“เสี่ยหนู” ตามน้ำ ให้คะแนน “อิ๊งค์” ผ่านบทบาทผู้นำ ชมเปาะ ภาวะผู้นำสูง ยืนจังก้าป้องโควตา ภท.ที่ครองอยู่ นิด้าโพลชี้ “เท้ง” อันดับ 1 ตัวเลือกนายกฯ ณ วันนี้ “อิ๊งค์” ตามมาติดๆอันดับ 2 สอดรับความนิยม พรรคค่ายส้มยังครองใจคนส่วนใหญ่ สวนดุสิตโพลเปิดดัชนีการเมืองช่วงเดือนสุดท้ายของปี คนชอบ การมีส่วนร่วมมากสุด แต่การแก้ทุจริตคอร์รัปชันติดตกต่ำสุดขีด “ณัฐพงษ์” ลั่นขอมุ่งมั่นตรวจสอบรัฐบาล ตั้ง 9 ปณิธานผลักดันให้สำเร็จในปี 2568 หวังเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยระบบรัฐสภา “นายใหญ่” จัดคิวเดินสายหนักในภาคอีสาน “ทวี” ลั่นต้นปีได้ใช้แน่ “คุมขังนอกเรือนจำ”

โพล 2 สำนักเปิดผลสำรวจช่วงไตรมาสสุดท้าย และเดือนสุดท้าย ของปี 2567 นิด้าโพลชี้ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนเลือกนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เป็นนายกฯ มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตามมาติดๆเป็นอันดับ 2 พรรคการเมืองค่ายส้มยังครองใจคนส่วนใหญ่

“หนู” ตามน้ำให้คะแนน “อิ๊งค์” ผ่าน

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในฐานะรองนายกฯ มีนายกฯเป็นผู้บังคับบัญชา ยกตัวอย่างหากไปถามปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า รมว.มหาดไทยสอบผ่านหรือไม่ หากสอบไม่ผ่านก็ต้องบอกว่าสอบผ่าน แต่ถ้าถามว่ารัฐบาลทำงานด้วยกันได้หรือไม่ คำตอบคือทำได้ นายกฯมีภาวะผู้นำสูง รัฐมนตรีคนอื่นรวมทั้งตนพร้อมรับแนวปฏิบัติตามนโยบาย รวมถึงความสามัคคีใน ครม. เนกไทที่ใช้อยู่นายกฯก็มอบให้ มีตราทำเนียบรัฐบาลหราเต็มไปหมด หากเราไม่ชอบกันคงไม่ใส่เนกไทนี้ เมื่อถามว่าปี 2568 ต้องเร่งดำเนินการหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า พรรคเพื่อไทยกังวลเรื่องเศรษฐกิจ ส่วน ภท.เน้นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ต้องทยอยทำให้ครบทั้งประเทศ ต้องเจรจากับคณะกรรมการไตรภาคี ส่วนกระทรวงมหาดไทยมีงานมากทั้งปราบปรามผู้มีอิทธิพล ผู้ค้ายาเสพติด การอำนวยความสะดวกดูแลประชาชน การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น การพัฒนาท่องเที่ยวภูมิภาค การพัฒนาประปาและน้ำดื่มสะอาด ไฟฟ้าต้องเข้าถึงทุกพื้นที่ รวมถึงภารกิจป้องกันภัยต่างๆ และต้องทำให้เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย

...

จังก้าป้องโควตาที่ ภท.ครองอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาปรับ ครม.หรือยัง ภท.ยังพอใจในบทบาทกระทรวงเดิมหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า อะไรที่ไม่มีปัญหาก็อย่าให้มันมีปัญหา ปรับ ครม.เป็นอำนาจนายกฯ ภท.ยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ มีการปรับ ครม.มาแล้วครั้งหนึ่ง ภท.ยืนยันขออยู่ที่เดิม ไม่ขอหรือไปอ้างสิทธิ เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับวาทะ “สามีคนใต้” นายอนุทินตอบเป็นสำเนียงใต้ว่า “ผมก็ภรรยาคนใต้” ก่อนอธิบายต่อว่า มันไม่เกี่ยวกันเป็นการเปรียบเปรยของนายกฯ ที่มีคนพูดว่านายกฯไม่สนใจภาคใต้ จริงๆไม่ใช่ เมื่อเกิดอุทกภัยต้องลงไปตามลำดับชั้น บางทีเป็นผู้ใหญ่มากๆเวลาลงไปต้องมีคนมาดูแล นอกจากไม่ได้ช่วยแล้วจะทำให้เกิดความล่าช้า และเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีข้าราชการมาดูแลเพราะระบบมันเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตามหากถามว่ารัฐบาลสามัคคีกันหรือไม่ ถ้าสำหรับการทำงานให้ประชาชน เราสามัคคียิ่งกว่า เพราะมีทุกกระทรวงเห็นพ้องต้องกันระดมกำลังเข้าไปช่วย แต่ตอนนี้สิ่งที่เบื่อคือต้องให้เกิดเหตุก่อนแล้วค่อยลงไปช่วย

ขวางแก้กติกาบีบนายกฯเข้าสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่านายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาชน เตรียมหารือแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้กำหนดไปเลยว่านายกฯสามารถไม่มาตอบกระทู้ได้กี่ครั้ง นายวิสุทธิ์ตอบว่า นายกฯในฐานะผู้บริหารสูงสุด อาจไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมดทุกเรื่อง เช่น เรื่องพลังงาน ปลาหมอคางดำ ต้องมอบให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบ แต่หากไม่ติดไปต่างประเทศหรือติดภารกิจอื่น เชื่อว่านายกฯจะมาตอบ อย่าถึงขั้นต้องออกข้อบังคับ ในข้อบังคับก็กำหนดแล้วว่าสามารถมอบให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบได้ แต่หากถามเรื่องการเมืองก็ถามนายกฯ แต่คงไม่สามารถมาตอบได้ทั้งหมด หลังจากนี้หากมีโอกาสวิปจะประสานให้นายกฯมาตอบในเรื่องที่สำคัญและเป็นประโยชน์จริงๆ

โพลชี้ “เท้ง” อันดับ 1 ตัวเลือกนายกฯ

วันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 4/2567” ระหว่างวันที่ 19-24 ธ.ค. เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 29.85 เป็นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เพราะมีความมุ่งมั่นสานต่ออุดมการณ์ของพรรค และมีบทบาทที่เข้ากับคนรุ่นใหม่ อันดับ 2 ร้อยละ 28.80 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะมีประสบการณ์บริหารธุรกิจ เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีพลัง และมุมมองทันสมัยในด้านการเมือง อันดับ 3 ร้อยละ 14.40 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 10.25 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5 ร้อยละ 6.45 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองลงมาเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์)

สอดรับความนิยมพรรคประชาชน

เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 37.30 เป็นพรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 27.70 พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 10.60 พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 8.20 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 5 ร้อยละ 5.15 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 6 ร้อยละ 3.40 พรรคประชาธิปัตย์ อับดับ 7 ร้อยละ 3.05 พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 8 ร้อยละ 2.50 พรรคไทยสร้างไทย อับดับ 9 ร้อยละ 1 พรรคประชาชาติ รองลงมาเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคกล้าธรรม พรรคไทรวมพลัง พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม

แก้ทุจริตคอร์รัปชันติดดัชนีต่ำสุด

ด้านสวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,154 คน เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือน ธ.ค.2567” ระหว่างวันที่ 16-25 ธ.ค. พบว่ากลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน ธ.ค. เฉลี่ย 4.97 คะแนน เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. ที่ได้ 4.92 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือการมีส่วนร่วมของประชาชน เฉลี่ย 5.37 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือ การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส เฉลี่ย 4.60 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ร้อยละ 51.25 รองลงมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 26.36 ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่น คือนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้ร้อยละ 45.78 รองลงมา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ได้ร้อยละ 33.13 ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบคือการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบ คือการตรวจสอบรัฐบาลเพื่อความโปร่งใส

“ณัฐพงษ์” ขอบคุณประชาชนที่หนุน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่สะท้อนเสียงคะแนนนิยมผ่านผลโพล แต่ผลโพลมีขึ้นมีลงเสมอ ขึ้นเมื่อใดต้องไม่หลง ลงเมื่อใดต้องไม่ท้อ ก่อนหน้านี้ผลโพลสะท้อนว่าพรรค ปชน.ยังไม่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง แต่เราไม่เสียสมาธิ ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจทำงานและผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาค่าไฟแพง ที่ล่าสุดส่งผลให้เกิดการชะลอการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคปชน.ได้รับคะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้น เพื่อยืนยันว่าเราไม่ได้หลงกับผลโพลที่เพิ่มขึ้น พรรค ปชน.จะมุ่งมั่นทำงานต่อไปอย่างหนัก มีการตั้งปณิธานประชาชน 2568 (New Year’s Resolutions) จำนวน 9 ข้อ ที่จะมุ่งมั่นผลักดันให้สำเร็จในปี 2568 ร่วมกันเปลี่ยนประเทศไทยผ่านกลไกรัฐสภา ฝากให้พี่น้องประชาชนสนับสนุนพรรค ปชน. เรายืนยันจะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนต่อไป

เปิด 9 ปณิธานฝ่ายค้านมุ่งมั่นทำปี 68

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาชนโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุถึง New Year’s Resolutions ปณิธานพรรคประชาชนปี 2568 มี 9 ข้อที่มุ่งมั่นจะทำให้สำเร็จ คือ 1.เดินหน้าทำงานให้หนักขึ้น ขับเคลื่อนตรวจสอบเสนอแนะเรื่องสำคัญในสาธารณะตรงไปตรงมา และรับฟังทุกคำติชมเพื่อปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นทุกวัน 2.ปักธงท้องถิ่น ทุ่มเทให้กับสนามเลือกตั้งนายก อบจ. เพื่อพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนเห็นด้วยตาสัมผัสด้วยมือ ว่าการเมืองท้องถิ่นสามารถทำให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้นได้จริงๆ ส่วนงานสภาอยากให้สังคมเห็นความสำคัญของกฎหมายที่สามารถเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่ และปากท้องของทุกคนได้ พรรคประชาชนมีร่างกฎหมายที่กำลังรอคิวเข้าสภาอย่างน้อย 6 ชุด ทั้งเพื่อแก้ปัญหาเก่าที่ค้างคามานาน และเพื่อวางกติกาใหม่ 3.พลิกโฉมการศึกษา ถึงเวลายกระดับการศึกษาไทยครั้งใหญ่ด้วย พ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่ ที่จะทำให้ผู้เรียนได้หลักสูตรที่ตอบโจทย์ ผู้สอนได้เวลาคืนมา สถานศึกษาได้อำนาจในการตัดสินใจ พาเด็กไทยและประเทศไทยเท่าทันโลก

“เปลี่ยนแปลงประเทศด้วยรัฐสภา”

4.ผ่านกฎหมาย PRTR ช่วยสร้างหลักประกันความปลอดภัย เปิดข้อมูลการเก็บและเคลื่อนย้ายสารพิษ พร้อมผลักดัน พ.ร.บ.จัดการขยะ และ พ.ร.บ.ลดโลกร้อน ที่คำนึงถึงความเป็นธรรมไม่ทิ้งคนตัวเล็กตัวน้อย 5.ปฏิรูปที่ดิน พิสูจน์สิทธิอย่างเป็นธรรม ด้วยชุดกฎหมายปลดล็อกที่ดิน ให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตที่ดินทับซ้อนมานานตั้งแต่ก่อนประกาศเป็นพื้นที่ป่ากว่าสองหมื่นชุมชน มีไฟฟ้า มีแหล่งน้ำไว้ใช้ 6.สร้างรัฐโปร่งใส เงินทุกบาทตรวจสอบได้ด้วย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ ทำให้หน่วยงานรัฐเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ต้องขอ ยกเว้นข้อมูลลับและข้อมูลส่วนบุคคล ส่งเสริมกลไกการตรวจสอบ ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน 7.ทลายทุนผูกขาด เปิดตลาด SME ทำให้เศรษฐกิจไทยมีกติกาที่เป็นธรรมผ่าน พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ควบคุมทุนใหญ่ผูกขาดป้องกันการใช้อำนาจตลาดเพื่อเอาเปรียบ ควบคู่กับการลดอุปสรรค 8.การบังคับเกณฑ์ทหาร เดินหน้าดันกฎหมายปฏิรูปกองทัพไทยให้ทันสมัย และ 9.อยากเห็นผู้แทนราษฎรจากทุกพรรค ทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย พิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยรัฐสภานั้นเป็นไปได้จริง

“ขิง” ปลื้มคะแนนนิยม “รทสช.–ตุ๋ย”พุ่ง

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กหลังทราบผลสำรวจนิด้าโพลว่า พรรค รทสช.เดินหน้าทำงานในวันนี้เมื่อเทียบเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เราได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ทั้งของหัวหน้าพรรคและของพรรค ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนพวกเรา คอยช่วยสื่อสารประชาสัมพันธ์ผลงานของพรรคและหัวหน้า เราจะเดินหน้าทุ่มเททำงานแก้ปัญหาพัฒนาประเทศ ด้วยจุดยืนที่มั่นคง ตามแบบ DNA ลุงตู่ พร้อมพังให้ทุกปัญหา

“นายใหญ่” รุกหนักเดินสายอีสาน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเปิดตัวผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในนาม พรรคเพื่อไทยหลายจังหวัดว่า พรรคเพื่อไทยมั่นใจในศักยภาพผู้สมัครทุกจังหวัดที่ส่งแข่งขัน ทุกคนผ่าน กระบวนการคัดสรรเข้มข้น ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแผน จะลงพื้นที่หลายจังหวัดในภาคอีสานหลังเทศกาลปีใหม่ แต่ต้องพิจารณาความพร้อมของพื้นที่ และความพร้อมผู้สมัครเป็นสำคัญ เนื่องจากทุกพื้นที่ต่างต้องการให้นายทักษิณไปช่วยปราศรัย การที่นายก อบจ. มาจากพรรคเดียวกับรัฐบาลจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ช่วยให้การผลักดันนโยบายเรือธงของพรรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานแบบไร้รอยต่อ ส่งผลดีต่อการพัฒนาท้องถิ่นระยะยาว

“อ้วน” ขีดเส้นตายขจัดยาเสพติด

อีกเรื่อง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายก รัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้ดูแลแก้ปัญหายาเสพติด ต้องแก้ปัญหานี้ให้สำเร็จเห็นผลในระยะสั้น 6 เดือนข้างหน้า จะทำให้คืบหน้า จากการพูดคุยกับ ผบ.หล่าทัพ ผบ.ตร. สำนักคณะ กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานทหารที่เกี่ยวข้อง วันที่ 20 ม.ค.2568 จะจัดประชุม 14 จังหวัด 51 อำเภอ ที่อยู่ตามแนวชายแดนทั้งหมด ให้นายอำเภอ 51 อำเภอ และผู้กำกับ 76 สถานี มาคุยกันที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมอบนโยบาย มีนายกฯ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม ผบ.ตร. ป.ป.ส. ตัวแทนกองทัพ พูดคุยบูรณาการร่วมกันเตรียม เสนอว่าภายใน 6 เดือน ยาเสพติดต้องจบให้ดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ต้องมี KPI ชี้วัดชัดเจน ถ้าไม่เห็น การเปลี่ยนแปลงชัดเจน ผู้กำกับ นายอำเภอ ต้องรับผิดชอบ ต้องสมัครใจย้าย ถ้าทำให้เห็นผลดีขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงก็จะได้คุณ เชื่อว่าตีตรงเป้าหมาย

ปราบขั้นเด็ดขาดไม่ใช่ใบสั่งตาย

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้นโยบายปราบแบบเด็ดขาดเหมือนสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ นายภูมิธรรมตอบว่า คิดว่ามีการพูดถึงข้อมูลในสมัยนั้นคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงการฆ่ากันไม่ใช่ว่ารัฐเป็นคนทำ ผู้ค้ายาฆ่ากันเองก็มี ฆ่าตัดตอนตัวเองก็มี เราไม่อยากเห็นการใช้ความรุนแรง ต้องระมัดระวัง ไม่อยากเห็นการทำลายมนุษย์ด้วยกัน เพราะมีกระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินอยู่แล้ว ความเด็ดขาดไม่ใช่ว่าต้องใช้มาตรการความตายอย่างเดียว ความเด็ดขาดคือเห็นต้องจับ ผิดต้องดำเนินการ ข้าราชการคนไหนเกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ เรายอมให้มีเรื่องความตายไม่ได้ ต้องดูกระบวนการจัดการปัญหาให้รอบคอบ ไม่ให้บานปลาย

“ทวี” ลั่น ม.ค.68 ได้ใช้ “ขังนอกเรือนจำ”

ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการออกหลักเกณฑ์คุมขังนอกเรือนจำว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเสร็จแล้ว ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับ หลักเกณฑ์ดังกล่าว อาจไม่มีการแก้ไขอะไร เห็นได้ว่า มีผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนมาก โดยที่คุมขังอื่นอาจเป็น ที่คุมขังเหมือนกัน ไม่ต่างอะไร เขาจะอยู่ได้แค่ในที่นั้น เพียงแต่ไม่ให้เกิดความแออัด เช่น คนเป็นโรคไตวาย จะไว้ในเรือนจำไม่ได้ อีกทั้งโรงพยาบาลทัณฑสถานเอง ก็เล็ก เดิมคิดว่าจะเสร็จก่อนช่วงปีใหม่ หลังทำประชา พิจารณ์เสร็จเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. เนื่องจากระเบียบดังกล่าว มีขั้นตอนเยอะ มีคณะกรรมการระดับกรม ผบ.เรือนจำ องค์กรที่เข้ามาช่วยดู ที่สำคัญผู้ที่ออกไปต้องติดกล้อง เพื่อให้ดูได้ บางส่วนอาจติดกำไร EM รวมถึงมีการจำกัดพื้นที่ คาดว่าบังคับใช้หลังเดือน ม.ค.โดยโทษส่วนใหญ่จะเป็นโทษเล็กน้อย ตั้งแต่ 4 ปีลงมา ส่วนที่ หลายคนมองว่าระเบียบดังกล่าวทำเพื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั้น กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ อยู่ในเกณฑ์ อีกทั้งมีโทษสูงกว่าที่กำหนด คณะกรรมการ และ ผบ.เรือนจำ ต้องดูให้ดี เพราะเขาต้องรับผิดชอบ ที่สำคัญผู้ต้องหายังต้องถูกคุมขังอยู่ด้วย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่