“นายกฯอิ๊งค์” ถกเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว อัดคลิปใช้เอไอช่วยพูดเสียงภาษาจีนกล่อมชาวจีนแก้เกมข่าวปั่นดิสเครดิตเที่ยวไทยไม่ปลอดภัย “สรวงศ์” ชี้เหยื่อถูกหลอกไปทำงาน ไม่ใช่นักท่องเที่ยวยันยอดนักท่องเที่ยวจีนไม่ได้ลดลง แต่มีบางคน ไม่เคยมายกเลิกทริป พท.ไม่ง้อขอเสียง ปชน.หนุนกฎหมายกาสิโน “วิสุทธิ์” เชิดใส่ฝ่ายค้านมีอิสระทางความคิด “ไหม” สแกนยิบร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ชี้ช่องโหว่เพียบ จ่อส่งร่างประกบแก้แต่ละมาตราเข้มข้น จี้รัฐล้อมคอกออกใบอนุญาตโปร่งใส สกัดฟอกเงิน กมธ.ที่ดินกัดติดที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง “พูนศักดิ์” ฉะเกมการเมืองสมประโยชน์ฟอกผิดให้เป็นถูกยุคนี้ต้องไม่มี “จุลพงศ์” ดักคอจุดต่างเขากระโดงออกโฉนดโดยมิชอบ ขู่“ชำนาญวิทย์” สุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมาย จ่อตั้งกระทู้เค้นถาม “อนุทิน”

ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่เชื่อมโยงกันทั้งการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และบ่อนการพนันตามแนวชายแดน ที่ถูกบางฝ่ายนำไปขยายผลส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน

นายกฯชวนเที่ยวตรุษจีนเยาวราช

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ม.ค. ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำนายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานจัดงานตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2568 และคณะเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เพื่อมอบเสื้อภูฟ้าสีแดงลายปีมะเส็งจากภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระ กนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประชาสัมพันธ์งานตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2568 โดยนายกฯชมการแสดงเชิดสิงโตชื่อชุด “กินผักกินส้มมอบป้ายอวยพร” จากนักเรียนชมรมเชิดสิงโตมังกร 9 ไม้ โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร รับมอบส้มจากสิงโตและให้ทีมงานมอบอั่งเปาให้สิงโตตามประเพณีจีน จากนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปคณะสิงโตระบุว่า “น่ารักมาก มีหลายสีเลย ลูกต้องชอบแน่” และเชิญชวนประชาชนให้ไปเที่ยวงานเทศกาลตรุษจีนที่เยาวราช วันที่ 29-30 ม.ค.ที่จะไปร่วมงานด้วย

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 29 ม.ค. เวลา17.00 น. นายกฯและ ครม.จะไปร่วมรับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราช ดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เปิดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ถนนเยาวราช กทม.

หารือเรียกเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร เป็นประธานการประชุมหารือสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวและมาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน มีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายกฯกล่าวเปิดประชุมตอนหนึ่งว่า วันนี้นัดประชุมทุกหน่วยงานที่สำคัญ เกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยวเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั่วโลก ตอนนี้เรามีเรื่องข่าวลือและการใช้ไอโอเยอะปั่นว่าประเทศเราไม่ปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยว ได้รับแจ้งจากคนรู้จักกันมายาวนาน ส่งไลน์มาว่าเป็นห่วงเรื่องนี้จากหลายสาย ได้ยินมาหนาหู อยากให้ทุกฝ่ายมานั่งพูดคุยกัน เพื่อหาทางออกว่าเราจะสื่อสารกับทั้งโลกอย่างไรเพื่อให้ความมั่นใจว่าถ้าเขามาประเทศเราจริงๆจะดูแลอย่างไรได้บ้าง

