เป็นเพียงแค่ไขกุญแจเข้าไปเท่านั้นยังไม่ได้ดูรายละเอียดว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง เมื่อ ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือที่เรียกกันเพื่อจำให้ง่ายก็คือกฎหมาย “กาสิโน” นั่นแหละ

ความจริงเรื่องนี้มีการพูดกันมานานแล้วแต่ไม่สามารถทำให้เห็นจริงได้ เนื่องจากมีเสียงคัดค้านหนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่สถานการณ์

มาถึงวันนี้รัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีก็ถูกควักออกมาว่ากันอีกที โดยกฎหมายฉบับนี้ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้ปล่อยสารตั้งต้นมาก่อนหน้านี้โดยระบุว่าจะเน้นการท่องเที่ยวเป็นหลักไม่เน้นเรื่องการพนัน

พูดง่ายๆคือมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวไม่ได้หวังรายได้จากการพนัน เพราะประเทศที่เปิดให้มีกาสิโนถูกกฎหมายนั้น

ไม่ได้มุ่งเน้นแต่หวังรายได้จากนักท่องเที่ยวที่จะเกิดเป็นสถานบันเทิงครบวงจรมากกว่า

นั่นเป็นแนวคิดของเขาที่คาบเกี่ยวระหว่าง “สถานบันเทิง” กับ “กาสิโน”

นั่นจึงเป็นคำถามว่ากฤษฎีกาที่ถามว่ากฎหมายที่รัฐบาลต้องการนำมาใช้นั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไรกันแน่

“ระหว่างท่องเที่ยวกับการพนัน”!

เพราะรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภาว่าจะออกกฎหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อหารายได้เข้ารัฐ

ขั้นตอนต่อไปรัฐบาลก็ต้องจัดทำร่างกฎหมายฉบับนี้อย่างชัดเจนว่ามีวัตถุประสงค์อย่างไรแน่ เพื่อให้กฤษฎีกาตรวจสอบก่อนที่จะให้ ครม.เห็นชอบแล้วเสนอให้สภาพิจารณา

ดังนั้นกว่าจะคลอดออกมาได้ก็ต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร

ที่สำคัญก็คือยังไม่รู้ว่าที่ประชุมสภาจะเห็นชอบหรือไม่เพราะที่ผ่านมา ครม.นั้นเป็นเพียงหลักการเบื้องต้นเท่านั้น

แน่นอนว่าโดยหลักการเพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวเนื่องจากจะเป็นสถานบันเทิงครบวงจรมีทุกอย่างที่ทำให้ผู้คนพอใจและสนุกสนาน

...

ประเด็นคงไม่มีใครคัดค้าน

แต่ประเด็นที่จะให้เป็นสถานการพนันถูกกฎหมายนั้นคงมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย พวกที่เห็นด้วยก็จะบอกว่าเป็นเรื่องดีที่จะนำเงินใต้ดินขึ้นมาสู่บนดินเสียทีเพราะมีเม็ดเงินจำนวนไม่น้อย

อีกทั้งคนไทยนั้นขนาดมีกฎหมายห้ามก็ยังกล้าเล่นกล้าเปิดบ่อนจนตำรวจต้องไล่ล่ากลายเป็นปัญหาที่เรื้อรังแก้ไม่ได้สักที

จนพูดกันว่าคนไทยนั้นชอบเล่นการพนันเป็นชีวิตจิตใจ

เมื่อห้ามไม่ได้ก็เปิดให้เล่นเสรีกันไปเลย!

อีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่าทำให้สังคมเสื่อมทรามลงไปอีกคนไทยจะเป็นทาสการพนันไปทั้งบ้านทั้งเมือง

ที่สำคัญคือจะเป็นแหล่งฟอกเงิน-ทุนเทา

“นักการเมือง” ก็จะหาประโยชน์จากเรื่องนี้...

วังวนมันจึงอยู่ตรงนี้ทำให้ไม่สามารถหาทางออกได้ว่าจะเอายังไงกันแน่ แต่ในสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมโลกปัจจุบันที่หลายประเทศมีสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโนนั้นเขาไม่มีปัญหาและสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล

อยู่ที่การสร้างบริหารและจัดการให้ดีเท่านั้นก็น่าจะทำได้

อีกทั้งโลกปัจจุบันนั้น “นักพนัน” ลดน้อยลงไปตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป รายได้จริงๆอยู่ที่ความเป็นสถานบันเทิงมากกว่าการพนัน

กฤษฎีกาเป็นด่านแรกที่จะต้องทำการตรวจสอบกฎหมายฉบับนี้อย่างละเอียดรอบคอบ หากเห็นว่ารัฐบาลน่าจะทำได้ก็ต้องมีมาตรการที่ควบคุมให้รัดกุมตามหลักสากลเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา

โดยเฉพาะช่องทางที่จะทำให้นักการเมืองฉวยประโยชน์

ถ้าหากทำอย่างที่ว่ามานี้ได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!


"สายล่อฟ้า"

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม