“อัครเดช” ขอบคุณแรงเชียร์ หลังโพลคะแนนนิยม “พีระพันธุ์ - รวมไทยสร้างชาติ” พุ่งทะลุเกิน 10% ยัน 4 รมต. - สส. พร้อมทำงานเพื่อประชาชน ด้าน “ธนกร” ชี้ การเมืองปี 68 เข้ม แนะ “นายกฯ” เร่งแก้เศรษฐกิจปากท้อง-หนี้สิน-แก๊งคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด

วันที่ 2 มกราคม 2568 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ราชบุรี เขต 4 ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า ขอขอบคุณทุกการสนับสนุนและความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนในปีที่ผ่านมา ที่ให้การสนับสนุนและให้ความไว้วางใจพรรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากคะแนนความนิยมทางการเมืองล่าสุดของผลสำรวจนิด้าโพล ที่คะแนน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พุ่งขึ้นเป็น 10.25% ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่มขึ้นเป็น 10.6% ได้รับคะแนนนิยมเกิน 10% ทั้ง 2 ส่วน

ส่วนในปี 2568 ยืนยันว่าพรรคจะยังมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานเพื่อประโยชน์ของชาติและพี่น้องชาวไทยทุกคนอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยกระทรวงพลังงาน ภายใต้การนำของ นายพีระพันธุ์ จะเดินหน้า “รื้อ-ลด-ปลด-สร้าง พลังงานไทย” เพื่อให้คนไทยได้ใช้พลังงานอย่างเป็นธรรม ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเดินหน้าตามแผนงาน “สู้ เซฟ สร้าง ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย” และจัดการกับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำผิดกฎหมายด้วยชุดปฏิบัติการทีมสุดซอยอย่างเต็มที่ พร้อมเร่งส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในยุคอุตสาหกรรมใหม่ เช่นเดียวกับอีก 2 รัฐมนตรี คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จะเดินหน้าตั้งใจทำงานตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มความสามารถเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

...

นายอัครเดช กล่าวต่อไปว่า ส่วน สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ในปี 2568 ทุกคนก็จะมุ่งมั่นทำงานในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและคนไทย ควบคู่ไปกับการลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชน ตามสโลแกนของพรรคที่ว่า “สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกที่” รวมถึงการสืบทอด DNA ของลุงตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี) คือ การยึดมั่นและสืบทอด 3 สถาบันหลักของชาติ อันประกอบด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างมั่นคง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในปีนี้พรรคจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทางด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวคาดการณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองปี 2568 ว่า จะเคลื่อนไหวเข้มข้น กระทบรัฐบาลที่บริหารมาครึ่งเทอมแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต้องเร่งเครื่องทำผลงานให้เป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจภาพรวมประเทศ ปัญหาหนี้สิน ค่าครองชีพปากท้องประชาชน รวมถึงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงต้มตุ๋น ประชาชนต้องสูญเสียเงิน และปัญหายาเสพติดที่ไม่ลดลง มีการลักลอบเข้าไทยตามแนวชายแดนต่อเนื่อง เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ ทำลายทรัพยากรมนุษย์และทำลายเศรษฐกิจไทย จำเป็นยิ่งที่รัฐบาลต้องมีมาตรการปราบปรามขั้นเด็ดขาดจริงจัง ต้องมีเป้าหมาย ตัวชี้วัดให้ปราบปรามกำจัดตัดวงจรตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และเน้นการยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายที่ร่วมขบวนการทั้งหมดอย่างจริงจัง เด็ดขาด

“เข้าสู่ช่วงปีที่ 2 ของรัฐบาลที่ทำงานมาครึ่งทางแล้ว เป็นปกติการเมืองจะเข้มข้นขึ้นในการถูกตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลทั้งในและนอกสภา เช่น การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่นายกฯ และรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งทำผลงานจับต้องได้ให้ชัดเจน ฝากเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง หนี้สินครัวเรือน เร่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดขบวนการบ่อนทำลายชาติ”