลสิงคโปร์ แต่ทำกฎหมายต่างกันคนละโลก “ทักษิณ” เร่งเครื่องโค้งท้ายช่วย “สลักจฤฎดิ์” ปลุกคนเชียงรายใส่เสื้อแดงกินส้ม โวคืนสู่ยุค ปากท้องอิ่ม “พิธา” เลื่อนกลับอเมริกาลุยช่วยผู้สมัคร นายก อบจ.สุราษฎร์ฯ รฟท.จ่ออุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด “คดีที่ดินเขากระโดง”
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทิ้งทวนโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.ทั่วประเทศ วันที่ 1 ก.พ. ตระเวนขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทยหาเสียง ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน เลื่อนเดินทางไปสหรัฐอเมริกา อยู่ช่วยพรรค ปชน.หาเสียงก่อน
“อิ๊งค์” กำชับ “บิ๊ก ขรก.” ไม่ตั้งกำแพง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่ห้องประชุมแจ้งยอดสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2568 มี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า เข้าร่วม น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกคุ้นหน้าทุกท่าน ได้ทำงานร่วมกันเจอกันในหลายโอกาส บางท่านมีโอกาสไปต่างประเทศไปต่างจังหวัดด้วยกัน ถือว่าได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ผลักดันนโยบายต่างๆ ให้ประชาชน อยากให้เกิดการทำงานแบบไม่มีกำแพง ขอย้ำนโยบายให้ทุกกระทรวงเร่งการเบิกจ่าย การปล่อยเงินหมื่นเฟสสองอยากให้เกิดพลัง และขอเน้นย้ำใน 3 เรื่อง คือ 1.การแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น 2.ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน ขอให้ทุกกระทรวงดำเนินการกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ 3.งานด้านความมั่นคง ที่ ตร.เป็นหน่วยงานสำคัญที่จะร่วมดำเนินการ เรื่องยาเสพติด อาชญากรรมไซเบอร์ รวมไปถึงเรื่องการให้สัญชาติและถิ่นที่อยู่ถาวรกับกลุ่มชาติพันธุ์ ขอให้มีผลเป็นรูปธรรม
...
ไม่รู้กฎหมายกาสิโนจะเสร็จเมื่อไร
ต่อมาเวลา 14.56 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณีนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่งตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษ เพื่อปรับถ้อยคำร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า ยังไม่มีการแจ้งมาว่าจะใช้เวลาพิจารณากี่วัน ยังไม่ทราบเลย
“ปกรณ์” เผย กก. ผู้ทรงคุณวุฒิเพียบ
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีแต่งตั้ง คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษ เพื่อปรับถ้อยคำร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่มีนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ เป็นประธานว่า คณะกรรมการชุดพิเศษ ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิหลายคน อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ นายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯ นายไพโรจน์ วายุภาพ อดีตประธานศาลฎีกา ส่วนเรื่องการทำประชามติ เรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบายโดยแท้ กฤษฎีกาไม่เกี่ยวข้อง เราพยายามทำให้กฎหมายครอบคลุม เหมือนการยกเรือสำราญที่มีทุกกิจกรรมมาไว้บนบก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลักคือกระทรวงมหาดไทย และท้องถิ่น กระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องเรื่องภาษี รัฐบาลบรรจุไว้ในแผนกฎหมายเร่งด่วน มีกรอบดำเนินการภายใน 50 วัน กฤษฎีกาพยายามทำให้ทัน
เดินหน้าปรุงกฎหมายตามใจลูกค้า
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นักกฎหมายชั้นนำ มาร่วมกันพิจารณาจะทำให้เป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่ นายปกรณ์ตอบว่า การเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่เป็นคนละประเด็น สิ่งที่เราทำคือดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เรื่องนี้ต้องถามสังคมจะว่าอย่างไร ถึงมาทำให้สอดคล้องกับความต้องการ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร เมื่อนโยบายมาแบบนี้ แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว สิ่งที่เราต้องทำให้สอดคล้องกับนโยบาย การทำความเข้าใจกับประชาชน เป็นเรื่องรัฐบาลต้องชี้แจงและดำเนินการอยู่ และเราเป็นเหมือนพ่อครัวที่คอยปรุงใส่วัตถุดิบตามที่ลูกค้าต้องการ แต่ถ้ามีบางอย่างที่เขาไม่ต้องการ เราก็ทักท้วง แต่ถ้ายืนยันจะเป็นแบบนั้นก็ต้องตามใจลูกค้า
ฝ่ายค้านจี้กำหนดสัดส่วนกาสิโน
ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า เห็นด้วยที่ควรต้องกำหนดสัดส่วนพื้นที่กาสิโนต่อพื้นที่ทั้งหมดในกฎหมายฉบับนี้ และควรกำหนดและจำกัดจำนวนกาสิโนที่จะเปิดในช่วงแรก คนในรัฐบาลมักยกตัวอย่างกาสิโนของสิงคโปร์ขึ้นมาอ้างอิง ซึ่งกาสิโนในสิงคโปร์ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายควบคุมกาสิโน หรือ Cazino Control Act ที่นอกจากจะมีคำจำกัดความของกาสิโนแล้ว ยังมีการให้คำจำกัดความของคำว่ารีสอร์ตครบวงจร หรือ Integrated resort ที่หมายถึงโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ศูนย์รวมความบันเทิงอื่นๆ แต่ไม่ได้กำหนดสัดส่วนพื้นที่กาสิโนในพื้นที่ทั้งหมด เพราะตามกฎหมายสิงคโปร์ ถือว่ารีสอร์ตเป็นส่วนหนึ่งของกาสิโนเท่านั้น ขณะที่ประเทศไทยกำลังร่างกฎหมายกลับหัวกลับหางกับสิงคโปร์ คือร่างเป็นกฎหมายก่อน แล้วเอาการอนุญาตให้ทำธุรกิจกาสิโนมาใส่ไว้เป็นส่วนหนึ่งของสถานบันเทิงครบวงจร
เทียบ ก.ม.สิงคโปร์ต่างกันฟ้า–เหว
นายจุลพงศ์กล่าวต่อว่า ตั้งข้อสังเกต 3 ข้อถึงรัฐบาลและคณะกรรมการกฤษฎีกา คือ 1.หากไม่มีการกำหนดสัดส่วนและจำนวนกาสิโนที่แน่นอนไว้ ต่อมานักลงทุนต่างชาติเสนอให้มีพื้นที่กาสิโนเพิ่มขึ้น อาจขัดกับหลักการกฎหมายฉบับนี้ ที่มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องพนัน 2.กฎหมายของสิงคโปร์ มีการควบคุมจำนวนกาสิโนให้เปิดได้ไม่เกิน 2 แห่ง ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2573 แต่ในร่างกฎหมายของเรากลับไม่มีการกำหนด ทั้งยังให้อำนาจคณะกรรมการนโยบายตัดสินใจเองว่าจะเปิดกาสิโน กี่แห่งและที่ไหนก็ได้ เป็นการให้อำนาจที่มากเกินไป 3.องค์ประกอบคณะกรรมการนโยบาย จำเป็นต้องมีนายกฯ และคณะรัฐมนตรี หรือไม่ เทียบเคียงกับกฎหมายกาสิโนของสิงคโปร์ นายกฯเขาไม่ได้อยู่ใน องค์กรที่ควบคุมการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้คือ Gambling Regulatory Authority of Singgapore คงมีแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่น่าตลก ให้นายกฯมานั่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายเพื่อประกอบธุรกิจสถานบันเทิงเรื่องแบบนี้
“ทักษิณ” เร่งโค้งท้ายช่วย “สลักจฤฎดิ์”
ที่สิงห์เชียงราย สเตเดียม อ.เมืองเชียงรายเวลา 12.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย หาเสียงเวทีแรก เริ่มที่การกล่าวทักทาย เป็นภาษาเหนือ ก่อนจะกล่าวปราศรัยว่าหลายคนอาจคิดว่านายทักษิณจะเอาอย่างไรกับ อบจ. ที่ผ่านมาไม่เคยสนใจเรื่องท้องถิ่น แต่วันนี้ฐานรากเสาเข็มพังซ่อมยากขึ้น ต้องใช้แนวร่วม นั่นคือใช้ท้องถิ่นให้มากขึ้น ถึงบอกว่าท้องถิ่นเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยฟื้นรากหญ้า ท้องถิ่นและรัฐบาลต้องเป็นทีมเดียวกัน ปลุกคนเชียงรายใส่เสื้อแดงกินส้ม นายยงยุทธ ติยะ ไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เปรียบเสมือนน้องรัก วันนี้นางสลักจฤฎดิ์เมียและผู้ปกครองนายยงยุทธ อาสามาเป็นนายก อบจ. ขอให้พี่น้องเลือกมาเป็นมือไม้เชื่อมโยงกับรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้อง ปัญหายาเสพติดและคอลเซ็นเตอร์สิ้นปีต้องให้จบ “บ่ละไว้เป๋นป้อ”
ปลุกคนเชียงรายใส่เสื้อแดงกินส้ม
นายทักษิณกล่าวว่า หลังน้ำท่วมเราต้องช่วยกันสร้างอะไรเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว การคมนาคมจีนสะดวกขึ้น อีกหน่อยจะมีคนตัดถนนจาก สปป.ลาว เข้ามาทางเชียงราย เป็นถนนไฮเวย์ เราต้องเตรียมรับนักท่องเที่ยว และฟื้นเศรษฐกิจให้แข็งแรง รัฐบาลนี้งานเยอะมาก เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ปัญหา วันนี้ต้องช่วยทยอยแก้ “วันนี้ตรุษจีน ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ หรือเป็นหนี้ก็ต้องใช้ ตรุษจีนชอบใส่เสื้อ สีแดง แล้วชอบกินส้ม ตรุษจีนนี้ต้องใส่เสื้อสีแดงแล้วกินส้มให้ได้ จะได้เจริญๆ” ปรากฏว่ามีประชาชนตะโกนขึ้นมาว่า “กินส้มแต่คายแล้ว” นายทักษิณจึงตอบกลับว่า “ดีๆ” รัฐบาลนี้จะรื้อปัญหาเอกสารสิทธิขึ้นมาทำใหม่ เพื่อแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน ส่วนเรื่องชาติพันธุ์ ระบบราชการช้าไปหน่อย ต่อไปจะพยายามเร่งให้มีประสิทธิภาพ เหมือนสมัยตอนเป็นนายกฯ
โอ่ 4 ผู้นำชาติอาเซียนเพื่อนกัน
ช่วงบ่ายที่โรงเรียนพานพิเศษพิทยา อ.พาน นายทักษิณขึ้นกล่าวปราศรัยเป็นเวทีที่ 2 ว่า เป็นห่วงพี่น้องในต่างจังหวัด วันนี้เศรษฐกิจพังทั่วประเทศ พี่น้องต่างจังหวัดลำบากกว่าเก่า เพราะรายได้หายไปหมด ธนาคารพาณิชย์กำไรเพิ่มขึ้น 14% ขณะที่จีดีพีโตแค่ 3% แสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ บริหารผิดพลาดมาตลอด หนี้เสียธนาคารมีเฉลี่ย 3% กู้ซื้อรถซื้อบ้านยาก ทำเศรษฐกิจแย่ กำลังทยอยแก้ น.ส.แพทองธารเมืองนอกก็ต้องไป ปัญหาก็ต้องแก้ ต่างจังหวัดก็ต้องออก ประชุมก็ต้องประชุม จึงช่วยเสริมอยู่ข้างหลัง เศรษฐกิจต้องทำให้ฟื้นก่อน เดี๋ยวนี้ความสัมพันธ์ไทย-จีนดี ล่าสุดจีนประกาศรับซื้อมันสำปะหลัง 3 แสนตัน และกำลังจะเพิ่ม 3 ล้านตัน ทำราคาขึ้น ลำไยก็เช่นกัน จะขอให้จีนเปิดตลาดต่อเนื่อง และจะเจาะตลาดเพิ่ม รวมถึงเรื่องข้าวและยางพารา จะหาวิธีทำให้ราคาดีขึ้น เพิ่มการแปรรูปนอกเหนือจากการพึ่งการส่งออก เราต้องร่วมมือกันขณะนี้มีอยู่ 3 ประเทศ คือมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย จะมีเวียดนามเพิ่มมาเป็นประเทศที่ 4 เพื่อนกันทั้งนั้นพูดกันรู้เรื่อง ต่อไปนี้กระทรวงพาณิชย์จะคิดต้นทุนราคาสินค้าทุกอย่าง ไม่ให้ค้ากำไรเกินควร 3 ปีนี้จะทำให้ได้ พี่น้องจะเฟื่องฟูเหมือนเก่า
“พิธา” เลื่อนกลับอเมริกาลุยต่อ
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน (ปชน.) ได้เลื่อนกำหนดการเดินทางไปทำภารกิจที่สหรัฐอเมริกาออกไปก่อน จากเดิมจะกลับวันที่ 28 ม.ค. เพื่อลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย โดยช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายพิธาสวมแว่นดำใส่เสื้อลายดอกสีแดง นำ นพ.
จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี พรรค ปชน. เดินหาเสียงพบปะประชาชน บริเวณตลาดกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากเป็นวันตรุษจีน (วันเที่ยว) ทำให้มีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนที่แต่งกายในชุดสีสันมาขอถ่ายรูปและเซลฟี่กับนายพิธา บางคนนำลูกมาให้นายพิธาอุ้มด้วย ก่อนขึ้นรถแห่ไปรอบเมือง เชิญชวนให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.ในวันที่ 1 ก.พ.นี้
รฟท.จ่ออุทธรณ์ “คดีเขากระโดง”
วันเดียวกัน นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นอุทธรณ์ของ รฟท. กรณีกรมที่ดินมีคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกทับที่ดินของ รฟท. บริเวณแยกเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 995 ฉบับ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,083 ไร่ ว่าอยู่ระหว่างร่างหนังสือฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ให้ถอนคำสั่งทางปกครองของกรมที่ดินและกระทรวงมหาดไทยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงใส่รายละเอียดหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ที่ผ่านมา รฟท.เคยมีการฟ้องถึงศาลปกครอง โดยคำสั่งของศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้อธิบดีกรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯตามมาตรา 61 มีประเด็นการฟ้องร้องค่าเสียหายกับกรมที่ดินที่ศาลฯปัดตกไม่รับคำร้อง ทั้งนี้ รฟท.ต้องดำเนินการฟ้องร้องในประเด็นใหม่ต่อศาลปกครองไม่ให้ซ้ำต่อคดีเดิมที่เคยมีการฟ้องร้อง
นายกฯรับน้องๆ 3 จังหวัดภาคใต้
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นำเด็กและเยาวชนจากโครงการ “เยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน” รุ่นที่ 9 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา จำนวน 120 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเจอน้องๆ ทราบว่าได้ไปดูงานที่รัฐสภา และศาลฎีกาก่อนมาทำเนียบฯ นับเป็นโอกาสเป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่ง เพราะได้ไปในสถานที่ไม่ได้เปิดให้เด็กทุกคนเข้าไปตามปกติ ขอให้เรียนรู้อย่างเต็มที่ วันนี้โลกเปลี่ยนไปรวดเร็ว ควรพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ และเราต้องทราบว่าคุณค่าของเราคืออะไร อยากให้น้องๆโตขึ้นด้วยจิตใจที่เข้มแข็งเบิกบานและต้องเคารพความแตกต่าง
คือสิ่งที่อยากให้ทุกคนปรับมายด์เซ็ต ให้รู้สึกว่าความแตกต่างนั้นสร้างสิ่งที่สวยงามได้ แน่นอนว่าถ้ามีโอกาสก็อยากลงพื้นที่ไปเจอน้องๆอีก เพราะได้รับการต้อนรับดีมากรู้สึกมีความสุขที่ได้เจอกับทุกคน ได้รับฟังปัญหาของแต่ละพื้นที่
ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินดูยอดผู้ใช้บริการ
ต่อมาช่วงเย็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสนามไชยไปยังสถานีหัวลำโพง ถือโอกาสตรวจดูความเรียบร้อยและผลตอบรับของผู้ใช้บริการจากมาตรการรถไฟฟ้าฟรี เพื่อลดปริมาณการใช้รถยนต์ในช่วงฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม. ซึ่งมีผู้ใช้บริการค่อนข้างมาก จากนั้นนายกฯทวีตผ่าน X ระบุว่า “ดิฉันได้ย้ำนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ดูจำนวนรถไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการให้บริการ เรื่องฝุ่นยังเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญเร่งด่วนในช่วงนี้ และจะดำเนินมาตรการทุกอย่างให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ชีวิตปกติโดยเร็วที่สุด” ทั้งนี้ระหว่างนายกฯใช้บริการรถไฟฟ้ามีประชาชนเข้ามาทักทาย และขอถ่ายรูปจำนวนมาก มีคุณป้าท่านหนึ่งบอกว่าดีใจมากที่เห็นนายกฯตัวจริง และฝากความคิดถึงถึงคุณพ่อ (ทักษิณ ชินวัตร) ด้วย อธิษฐานให้ได้กลับมาทุกวัน เพราะทำความดีให้กับประเทศมากมาย ฝากบอกด้วยว่าใจเย็นๆอย่าใจร้อน ยอดเยี่ยมมาก และโชคดีมากที่ได้มาเจอนายกฯเหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง
สภารับหลักการร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ตามที่ ครม.เป็นผู้เสนอ และร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ที่นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นผู้เสนอ ทั้ง 2 ร่างมีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน คือการพัฒนาการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะในรูปแบบต่างๆ โดยใช้บัตรโดยสารใบเดียวสามารถเดินทางได้ทุกระบบขนส่งสาธารณะ อำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ชี้แจงหลักการร่าง พ.ร.บ.ฉบับของ ครม.ว่า เป็นการจัดทำมาตรฐานทางเทคโนโลยีของระบบตั๋วร่วมให้มีมาตรฐานกลาง มีกำหนดอัตราโดยสารร่วมในการออกกฎกระทรวง เพื่อไปใช้บังคับในการทำสัญญาสัมปทานขนส่งสาธารณะในอนาคต
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่