“นายกฯอิ๊งค์” ล้อมวงคุยหนูๆน้องๆ ยันกำลังใจดี ไม่มีเหน็ดเหนื่อย โอดครวญนักการเมืองหญิงทั่วโลกตกเป็นเป้าบูลลี่ ยกแรงบันดาลใจ “คุณพ่อ” มีส่วนสำคัญสุด เผย “บุ้งกรอบ” เมนูโปรดในครอบครัว เพื่อไทยแจงภาพ “ทักษิณ-พิธา” ใกล้ชิด แค่ยินดีในงานมงคล “เด็จพี่” เหน็บ กกต.เอา AI มาทำแทนดีกว่า “วรชัย” ไล่ “ชวน” ไปกวาดบ้านตัวเองก่อน “จุรินทร์ “ยก 8 ปัจจัย ทำการเมืองปี 68 เข้มข้นขึ้น เกมชิงไหวชิงพริบอะไรก็เกิดขึ้นได้ “เสี่ยอ้วน” ไฟเขียว ทอ.จัดซื้อกริพเพนฝูงใหม่

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่ง ล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนเด็กและเยาวชน ที่มาร่วมงาน วันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล โอดครวญนักการเมืองหญิง ทั่วโลกตกเป็นเป้าของการถูกบูลลี่ แนะทางแก้ต้องรู้คุณค่าของตัวเอง ว่าเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้เพื่ออะไร และต้องมีสติเยอะๆ

“อิ๊งค์” นั่งล้อมวงคุยหนูๆ น้องๆ

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 11 ม.ค. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างร่วมกิจกรรม “นั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนเด็กและเยาวชนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ” จากกรุงเทพฯ นครปฐม และสมุทรปราการ จำนวน 40 คน รวมถึงถ่ายทอดผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ว่า จบจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย โรงเรียนหญิงล้วน แล้วไปต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ สาขาโรงแรม แต่สรุปมาทำการเมืองแทน อะไรที่เราแพลนไว้ไม่ได้ตามที่เราแพลนทุกอย่าง คำขวัญวันเด็กถึงได้พูดว่าพร้อมปรับตัวสู่อนาคต ช่วงหนึ่งที่เปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนสอบถาม มีนักเรียนจากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ถามว่า เหนื่อยหรือเปล่ากับ การทำงานในตำแหน่งนายกฯ น.ส.แพทองธารตอบว่า คิดว่าทุกตำแหน่งเหนื่อยคนละแบบ เป็นนายกฯ เหนื่อยแต่เหนื่อยปกติ อาจมีวันหยุดน้อยหน่อย เพราะ เราหยุดอาจโดนว่าก็เลยไม่ได้หยุด เป็นนายกฯหยุดอาจผิดเล็กน้อย แต่ความจริงไม่เหนื่อยเพราะมีกำลังใจที่ดีกับผลงานที่ทำออกไป

...

โอดนักการเมืองหญิงถูกบูลลี่

ขณะที่นักเรียนจากโรงเรียนหอวัง สอบถามว่า เป็นผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดคิดว่ายากหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ทุกอายุมีความสามารถ คิดว่า เนื้องานไม่ได้ต่างกับผู้ชาย แต่ยังมีการบูลลี่นิดนึงในความที่เราเป็นผู้หญิง ถ้าสังคมเปิดกว้างขึ้นมีการ พัฒนาตรงนี้มากขึ้น และเข้าใจมากขึ้น ตรงนี้จะน้อยลง เคยอ่านหนังสือบอกว่านักการเมืองหญิงทั่วโลกจะถูกบูลลี่ในเรื่องต่างๆ สมมติเป็นผู้หญิงทำไมใส่ชุดนี้ ชุดนั้น แต่ผู้ชายใส่ชุดสูทชุดเดียวจบเลยไม่มีใครสนใจ สิ่งที่ยากคือตรงนี้เพราะเราเป็นผู้หญิงโดนบูลลี่ในเรื่องนี้ ถามว่าทำอย่างไร เราต้องรู้คุณค่าของ ตัวเราก่อน ต้องรู้ว่าเรามาทำตรงนี้เพื่ออะไร เรามีดี อะไรบ้าง เราอยากทำเรื่องดีๆให้ใครบ้าง นี่คือสิ่งที่เรา ตั้งใจและต้องมีสติเยอะๆ คำนี้สำคัญเผื่อโตขึ้นไป จะรู้สึกว่าคำนี้สำคัญมากคือคำว่าสติ

ย้ำอีก “คุณพ่อ” คือแรงบันดาลใจ

ต่อมา เด็กนักเรียนจากโรงเรียนราชวินิตถามว่า อะไรคือแรงบันดาลใจของนายกฯ น.ส.แพทองธารตอบว่า แรงบันดาลใจมีหลายอย่าง แรงบันดาลใจที่หนึ่งคือคุณพ่อเคยเป็นนายกฯ เคยทำนโยบายไว้ให้ ประเทศชาติ จนถึงทุกวันนี้คือนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนฝั่ง นโยบายนี้ยังอยู่ยังได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ ทำให้ รู้สึกว่าอยากทำนโยบายนี้ ไม่ว่าตัวไปอยู่ที่ไหนแต่ประโยชน์นี้ยังอยู่ที่ประชาชน ถ้าทำได้จะรู้สึกภูมิใจ และรู้สึกว่าเรื่องดีๆยังตกอยู่ที่ประชาชน ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม อันนี้คือแรงบันดาลใจแรก ส่วนแรงบันดาลใจที่สองจากที่เห็นประเทศชาติวุ่นวาย แล้วเรามีโอกาสมานั่งในตำแหน่งนี้ ทำให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ และแรงบันดาลใจที่สามคือลูกๆ อย่างน้อยในเทอมที่เป็นนายกฯ ได้สร้างสิ่งดีๆให้ไว้ กับประเทศ นั่นก็เป็นการเตรียมพร้อมอนาคตส่วนหนึ่ง ให้กับลูกๆด้วย

“บุ้งกรอบ” เมนูโปรดในครอบครัว

ขณะที่เด็กจากโรงเรียนสมาคมพยาบาลไทยจังหวัดน่านถามว่า เห็น “พี่อิ๊งค์” ทำกับข้าวให้ลูกๆกิน คิดว่า “พี่อิ๊งค์” เป็นแม่ที่ใจดี มีเมนูอาหารที่จะมาแนะนำพวกหนูหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ตอนมี ลูกคนแรกตอนนั้นเป็นช่วงโควิด-19 ทำอาหารให้ ลูกทานได้ 3 มื้อ และเมนูโปรดที่ทำกับลูกคือ ที่บ้าน ปลูกผักปลอดสารพิษก็ให้น้องๆไปเก็บผักและนำมา ทอดกรอบ เราเรียกกันง่ายๆในบ้านว่า “บุ้งกรอบ” ทำง่ายๆแค่ผสมแป้งสำเร็จรูปและชุบให้เด็กๆทอด

พท.แจงภาพ “ทักษิณ–พิธา” ใกล้ชิด

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จับมือและพูดคุยกันในงานฉลองมงคลสมรสระหว่าง 2 สส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน ว่า นายทักษิณไปเป็นประธานงาน แต่งงาน ในฐานะผู้ใหญ่ และผู้นำจิตวิญญาณของพรรค เพื่อไทย ท่านไปร่วมแสดงความยินดี ส่วนนายพิธาเป็นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และถูกตัดสิทธิทาง การเมือง เจ้าสาวก็เป็น สส.พรรคประชาชน การที่ 2 คน มาเจอกันในงานแต่งงานคงไม่มีวาระทางการเมือง ที่นายพิธาไปสวัสดีนายทักษิณเป็นเรื่องที่ดี เรื่องงาน แต่งกับการเมืองเป็นคนละประเด็นกัน แต่เป็นเรื่องราว ที่ดี ทั้ง 2 คน ก็บอกว่าไม่มีคุยเรื่องการเมือง แต่คุยกัน เรื่องบ้านเมือง นายพิธาสอบถามสารทุกข์สุกดิบนายทักษิณถือเป็นสัญญาณว่าต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ถ้าทุกฝ่ายยึดประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ จะไม่มี ความขัดแย้ง เป็นบรรยากาศความปรองดองสมานฉันท์กัน คิดว่าประชาชนเห็นแล้วสบายใจ

เหน็บ กกต.เอา AI มาทำแทนดีกว่า

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค เพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งสัญญาณเตือนเรื่องการปราศรัยหาเสียงของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง องค์การบริหารส่วนจังหวัดของพรรคเพื่อไทย เข้าข่าย หมิ่นเหม่สุ่มเสี่ยง หลังหยิบยกนโยบายระดับชาติของ รัฐบาลไปพูดบนเวทีปราศรัยว่า ต้องขอบคุณประธาน กกต.ที่ออกมาชี้แนะตักเตือน แต่อยากให้ กกต.ยึดหลักความเป็นจริง อย่าไปอิงนิติศาสตร์เต็มร้อย ถ้าเป็นแบบนั้นเอา AI มาทำหน้าที่แทนก็ได้ ไม่ต้องใช้ ดุลพินิจใช้หัวคิด หรือใช้หัวใจกลั่นกรอง บริบทการหาเสียงท้องถิ่นจะให้ปราศรัยเล่นมุกจิ้งจก ตุ๊กแก ทำไร่ ขายหวยที่ตำบลนั้นอำเภอนี้ คงดูจั๊กจี้เกินไป คนเคยเป็นนายกฯมาแล้ว 2 สมัย แสดงวิสัยทัศน์ไปไกลทั่วโลก จะพูดนโยบายระดับชาติไม่น่าแปลก กกต.ไม่น่าไปโฟกัสจับผิดอะไร อะลุ่มอล่วยกันดีกว่า สิ่งที่อดีตนายกฯพูดล้วนแต่เป็นเรื่องประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ถ้าไปพูดนโยบายเสื่อมเสีย พาชาติล่มจมก็ว่าไปอย่าง ถ้าประเทศชาติได้ประโยชน์ท้องถิ่นก็ย่อมได้ประโยชน์

โฆษณานโยบายรัฐบาลเรื่องปกติ

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่รับฟังเขาไม่มองว่าเป็นความเสียหายอะไร อยากให้ กกต.คิดบวก เรื่องจ้องจับผิดพร้อมบวก เป็นหน้าที่ ของเหล่านักร้องขาประจำที่เค้าทำงานกันอยู่แล้ว อดีตนายกฯหายใจดังหน่อยก็จะร้อง การปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล การแนะนำแนวทางการ บริหารราชการแผ่นดิน เป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะรับเอาไปใช้หรือไม่ก็อีกเรื่อง แต่สิ่งที่อดีตนายกฯพูดไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ไม่มีข้อห้ามอะไร ท่านพูดเสนอแนะไม่ใช่การสั่ง ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าเป็นการ ควบคุมครอบงำ หรือชี้นำรัฐบาล นักร้องทั้งหลายที่จะ นำเอาเรื่องนี้ไปร้องต้องพึงระวัง ตัวอย่างมีให้เห็นกันแล้ว จากที่คิดว่าเป็นโจทก์กลับต้องเป็นจำเลยเองก็มี

“วรชัย” ไล่ “ชวน” กวาดบ้านตัวเอง

นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรค เพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า เป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกงว่า นายชวนเคยพูดว่า นายทักษิณทำประเทศเหมือนธุรกิจ ทำอะไรไม่ถูกต้อง ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ พูดมา 17-18 ปีแล้ว นายชวน ต้องกลับมาดูตัวเองว่าเมื่อก่อนนำพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร แล้ววันนี้ในพรรคประชาธิปัตย์นายชวนมีพวกกี่คน ที่เคยบอกว่าต้องมีคนคอยปิดทองให้ แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเป็นทองเก๊ วันนี้หายละลายจนดำไปหมดแล้ว เพราะพรรคตัวเอง วันนี้คนยังไม่ให้ความเคารพและเชื่อถือ แล้วจะไปว่า คนอื่นได้อย่างไร ที่สำคัญที่บอกว่าไม่โกงควรหันไปดู คนในครอบครัวว่าทำตัวดีหรือไม่ หากคนในบ้านตัวเองยังกวาดไม่สะอาดคนเขาจะว่าตามหลังได้

“จุรินทร์“ ยก 8 ปัจจัยการเมืองข้น

วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในปี 2568 จะมีความเข้มข้นขึ้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ มีปัจจัย 8 ข้อ ที่ส่งผลกระทบต่อการเมือง คือ 1.เข้าสู่ปีที่สามของการเลือกตั้ง ถือเป็นครึ่งหลังของวาระรัฐบาล 2.มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่มีความสำคัญกับการเมืองใหญ่ เพราะการเลือกนายก อบจ.คือการชิงธงการเมืองใหญ่ในอนาคต ใครได้นายก อบจ.มาครอบครองจะมีผลต่อการได้อำนาจ และเงินมาช่วยสนับสนุนการเมืองใหญ่ 3.จะเป็นปีแห่งการชิงไหวชิงพริบที่เข้มข้นขึ้น เห็นได้ชัด เช่น เรื่องค่าไฟฟ้า ฝ่ายหนึ่งลดค่าไฟจาก 4.18 บาท เหลือ 4.15 บาท ลดไป 3 สตางค์ แต่อีกฝ่ายเกทับจะลดเหลือ 3.70 บาท 4.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นนโยบายหาเสียงของหลายพรรค รัฐบาลชุดนี้ถอยจากนโยบายเร่งด่วน กลายเป็นนโยบายธรรมดา ที่สำคัญคือการแก้ทั้งฉบับที่นำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร. เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จะมีความขัดแย้งกันทั้งในระหว่างพรรคการเมืองและวุฒิสภา ว่าต้องทำประชามติ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้งกันแน่

เกมชิงไหวชิงพริบอะไรก็เกิดขึ้นได้

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า 5.มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่สมควรแก่เวลาดำเนินการ แต่ขึ้นอยู่กับข้อมูลของฝ่ายค้าน สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นคือฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน มากกว่าตรวจสอบองค์กรอิสระหรือกลไกอื่นๆ เพราะจะทำให้ภาพการอภิปรายเบลอไม่ตรงเป้า 6.การปรับคณะรัฐมนตรี หากฝ่ายค้านอภิปรายตรงเป้า การปรับ ครม.อาจเกิดขึ้นได้ แม้แพ้เสียงในสภา 7.เรื่องการยุบสภา เชื่อว่าไม่มีรัฐบาลใดอยากยุบสภา จะยุบสภาก็ต่อเมื่อไม่มีทางไปแล้วเท่านั้น และ 8.ที่บอกอะไรก็เกิดขึ้นได้ คือเรื่องคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯและผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย 13 เรื่อง เป็นประเด็นสำคัญที่อาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในทางการเมือง ถ้าคดีเหล่านี้ถูกวินิจฉัยในทางลบกับรัฐบาล

ไฟเขียว ทอ.จัดซื้อกริพเพนฝูงใหม่

ที่ฝูงบิน 601 กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดหาเครื่องบินขับไล่เพิ่มเติมของกองทัพอากาศว่ามี 2 แบบ คือ ฝูงบินกริพเพน และฝูงบินเอฟ-16 การจัดหามาเพิ่มเติมเราอยากให้มีทั้ง 2 ส่วน จะได้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้มาเห็นสมรรถนะการบินของทั้ง 2 แบบแล้ว ให้ทางกองทัพอากาศคัดเลือกแบบเครื่องบินขับไล่ที่จะนำเข้ามาเพิ่มเติมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพน ทางบริษัทที่จัดขายให้เรามีสิ่งใดจะให้กองทัพอากาศได้บ้าง เช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยี เป็นต้น คิดว่าภายในปี 2568 น่าจะจบเรียบร้อย เราต้องการเพิ่มสมรรถนะให้กองทัพอากาศอีก 1 ฝูงบิน เมื่อถามว่ามั่นใจในสมรรถนะในเครื่องกริพเพนหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า มั่นใจในกองทัพ เพียงแต่ขอดูรายละเอียด ว่าราคาไม่เกินงบที่เรามีและสมเหตุสมผล ส่วนเอฟ-16 ได้พูดคุยกับทูตสหรัฐฯแล้ว อธิบายในนโยบายของเราให้เข้าใจว่า เราไม่มีนโยบายกู้เงินไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เราพยายามใช้เงินที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มั่นใจว่าจะตัดสินใจได้ในเร็ววันนี้

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่