กระบวนท่าซุปเปอร์ซีอีโอ ทุบก่อนเจรจา
ผู้สันทัดกรณี อ่านท่าทีอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ละม้ายคล้ายกับว่าที่ผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกา “โดนัลด์ ทรัมป์” ในลีลาออกบทดุ
มีรายการฮอตฮิตให้ติดตาม “ทรัมป์ทูเดย์-โทนี่รายวัน”
ทีท่าขึงขัง เดี๋ยวทุบ เดี๋ยวยึด เดี๋ยวถอน แล้วก็พลิกสู่บทหวานได้เสมอ
ก็น่าจะเป็นตำราเดียวกัน หลักการกลยุทธ์เจรจาของอดีตผู้บริหารภาคธุรกิจมหาเศรษฐี ที่เข้าสู่ถนนการเมือง ก่อนเปิดเจรจาก็ต้องบู๊ดุดันเพิ่มอำนาจต่อรองไว้ก่อน
บทวิเคราะห์ว่าที่ผู้นำโลก และอดีตนายกฯประเทศไทยที่ยกมา ก็เพื่อย้อนกลับมาสู่ซีรีส์การเมืองในประเทศไทย ณ วันนี้ โฟกัสไปที่พรรคร่วมรัฐบาล และสัมพันธภาพป้อมค่ายสไตล์หนังไทยย้อนอดีต
แนวฮาร์ดคอร์จำเลยรัก เดี๋ยวตบ เดี๋ยวจูบ สลับกันไป
“ทักษิณ” กับห้วงเวลาโชว์เต็มภาคภูมิ บู๊สนั่นจอ ไม่กริ่งเกรงหน้าไหน
ทั้งในบทผู้ครอบครองดูแลลูกสาวหลังม่าน ออกสู่หน้าโรงกันถี่ๆ โชว์วิสัยทัศน์ เปิดไต๋กางพิมพ์เขียวนโยบาย โครงการรัฐบาล เหมือนมอบหมายสั่งการเป็นรายวัน
จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทีท่าใน “อำนาจเชิงซ้อน” เจอคำค่อนขอด “ผู้นำตัวจริง นายกฯอีกคน”
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวจะรู้สึกอึดอัด ประกาศล่าสุดทำนองไม่แสลงใจใดๆ แต่มั่นใจเพราะเป็นคุณพ่อที่เคยประสบความสำเร็จ มองไกลมีวิสัยทัศน์ ก็ต้องรับฟัง
โดยเฉพาะที่นายกฯหญิงต้องอาศัยอดีตผู้นำเป็นตัวช่วยกิตติมศักดิ์ ย่อมไม่พ้นโหมด “การเมือง” ในห้วงที่ผู้เป็น “พ่อ” เริ่มใส่เกียร์เดินหน้า ลุยทุกเม็ด
การบริหารจัดการอำนาจหลังฉากให้ราบรื่น ประคองลูกสาว ในประเด็นสัมพันธภาพรัฐบาล สูตรคณิตศาสตร์ตัวเลข สส. เป็นแนวรบทางลึกพรรคร่วมฯ 3 ฝ่ายถ่วงดุลกันเพื่อไทย-ภูมิใจไทย -รวมไทยสร้างชาติ
...
กับพรรคร่วมเบอร์ 2 อย่างภูมิใจไทย หอกข้างแคร่สีน้ำเงินแม้ทำหงุดหงิด แต่ที่ผ่านมาก็พูดคุยกันได้ เพราะยังไงก็เข้าใจในพันธุกรรมการเมืองคล้ายกัน
แม้จะต้องตั้งโต๊ะต้มบะหมี่มาม่ากันถี่หน่อยก็ตามที
แต่กับตัวเอกหนังไทยย้อนยุคอีกราย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน กับหน้าที่ประมุขพรรครวมไทยสร้างชาติ บทเฮี้ยวที่ “ทักษิณ” ค่อยๆสยบ
แม้หงุดหงิดว้ากบทคุณแอบอีแอบของอีกฝ่าย จัดการปาดหน้า ชิงแต้มนโยบายพลังงานของ “รองนายกฯจอมเนี้ยบ” ด้วยแผนทุบราคา หั่นค่าไฟฟ้าที่เหนือกว่า
เบียดเบรกกระแส “รองฯพี” ได้ชะงัก
ช่วยลูกสาวรักษาดุล ตรึง “อำนาจนำ”
จากนั้นก็พลิกสู่บทปลอบประโลม เปิด “บ้านจันทร์ฯ” กินบะหมี่พูดคุยกับรองนายกฯผู้แข็งกร้าว ตบ–จูบ ตามสูตรถึงเวลาต้องรักษาสัมพันธภาพ ยังไม่ถึงเวลาต้องหักหาญให้ออกนอกวง
แม้จะไม่หวั่น 36 เสียงรวมไทยสร้างชาติถอนตัว หรือลอยแพเขี่ยทิ้ง เพราะมีมือขยันมือเติบ อาสาบริหารจัดการ ดึงเสียง สส. รทสช. ให้มาหาโอกาสใหม่ๆ ค่ายใหม่ได้
ไม่แพ้สูตรผ่าพรรคลุงบ้านป่าฯ “พลังประชารัฐโมเดล”
เพียงแต่เดิมพันกับรวมไทยสร้างชาติ ไม่ใช่แค่เรื่องช้อนเสียง สส. ดึงแต้มบอนไซพีระพันธุ์ เพราะชื่อชื่อนี้เอาเข้าจริงก็ไม่ธรรมดา กับผู้มีอุปการคุณหลังฉาก มีปีกอนุรักษ์นิยมดั้งเดิมคอยหนุน
เมื่อดีลใหม่ยังไม่จบ แผน “พาน้องกลับบ้าน” ยังไม่สัมฤทธิผล ก็ไม่เสี่ยงหักพลังขั้วเก่า
เป็นปัจจัยพิจารณา ยั้งดาบในมือ
ถึงมั่นใจแต่อดีตนายกฯมีบทเรียน ลดดีกรีผลีผลาม รอจังหวะเชือดจังหวะเฉือนได้ก็คิวนี้
เพราะตรวจสภาพแล้ว ชื่อ “พีระพันธุ์” ก็จัดว่าไม่ธรรมดา ผู้อุปการคุณหลังฉากก็ใช่จะไม่มี
จัดอยู่ในข่าย “คนมีของ”
ก็ต้องค่อยๆ นวดกล่อมก่อนทุบอยู่เหมือนกัน.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม