แรงต้านการตั้งบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายลามหนัก คัดค้านมติ ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทน เมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวหารายได้ก้อนโต เข้าประเทศ ควบคู่ไปกับแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย ดึงเงินใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน
นอกจากหน่วยงานภาครัฐอย่างคณะกรรมการกฤษฎีกาจะตั้งข้อสังเกตร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน มีความมุ่งหมายเพื่อวัตถุประสงค์ใด ระหว่างผลักดันนโยบายแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย เพราะมีความแตกต่างกันมากในการออกแบบ กลไกตามกระบวนการออกกฎหมาย
ขณะที่คณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์มองว่าการดำเนินธุรกิจกาสิโนต้องระมัดระวัง ที่สำคัญเงินพนันจะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นตัวสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจประเทศ เนื่องจากไม่ทำให้เกิดผลผลิต ดังนั้นธุรกิจกาสิโนอาจไม่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อระบบ เศรษฐกิจมากเท่าที่คาดการณ์ไว้
ส่วนท่าทีของแกนนำฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ออกมาแสดงความกังวลห่วงว่าประเทศไทยจะเป็นแหล่งฟอกเงินของพ่อค้ายาเสพติด และกลุ่มทุนสีเทาผ่านช่องทางการตั้งบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย และความโปร่งใสในการดำเนินโครงการจะไม่ถูกผูกขาดโดยนายทุนเพียงแค่ไม่กี่ราย
ฝั่งภาคประชาสังคมก็เริ่มเคลื่อนไหว ปลุกกระแส มีการรณรงค์ล่ารายชื่อ ผ่านเฟซบุ๊ก “มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน” ให้ประชาชนร่วมแสดงจุดยืนไม่เอากาสิโน ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมตามมา ทั้งปัญหาอาชญากรรม การฟอกเงิน การทุจริต คอร์รัปชัน การประกอบธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ แค่เริ่มต้นก็มีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 2 หมื่นคน
เสียงวิจารณ์ดังสนั่นรอบทิศ สารพัดปมเสี่ยงลามเป็นวงกว้าง ดูแนวโน้มแล้ว รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเหนื่อยหนักแน่ในการผลักดันโครงการสถานบันเทิงครบวงจร ตามขั้นตอนที่ต้องลุ้นอีกหลายชั้น ทั้งการส่งร่างกฎหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา การฝ่าด่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
...
เรียกว่างานนี้ยังต้องขับเคี่ยวฟาดฟันกันอีกหลายยก ทั้งการต่อสู้กับกระแสสังคม การพิจารณาข้อกฎหมายวัดพลังเสียงในสภาและที่สำคัญ คือการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองของซีกการเมืองต่างๆ ที่จะต้องรอมชอมผลประโยชน์ให้ลงตัว ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม