รมว.ทส. กำชับทุกหน่วยงานดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานช่วงปีใหม่ เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขอประชาชนร่วมกันรักษาความสะอาดแหล่งธรรมชาติ ลดขยะ - งดดื่มแอลกอฮอล์

วันที่ 27 ธ.ค. 2567 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย (ทส.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 มีข้อมูลนักท่องเที่ยวเลือกมาท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติมากเป็นอันดับต้นๆ ในแต่ละปีทำให้มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น ประกอบกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบของขวัญปีใหม่ปีนี้ เพื่อสร้างสุขให้พี่น้องชาวไทยด้วยการงดเว้นค่าเข้าบริการ ทั้งอุทยานแห่งชาติ 133 แห่ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 160 แห่ง พิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์ธรณีวิทยาและธรรมชาติวิทยา 6 แห่ง ในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 – 1 ม.ค. 2568 รวมถึงสวนสัตว์ทั้ง 6 แห่ง สำหรับเด็กที่มีอายุไม่ถึง 12 ปี และผู้สูงอายุ ในวันที่ 30 ธ.ค. 2567 – 1 ม.ค. 2568 เป็นต้น

สำหรับมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่าได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว การเตือนภัย การกู้ภัย โดยเฉพาะจุดล่อแหลมและอันตรายต่อการเกิดอุบัติเหตุ ควบคุมและดูแลขีดความสามารถในการรองรับได้ของแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด

และที่สำคัญ ช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวไม่นำพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single-use plastics) และภาชนะที่ทำด้วยโฟมเข้าอุทยานแห่งชาติ งดเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าในอุทยานแห่งชาติ

พร้อมขอให้นักท่องเที่ยวร่วมกันดูแลรักษาความสะอาดแหล่งธรรมชาติ โดยเฉพาะจุดกางเต็นท์ต่างๆ ด้วย

...

นอกจากนี้ยังมีการดูแลเดินทางอุ่นใจตลอดทุกเส้นทาง มีการจัดจุดพักรถ พร้อมให้บริการน้ำดื่มฟรี บนถนนสายหลักและถนนสายรอง จัดตั้ง 4 ศูนย์บริการอากาศยานรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเล 35 แห่งในวันที่ 28 ธ.ค. 2567 - 1 ม.ค. 2568 ด้วย

“ปีใหม่ปีนี้ผมขออวยพรให้พี่น้องประชาชนมีความสุข ท่องเที่ยวกับครอบครัวอย่างมีสติ ขับขี่ปลอดภัย ร่วมกันดูแลแหล่งธรรมชาติต่างๆ ให้คงอยู่ และขอเป็นกำลังใจ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดูแลนักท่องเที่ยวดูแลทรัพยากรธรรมชาติ เช่นเดียวกับภาคีเครือข่ายทำงานด้านต่างๆ อาทิ เครือข่ายอาสาสมัครด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เครือข่ายป่าชุมชน เครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า เครือข่ายอาสาสมัครป้องกันไฟป่า เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล เครือข่ายผู้ใช้น้ำ ตลอดจนเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัย ซึ่งเครือข่ายเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่มาตลอดทั้งปี” นายเฉลิมชัย กล่าว