เดิมทีคอการเมืองจะโฟกัส การชิงอำนาจขั้วอนุรักษ์ ระหว่างเพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย ระหว่างบ้านจันทร์ส่องหล้า กับบ้านใหญ่บุรีรัมย์ จากความขัดแย้งในเชิงอำนาจ แต่เอาเข้าจริง ทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามเกมภูมิใจไทยในฐานะพรรคการเมืองกับภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ว่ากันไปตามเนื้อผ้า
นับตั้งแต่ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงไปพูดบนเวทีหาเสียงนายก อบจ.ว่า พรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่สะดวกใจที่จะร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยก็ให้ยื่นใบลาออกได้ตลอดเวลา คอการเมืองเริ่มตั้งคำถาม จะหมายถึงพรรคภูมิใจไทยพรรคเดียวหรือรวมเอาพรรคร่วมรัฐบาลอื่นด้วย
เหตุผลเริ่มกระจ่างขึ้นหัวหน้าพรรคการเมืองที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม.วันนั้น ที่อดีตนายกฯทักษิณหมายถึง หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ด้วยหรือไม่ เมื่่อนำเหตุผลอื่นมาประกอบ เช่น อนุทิน ชาญวีรกูล ยังเข้านอกออกในบ้านจันทร์ส่องหล้าประจำ ครูใหญ่ก็เคยเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ไปประชุมที่ไหนไปตรวจงานที่ไหน ลงพื้นที่จังหวัดไหนก็ยังเห็นภาพของ อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ไปด้วยทุกครั้งแต่ไม่เคยเห็นเงาพีระพันธุ์เลย
ที่เห็นชัดเจนคือนโยบายรัฐบาลด้านพลังงาน พีระพันธุ์ เข้ามาประกาศนโยบาย รื้อ ลด ปลด สร้าง โครงสร้างด้านพลังงาน อ้างเพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทลายการผูกขาดด้านพลังงาน ทำให้ราคาเชื้อเพลิงลดลง ลดราคาน้ำมัน ลดค่าไฟฟ้า เป็นนโยบายสวยหรู ถูกใจชาวบ้าน คะแนนนิยมมาเต็ม เปลี่ยนแปลงระบบการสำรองน้ำมันจาก 30 วันเป็น 90 วัน ซึ่งถ้าเป็นประเทศมหาอำนาจหรือประเทศที่มีแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติ เช่น สหรัฐฯ จะสำรองน้ำมันกี่วันก็ได้ยิ่งนานก็ยิ่งดี เพราะเป็นประโยชน์ในการควบคุมกลไกการตลาด แต่ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันอย่างบ้านเรา มีปัญหาเรื่องของต้นทุนราคาน้ำมันที่ผันผวนตลอดเวลา อัตราแลกเปลี่ยนก็ไม่แน่นอน ที่ผ่านมาเราขาดทุนเพราะการสต๊อกน้ำมันล่วงหน้าบ่อยครั้ง กระทบทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันและผู้บริโภคครบวงจร
...
ในส่วนกลไกการตลาดน้ำมัน เช่น นโยบายลดค่าการตลาด ทำให้เกิดความเสียหายด้านการแข่งขันทางธุรกิจ และไม่มีความเสมอภาคในการแข่งขัน จะสังเกตว่ามีบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่หลายบริษัทในไทยปิดตัวลงและขายกิจการสถานีจำหน่ายน้ำมันให้ผู้ประกอบการรายอื่น
ในทางการเมือง พีระพันธุ์ จะถนอมตัวเรื่องที่จะกระทบกับภาพลักษณ์ ทำให้ภาพลักษณ์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลไม่ไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ทำให้ภาพของพีระพันธุ์เป็นฮีโร่ในสายตาชาวบ้านไปฉิบ
ทั้งหมดนี้เพื่อจะฉายภาพให้เห็นว่า เสถียรภาพการทำงานในพรรคร่วมรัฐบาล ณ ปัจจุบันใครของจริงของปลอม และถ้ามีการปรับ ครม.ครั้งต่อไปในเดือน เม.ย.ตามกระแสข่าว ใครจะอยู่จะไป พปชร.ก็ยังพังมาแล้ว.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม