“หัวหน้าเท้ง” ลุยหาเสียงช่วย “พันธุ์อาจ” ชิงเก้าอี้นายก อบจ.เชียงใหม่ ไม่หวั่นกระแส “ทักษิณ” มองเป็นสีสันการเมือง ขอส่งเสียงถึงรัฐบาล ตรวจสอบปมใช้อำนาจรัฐจับตาผู้สมัคร ลั่น ต้องยุติธรรม
วันที่ 5 มกราคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน เดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ช่วยหาเสียงให้กับ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ. ของพรรคประชาชน โดยในช่วงเช้าลงพื้นที่เดินตลาดประตูเชียงใหม่ ตลาดใหญ่กลางเมือง เดินแจกแผ่นพับแนะนำตัว ขอคะแนนเสียงกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่ไปเดินตลาด มีแฟนคลับหลายคนเข้ามาทักทายให้กำลังใจและขอถ่ายภาพ ขณะที่บางคนรีบไปหาซื้อพวงมาลัยดอกดาวเรืองและดอกมะลิมามอบให้ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
...
หลังจากใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงที่ตลาดประตูเชียงใหม่ นายณัฐพงษ์ พร้อมด้วยนายพันธุ์อาจ และทีมงานช่วยหาเสียง ได้ขึ้นรถสี่ล้อแดงไปพบผู้ประกอบการและนักธุรกิจสตาร์ทอัพและเทคโนโลยี ที่ The Brick Startup Space ย่านถนนศิริมังคลาจารย์ อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะเดินทางไปช่วยหาเสียงให้กับ นายวีระเดช ภู่พิสิฐ ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน ต่อไป
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ปีใหม่นี้เดินทางมาช่วยหาเสียง อบจ.เชียงใหม่ เป็นที่แรก เพราะเป็นพื้นที่สำคัญของพรรคประชาชน การเลือกตั้ง สส. ครั้งที่ผ่านมา ชาวเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจเลือก สส.พรรคก้าวไกล มากถึง 7 ใน 10 เขต เลือกตั้งครั้งนี้จึงอยากให้ชาวเชียงใหม่มอบความไว้วางใจให้กับพรรคประชาชนอีกครั้ง ซึ่งการลงพื้นที่ในวันนี้ดีใจที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี
ส่วนการลงพื้นที่ช่วยหาเสียงของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้มีความกังวลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สนามการเลือกตั้งมีแพ้ชนะ ยิ่งมีคู่แข่งขันมากก็เป็นสีสันในการเลือกตั้ง ประโยชน์ก็จะตกกับพี่น้องประชาชนทุกคน พรรคประชาชนมีความมุ่งมั่นตั้งใจว่าหากได้เข้าไปบริหารงบประมาณ อบจ.เชียงใหม่ ปีละพันกว่าล้านบาทกับนโยบาย 4 อยู่ ก็มั่นใจว่าจะทำให้ชาวเชียงใหม่มีชีวิตความเป็นอยู่และปากท้องที่ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน นายณัฐพงษ์ ยังระบุถึงประเด็นการใช้อำนาจรัฐเข้ามาติดตามความเคลื่อนไหวของผู้สมัคร ว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในฝ่ายบริหารที่ควบคุมส่วนราชการ ไม่ควรมีการสั่งการหรือใช้กลไกของรัฐสั่งจับตาผู้สมัครพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่งเป็นพิเศษ จึงขอส่งเสียงถึงรัฐบาล ขอให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดำเนินการทุกอย่างด้วยความตรงไปตรงมาและยุติธรรมกับผู้สมัครทุกฝ่าย โดยเรื่องที่เกิดขึ้นได้ย้ำให้ผู้สมัครอย่าเสียสมาธิจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำคือตั้งใจเดินหาเสียงอย่างจริงจังและตรงไปตรงมาแบบนี้ต่อไป เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน การใช้กลไกรัฐที่อาจจะมาสร้างความกดดัน เรามีหน้าที่สะท้อนไปยังรัฐบาลและสื่อมวลชนว่ามีเหตุไม่ปกติเกิดขึ้นอย่างไร เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความโปร่งใสและเป็นธรรมกับผู้สมัครทุกฝ่าย.