อัดคลิปใช้เอไอชวนคนจีนมาเที่ยว

จากนั้น เวลา 11.20 น. น.ส.แพทองธาร แถลงว่า ที่ผ่านมามีข่าวนักท่องเที่ยวจีนโดนจับตัว จึงเรียกประชุมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะเราถูกปล่อยข่าวไม่จริงใช้ไอโอและข้อมูลข่าวสาร ช่วงแรกจะมีข่าวบอกว่าเข้ามาเมืองไทยจะถูกลักพาตัว ต้องเตรียมเรื่องความมั่นคงให้เต็มที่ว่านักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วจะปลอดภัย จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาถึงวันนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวยังไม่กระทบ แต่มีการปล่อยข่าวออกไปว่าคนยังไม่เคยมาเมืองไทยยกเลิกทริปไป แต่คนที่เคยมาแล้วหรือมาทุกปียังไม่หายไป ต้องดูว่าต้องสื่อสารกับใคร กระทรวงการท่องเที่ยวฯหาตัวเลขมาว่าความจริงแล้วคนยังไม่เคยมาเมืองไทย แล้วมีข่าวปลอมทำให้เขากลัว จึงต้องเตรียมการสื่อสาร ตนจะอัดคลิปใช้ AI ช่วยพูดเป็นภาษาจีน คอนเทนต์ที่พูดเป็นภาษาไทยและแปลเป็นภาษาจีนข้างล่างไม่ได้ผลดีเท่ากับคนพูดภาษานั้นๆ โดยเฉพาะของจีน วันนี้จะอัดคลิปกันเพื่อสื่อสารกับคนจีนว่าประเทศไทยพร้อมรับนักท่องเที่ยว ตำรวจพร้อม กระทรวงการท่องเที่ยวฯจัดสิ่งอำนวยความสะดวก ถ้ามาเมืองไทยสะดวกแน่นอน การท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศ ไม่อยากให้กระทบ กระเทือน จากนี้จะขึ้นไปอัดคลิปเลย

“สรวงศ์” ชี้คนจีนถูกหลอกไม่ใช่ นทท.

ด้านนายสรวงศ์กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีน ทั้ง 5 สำนักงาน ททท.ในจีนทำการบ้านอย่างหนัก นักท่องเที่ยวจีนที่ยกเลิกส่วนมากมาจากตลาดนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยมาไทยมาก่อน นักท่องเที่ยวที่เคยมาอยู่แล้วไม่ได้ถูกยกเลิก ตัวเลขวันที่ 15-16 ม.ค. มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยวันละ 20,000 กว่าคน จากปกติเฉลี่ยวันละ 16,000-17,000 คนไม่ได้ลดลง ขอเน้นย้ำอีกทีว่าแต่ละกรณีที่ผ่านมาไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่หลอกมาทำงานประเทศไทยเป็นทางผ่าน ไม่ใช่มาเที่ยวไทยแล้วถูกหลอกหรือถูกจับตัว

ติงลมปากฝ่ายค้านฉุดภาพลักษณ์

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านวิจารณ์ว่าไทยต้องการเป็นฮับของอาเซียน แต่ตอนนี้กลายเป็นฮับของอาชญากรรมข้ามชาติไปแล้ว นายสรวงศ์กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ขอพูดคำเดิมเอาที่สบายใจ สิ่งต่างๆที่พูดออกมาเป็นผลกระทบต่อประเทศชาติทั้งนั้น ถ้าเราตัดมุมมองทางการเมืองออกไป ทุกคนโดยเฉพาะสื่อมวลชน หรือคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล จริงๆแล้วการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศให้เกิดความมั่นใจ ทุกคนควรให้ความร่วมมือ

“อ้วน” เร่งสอบนายแบบจีนหายตัว

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายหยาง เจ๋อ ฉี นายแบบชาวจีนที่หายตัวไปจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า เราทำงานกันอย่างหนัก พยายามตรวจสอบเต็มที่ พูดคุยกับทูตจีน ทุกคนสบายใจทราบว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ทั้งหมด แต่เป็นบางจุด ขอเวลาทำงาน ดีกว่าประโคมข่าว ไม่ได้โทษสื่อมวลชน เพียงแต่เมื่อนักท่องเที่ยวไม่มาสะเทือนค่อนข้างมาก กรณีนายแบบจีนที่หายตัวไป ต้องดูข้อเท็จจริง คนเข้ามาเป็นแสนเป็นล้านไม่รู้หรอกว่ามีวัตถุประสงค์อะไร เช่น กรณีซิง ซิง ดูกล้องวงจรปิดไม่ได้ถูกบังคับ เดินมาด้วยความสมัครใจ อย่างน้อยเอาเขากลับคืนมาให้สบายใจก่อน ต้องดูว่าเขาเข้ามาเส้นทางธรรมชาติทำไม ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนกรณีนาย หยาง เจ๋อ ฉี ขอสอบถามข้อมูลก่อนค่อยว่ากัน เมื่อถามถึงตามแนวชายแดนมีการติดป้ายเตือนว่ากำลังจะข้ามชายแดน นายภูมิธรรมตอบว่า เรื่องนี้มีข้อเสนอเยอะว่า ควรเตือนตั้งแต่ ตม. ตั้งแต่ในประเทศ เว็บไซต์ คลิป เห็นว่าเป็นข้อเสนอที่ดี และเตรียมจะปรับปรุงทบทวนกันอยู่

สมช.อัปเดตภัยมั่นคงชายแดน

ต่อมาเวลา 12.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เป็นประธานประชุมสภาความั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จากนั้นนายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมรายงานสถานการณ์ทั่วไปของภูมิภาคตามวาระปกติที่ต้องรายงานตลอด เนื่องจากสภาพสถานการณ์ทางการเมืองและสถานการณ์ต่างๆทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไป ต้องเร่งปรับตัวเองวิธีการทำงานให้ทันต่อเหตุการณ์และหารือสถานการณ์ในเมียนมาที่มีผลกระทบโดยตรงกับชายแดนไทย โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อย แต่จะดำเนินการเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับไทยเท่านั้น โดยเสนอโครงสร้างแผนการดำเนินการเข้ามาให้ที่ประชุมพิจารณา ต้องระมัดระวังไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของเมียนมา ต้องคำนึงถึงชายแดนไทย-เมียนมาที่ยังมีปัญหาหลายจุดด้านภัยความมั่นคง ทั้งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติดและการค้ามนุษย์ ได้กำชับว่าต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษ สนับสนุนให้เมียนมาเป็นประเทศที่สงบสุขเกิดประชาธิปไตยให้เป็นที่ยอมรับ และมีการเล่าถึงการผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน ควรทำอย่างไรให้ถูกกฎหมาย ไม่ให้เกิดปัญหากับประเทศ ไทยและนานาประเทศ ในอดีตเคยมีการผลักดันออกนอกประเทศ แต่ในระยะอันใกล้นี้ยังไม่มี

พท.ไม่ง้อฝ่ายค้านหนุน ก.ม.กาสิโน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีโฆษกรัฐบาลเรียกร้องพรรคฝ่ายค้านช่วยสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ว่า วิปรัฐบาลยังไม่เห็นตัวร่างกฎหมายที่ผ่านที่ประชุม ครม.เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจของคณะกรรมการกฤษฎีกา ยังไม่รู้จะปรับปรุงเนื้อหาอย่างไรบ้าง ต้องรออีก 45 วัน จึงจะเห็นตัวร่างดังกล่าว ส่วนการไปขอความร่วมมือกับพรรคการเมืองนั้น คงต้องเห็นตัวร่างก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศ ฝ่ายค้านคงพิจารณาได้เองไม่จำเป็นต้องไปขอเสียง การทำงานในสภาฯ อะไรที่เป็นประโยชน์หากเรื่องเข้าสภาฯ มาแล้ว แต่ละพรรคคงมีประเด็นอภิปราย มีข้อมูลพูดคุยกัน ถึงเวลานั้นค่อยว่ากัน แต่การจะไปขอความร่วมมือไม่มี ฝ่ายค้านมีอิสระทางความคิดอยู่แล้ว

ไม่กังวล 20 ประเด็นซักฟอก

นายวิสุทธิ์ยังกล่าวกรณีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.)ระบุมี 20 ประเด็นร้อนที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า รัฐบาลพร้อมตอบข้อซักถามการอภิปรายของฝ่ายค้าน ไม่กังวล เป็นเรื่องดีรัฐบาลจะได้ชี้แจงข้อกังขา สนับสนุนให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นเรื่องถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจะได้เข้าใจ ตัดสินได้ว่าน้ำหนักของฝ่ายค้าน และการตอบของรัฐบาลเป็นอย่างไร มองดูเป็นผลดีต่อรัฐบาลมากกว่า เป็นโอกาสที่รัฐบาลจะได้ชี้แจง มีการถ่ายทอดไปทั่วประเทศ จะได้เห็นว่ารัฐบาลตอบการอภิปรายได้ ไม่ว่าจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หรือเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไป แบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ขณะนี้ยังไม่ทราบฝ่ายค้านจะอภิปรายตามมาตราใด

“ไหม” ชี้ช่องโหว่ ก.ม.กาสิโน

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ว่า เราไม่ได้มีปัญหากับการที่จะทำให้กาสิโนถูกกฎหมาย เพียงแต่ว่ากระบวนการต้องเป็นไปอย่างรัดกุมรอบคอบ ที่ผ่านมาพยายามบอกหลายหนว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อทำให้กระบวน การรัดกุมมากยิ่งขึ้น ให้เกิดความโปร่งใสในการประมูลใบอนุญาตแต่ละใบ รวมถึงการป้องกันการฟอกเงิน การบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และปัญหาสังคมที่จะตามมาจากการที่อาจมีคนไปเล่นการพนันมากขึ้น แต่พูดจนแล้วจนรอดยังไม่ได้มีผลตอบรับอะไร ดูจากร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาลยื่นเข้ามาเขียนกฎหมายแบบค่อนข้างกว้าง ให้อำนาจหน่วยงานใหม่ที่ตั้งขึ้นมาไปเตรียมการแก้ไขปัญหา และมีหน่วยงาน เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่าต้องออกกฎหมายลูกอีกหลายสิบฉบับด้วย สะท้อนให้เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ยังไม่ได้มีรายละเอียดสำคัญที่จะนำไปสู่การควบคุม กำกับ ดูแลอย่างเข้มข้น

สแกนยิบแก้รายมาตราเข้มข้น

“ตอนนี้ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้ยื่นร่างกฎหมายประกบ ต้องบอกว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นร่างนโยบายของฝั่งพรรคเพื่อไทย (พท.) แต่ว่าเราเตรียมข้อมูลที่จะนำไปสู่การแก้ไขแต่ละมาตราเอาไว้อย่างเข้มข้น พรรค ปชน.มีการประชาสัมพันธ์ออกไปว่าสิ่งที่เราอยากให้เป็นนั้นเป็นอย่างไรบ้าง การเลือกจังหวัดควรต้องทำอย่างไร เลือกเสร็จแล้ว แต่ละจังหวัดควรต้องทำประชามติในจังหวัดก่อนหรือไม่ การเตรียมการสำหรับป้องกันการฟอกเงิน ปัญหาการมีทุนเทาเข้ามาครอบงำอะไรต่างๆ ต้องมีการป้องกันอย่างไร รวมถึงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการต่างๆ ที่จำเป็นต้องกำหนดกรอบให้ชัดเจนมากขึ้น เราเตรียมรายละเอียดไว้แล้ว รอให้ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการของสภาฯ ให้มีการอภิปรายวาระที่ 1 ในเนื้อหาสาระสำคัญต่างๆ จากนั้นไปรอแก้ไขในชั้นกรรมาธิการต่อไป” น.ส.ศิริกัญญากล่าว

กมธ.ที่ดินสาวลึกอัลไพน์–เขากระโดง

นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเป็นอำนาจของรองปลัด มท. นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กำลังพิจารณาข้อกฎหมายคดีอัลไพน์และคดีเขากระโดงว่า กมธ.จับตาดูใกล้ชิดทั้ง 2 คดี ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเป็นมหากาพย์ยาวนาน ปล่อยให้เงียบไปไม่ได้ กมธ.ที่ดินชุดที่ผ่านมาก็เคยพิจารณากรณีอัลไพน์ เขากระโดงก็เพิ่งเชิญกรมที่ดิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้ามาชี้แจง ทั้ง 2 กรณีมีความสัมพันธ์ในเชิงการเมือง ตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้ใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อใช้ในการต่อรอง เทียบเคียงเอกสารสิทธ์ ส.ป.ก.4-01 ภูทับดาว ปล่อยให้นายทุนเข้ามายึดที่เป็นปมการเมืองชัดเจนเชื่อมโยงบุคคลที่สามกับหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง สุดท้ายต่อรองได้ผลทุกอย่างก็เงียบไป กรณีแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทยที่ดำเนินการขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไม่ว่าฝ่ายใด หรือทั้ง 2 ฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกัน อย่าพยายามใช้กลไกทางการเมืองมาฟอกให้ถูก การเมืองในยุคนี้ต้องไม่มี

ชี้จุดต่างเขากระโดงออกโฉนดมิชอบ

นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.แถลงว่า ขอเตือนไปถึงนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดมหาดไทย ที่รับผิดชอบกรณีที่ดินอัลไพน์ สั่งการเพิกถอนการขายที่ดินระหว่างมูลนิธิมหามงกุฎราชวิทยาลัย ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา กับกลุ่มบริษัทอัลไพน์ ในฐานะผู้ซื้อโดยเร็ว โดยจะใช้วิธีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหมือนกรณีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ไม่ได้แล้ว เพราะอธิบดีกรมที่ดินคนปัจจุบันเคยให้สัมภาษณ์ว่ากรณีเขากระโดงไม่เหมือนกรณีที่ดินอัลไพน์ หมายความว่ากรณีเขากระโดงเป็นการออกโฉนดและเอกสารสิทธ์โดยมิชอบ ต่างจากกรณีที่ดินอัลไพน์เพราะเป็นเรื่องของการเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดิน

ขู่ “ชำนาญวิทย์” เสี่ยงทำผิดกฎหมาย

นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ยอมรับว่านายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย เคยลงนามกรณีนี้ให้ มท.ดำเนินการตามกฎหมาย คือเห็นชอบการเพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการโดยขายที่ดิน โดยมีการอ้างถึงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของธรณีสงฆ์ จึงโอนขายเชิงพาณิชย์ไม่ได้ และนายชาดาลงนามไปตั้งแต่เดือน ก.ย.ปี 2567 ก่อนพ้นตำแหน่ง รมช.มหาดไทย อีกทั้งล่าสุดปลัดมหาดไทยยังให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของนายชำนาญวิทย์ แต่ตอนนี้นายชำนาญวิทย์ยังไม่ออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งของอดีตรองปลัดมหาดไทยขณะนั้น เป็นห่วงว่านายชำนาญวิทย์กำลังสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดตามมาตรา 49-54 เรื่องการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ปี 2539 ที่บัญญัติว่า “ต้องเพิกถอนคำสั่งที่ออกมาเพราะมีการชักจูงโดยการให้ประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย” คำสั่งอดีตรองปลัดมหาดไทยคนดังกล่าว ศาลอาญาทุจริตฯวินิจฉัยแล้วว่าเป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย ตามกฎหมายแล้วนายชำนาญวิทย์ต้องยกเลิกคำสั่งที่มิชอบนี้ได้เอง โดยไม่ต้องมีผู้ร้องหรือให้รัฐมนตรีสั่งการ

จ่อตั้งกระทู้เค้นถาม “อนุทิน”

“ขอเตือนไปยังนายชำนาญวิทย์ว่าท่านต้องรีบเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้ที่ดินที่เป็นธรณีสงฆ์ตามความเห็นของกรรมการกฤษฎีกา กลับมาเป็นของวัดธรรมิการามวรวิหาร ตามพินัยกรรมของยายเนื่อมและอาจรวมไปถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยที่หากไม่ดำเนินการ โดยคิดว่าแม่นยำในข้อกฎหมาย และระเบียบราชการคงไม่มีใครทำอะไรท่านได้ ขอให้ดูกรณีอดีตรองปลัดมหาดไทยเป็นตัวอย่างที่ถูกลงโทษจำคุก 2 ปี และหากนายชำนาญวิทย์ยังละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อาจเจอข้อหาดังกล่าวเช่นกัน สำหรับสภาฯ หากข้าราชการประจำไม่ขยับ คือไม่ทำอะไรเลยภายใน 2-3 เดือนนับจากนี้ จะตั้งกระทู้ถามนายอนุทินว่าสั่งให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยปฏิบัติตามกฎหมายในกรณีที่ดินอัลไพน์อย่างไร” นายจุลพงศ์กล่าว

นายกฯเปิดตัวอย่างบ้านเพื่อไทย

เมื่อเวลา 14.15 น. ที่โถงกลางประตู 1 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานพิธีเปิดชมห้องตัวอย่างและจองสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทย มี รมต.เข้าร่วมคึกคัก อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นวันที่ดีมากๆที่ได้มาเห็นห้องตัวอย่างเป็นรูปธรรม มีคนไทยกว่า 5.87 ล้านครอบครัวหรือ 27% ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง รัฐบาลนี้เน้นย้ำการช่วยเหลือคนทุกกลุ่มให้เข้าถึงสวัสดิการรัฐ บ้านเพื่อคนไทยจะช่วยซัพพอร์ตผู้ที่เริ่มทำงานพยายามเก็บตังค์เพื่อมีบ้าน แต่ราคาบ้านสูงขึ้นเรื่อยๆ ต้องไปซื้อบ้านอยู่ไกลที่ทำงาน เดินทาง 3 ชั่วโมง ทำให้เหนื่อยล้า หมดแรง ประเทศชาติพัฒนาไม่ได้เท่าที่ควร หากมีที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานประหยัดเวลา ทำให้มีศักยภาพในการทำงานมากขึ้น จากนั้นนายกฯเดินเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างทั้งแบบบ้านเดี่ยวและคอนโด มีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีและ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาวเข้าร่วม

รบ.เร่งขยายรถไฟรางคู่ไปถึงมาเลย์

วันเดียวกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะเดินทางไปร่วมประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สหพันธรัฐสวิส แต่การประชุม ครม. วันที่ 21 ม.ค.ยังคงเป็นปกติ มอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมตามระเบียบวาระปกติ สำหรับการประชุม ครม.นอกสถานที่จะมีขึ้นวันที่ 16-18 ก.พ.ที่ จ.สงขลา นายกฯสั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลเพื่อเสนอต่อที่ประชุม เช่น รถไฟทางคู่ ที่ตอนนี้ไปถึง จ.ชุมพร จะพิจารณาไปให้ถึงชายแดนมาเลเซีย รวมไปถึงการบริหารจัดการน้ำและเรื่องการศึกษา

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่