หลังฉลองปีใหม่มีลุ้นแก้กติกาประเทศ ประธานรัฐสภา ไฟเขียวบรรจุร่างแก้ไข รธน. รายมาตรา 17 ฉบับ พ่วงร่าง แก้ไข รธน.ทั้งฉบับของพรรคประชาชน เข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภา กลางเดือน ม.ค.68 เตรียมเรียกวิป 3 ฝ่าย-ผู้แทนรัฐบาลหารือหยิบฉบับใดประเดิมเปิดฟลอร์ก่อน “วันมูหะมัดนอร์” ยกประชาชน อยากเห็น รธน.ใหม่เสร็จทันเลือกตั้งปี 70 ไม่หวั่น ทำประชามติ 2 ครั้งถูกยื่นร้องศาล รธน.ชี้ขาดประธาน วิปรัฐบาลออกตัวไม่ง่ายเขียนกติกาใหม่ อ้างนักกฎหมาย ในสภาฯ ให้รอกฎหมายประชามติผ่านก่อน “แพทองธาร” คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยครอบคลุมทั่วประเทศ ฟิตทิ้งท้ายปีเก่าเรียก “บิ๊กต่าย-อธิบดี ดีเอสไอ” สะสางคดีสำคัญ รวมถึงคดีทุจริตด้านเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นระบบเศรษฐกิจ

ฝ่ายกฎหมายประธานสภาผู้แทนราษฎรไฟเขียวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รายมาตรา 17 ฉบับ พ่วงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเปิดประตูเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. สอดเข้าแฟ้มเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภา กลางเดือน ม.ค.68 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา หวังเขียนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเสร็จทันก่อนเลือกตั้งปี 70 นับเป็นข่าวดีฉลองปีใหม่ของประชาชน

นายกฯคิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.67 เวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “Kick off 30 บาท รักษาทุกที่เพื่อคนไทย สุขภาพดีถ้วนหน้า ระยะที่ 4 ครอบคลุมทั่วประเทศ 1 ม.ค.68” มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม พร้อมภาคีเครือข่ายภาคประชาชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดย น.ส.แพทองธารกล่าวเปิดงานว่า ขอเมอร์รี่คริสต์มาส วันนี้เป็นวันที่สดใส ฤกษ์งามยามดีที่ได้เปิดเฟส 4 อีก 31 จังหวัดทำให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นความคืบหน้าที่ใช้เวลา 1 ปีทำให้ครบทุกเขต 2 ทศวรรษพัฒนานโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคถึง 30 บาทรักษาทุกที่ นำเทคโนโลยีมาใช้จองล่วงหน้า ไม่ต้องรอคิวนาน ทุกคนที่มีบัตรประจำตัวได้รับบริการรักษาที่สะดวกรวดเร็วขึ้น

...

อวยพรปีใหม่คนไทยสุขภาพแข็งแรง

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า รวมถึงยังพัฒนาหาหมอออนไลน์ ไม่ต้องไปโรงพยาบาล สามารถเจอตู้หมอรักษาออนไลน์ได้ผ่านจอ ส่วนผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายรักษาได้โดยมีเครื่องฟอกไตให้ผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายได้ยืมใช้ที่บ้าน ในปี 68 รัฐบาลมีแนวทางพัฒนาระบบสาธารณสุข เปิดรับนักบริบาลผู้สูงอายุ 15,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ เน้นจ้างกลุ่มนิสิต นักศึกษาที่จบใหม่ และกลุ่มที่เพิ่งเกษียณอายุ 60 ปี

“ใกล้วันปีใหม่ ขออวยพรทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเรา สุขภาพดีก็จะมีแรงทำงาน พัฒนาตัวเองและครอบครัวไปจนถึงพัฒนาประเทศ ขอให้ทุกคนแข็งแรงสดใสมีความสุขทั้งสุขกายและสบายใจ ขอให้ปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาสที่ทุกท่านทำอะไร ขอให้ประสบความสำเร็จ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาร่วมในการเปิดเฟสสุดท้ายของ 30 บาทรักษาทุกที่ก็หวังว่าคนไทยจะมีสุขภาพดีกันทั่วหน้า” นายกฯกล่าว

จากนั้นนายกฯเดินไปที่บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ชมนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ เช่น แอปพลิเคชันทางรัฐ เปิดตัว 6 ฟีเจอร์ใหม่ ดูขั้นตอนการพบหมอออนไลน์ผ่านตู้ห่วงใย

เรียก “บิ๊กต่าย-ดีเอสไอ” บี้คดีสำคัญ

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวเป็นภาพนั่งที่โต๊ะทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล มีแฟ้มเอกสาร 4 ตั้งกองอยู่บนโต๊ะพร้อมลงข้อความว่า “แฟ้มส่งท้ายปี 2567 และเตรียมงานให้พร้อมสำหรับสวัสดีปีใหม่ 2568” พร้อมกันนี้ น.ส.แพทองธาร ได้เรียก น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าพบ เพื่อรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีสำคัญที่อยู่ในความสนใจของสังคม เช่น คดีดิ ไอคอน กรุ๊ป โดยมอบหมายภารกิจนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) แทน

ปรับปรุง ก.ม.ป้องกันคดีไซเบอร์

จนกระทั่งในช่วงเย็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวีตผ่าน X ระบุว่า “ดิฉันได้เชิญทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และรัฐมนตรีจิราพร มาพูดคุยบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อทำให้มีมาตรการป้องกันและปราบปรามคดีด้านเศรษฐกิจ คดีด้านเทคโนโลยี ตลอดจนการคุ้มครองดูแลผู้บริโภคอย่างจริงจัง ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องดำเนินการ เพราะคดีการหลอกลวงสร้างความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนในวงกว้าง ในปีหน้าจะมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันอาชญากรรมในรูปแบบใหม่ เพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย”

เกาะติดคดีดิ ไอคอน-หมอบุญ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายกฯว่า นายกฯสอบถามคดีที่อยู่ในการดูแลของดีเอสไอ ทั้งคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป ที่ดีเอสไอดำเนินการฟ้องไปแล้ว คดี น.พ.บุญ วนาสิน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน รวมถึงสอบถามถึงประเด็นอาชญากรรมออนไลน์ จึงได้นำ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (สอท.) มาให้ข้อมูล ส่วนกรณีประชาชนเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ปล่อยแถวตำรวจท่องเที่ยว นครบาล และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บูรณาการร่วมกันเพื่อดูแลประชาชน โดยในวันที่ 26 ธ.ค. เวลา 09.30 น. นายกฯจะเดินทางไปเปิดนิทรรศการที่ตำรวจจะมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สนใจคดีทุจริตด้านเศรษฐกิจ

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวภายหลังนายกรัฐมนตรีเรียกหารือบนตึกไทยคู่ฟ้าว่า นายกฯให้ความสนใจและเป็นห่วง สอบถามถึงคดีด้านเศรษฐกิจ ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้ระบบเศรษฐกิจ ทั้งคดีดิ ไอคอน คดีหุ้นสตาร์ค คดีทุจริตในกลุ่มบริษัทกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ และคดี น.พ.บุญ วนาสิน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เมื่อถามต่อว่านายกฯกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนาตอบว่า นายกฯเร่งรัดเกี่ยวกับการทำความผิด สินค้าพืชผลทางการเกษตรทั้งคดีหมูเถื่อนและยางพารา นอกจากนี้ยังสอบถามเกี่ยวกับคดี ออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกด้วย

ดันแก้ รธน.เข้ารัฐสภา 14-15 ม.ค.68

สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้มีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 17 ฉบับ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับของพรรคประชาชน ที่เสนอแก้ไขมาตรา 256 ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คณะกรรมการฝ่ายกฎหมายของประธานสภาผู้แทนราษฎร พิจารณามีความเห็นให้ส่งบรรจุเข้าระเบียบวาระ พิจารณาไปพร้อมร่างแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ในวันที่ 14-15 ม.ค.68 โดยวันที่ 8 ม.ค.68 เชิญวิป 3 ฝ่าย ผู้แทนรัฐบาลมาหารือหยิบฉบับใดพิจารณาก่อน ส่วนข้อกังวลการทำประชามติ 2 ครั้งมีความเสี่ยง จะมีผู้นำไปยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญนั้น หวังว่าไม่มีใครนำไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

ลุ้นรื้อกติกาเสร็จทันเลือกตั้ง สส.ปี 70

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ไม่ว่าทำประชามติกี่ครั้ง ร่างที่เสนอแก้ต้องได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา ตั้งแต่วาระรับหลักการ มีเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง และได้รับเสียงรับรองจากวุฒิสภา 1 ใน 3 ส่วนทันสภาฯชุดนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะทำงาน แต่ประชาชนอยากเห็นยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เสร็จทันเลือกตั้งปี 70 ตนก็หวังเช่นนั้น เมื่อถามว่าหากมีคนไปยื่นตีความทำให้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญสะดุดหยุดลงหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ไม่ทราบมีคนยื่นหรือไม่ ถ้ามีคนยื่นก็ไม่ทราบศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่ ถ้ารับก็ไม่ทราบคำวินิจฉัยเป็นเช่นใด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์วันข้างหน้า แต่ถ้าปล่อยไว้ ไม่ได้บรรจุเข้าสู่วาระ ประชาชนจะรู้สึกเสียดายที่รอมาหลายปี แต่ไม่ขยับเดินไปข้างหน้า การบรรจุเข้าระเบียบวาระอย่างน้อยทำให้พิจารณาได้วันที่ 14-15 ม.ค. เป็นข่าวดีช่วงปีใหม่ของประชาชน

รอนัดถกวิป 3 ฝ่ายหลังปีใหม่

ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า รอวิป 3 ฝ่าย ผู้แทนรัฐบาลหารือกัน คงหลังเทศกาลปีใหม่ เมื่อถามว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เตรียมบรรจุระเบียบวาระร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่เสนอแก้ไขมาตรา 256 ให้มี ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายวิสุทธิ์ตอบว่า เท่าที่สอบถามนักกฎหมายในสภาฯ คงให้ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มีผลบังคับใช้

แขวะ พธม. ปลุกม็อบลงถนนแค่รถติด

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทวงคำตอบการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 44 ว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวล แต่อย่าใช้วาทกรรมสร้างความเกลียดชัง ใช้ความเท็จสร้างกระแสปลุกความเกลียดชังในชาติ รัฐบาลไม่ได้กังวล ถ้าลงถนนรถอาจติดนิดหน่อย ข้อห่วงใยที่ยื่นมาให้รัฐบาลนั้น ชี้แจงได้ทุกข้อ รัฐบาลได้ดำเนินการเจรจาอ้างสิทธิทับซ้อนบนไหล่ทวีปต่อเนื่องจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างก็ใช้เอ็มโอยู 44 นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็ยืนยันชัดเจนเอ็มโอยู 44 ไม่มีปัญหาทำให้ไทยเสียดินแดน ในแง่เนื้อหาเอ็มโอยู 44 ไม่มีอะไรน่ารังเกียจ กรมสนธิสัญญาและกฎหมายยืนยันชัดเจน เอ็มโอยู 44 ไม่ใช่การยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา จะเชื่อใครระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ หรือหน่วยงานรัฐทั้งกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมเอเชียตะวันออก ที่ยืนยันเอ็มโอยู 44 ไม่ทำให้ไทยเสียสิทธิด้านเขตแดน เพราะเป็นเพียงกรอบเจรจาการคุยกัน จะคุยกันรู้เรื่องหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ฝ่ายที่คัดค้านเอ็มโอยู 44 พยายามเปิดประเด็นใหม่ไปเรื่อย เชื่อมั่นไม่ซ้ำรอยกรณีปราสาทพระวิหารในอดีต เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ทำให้กัมพูชามีสิทธิพิเศษเหนือไทย

ยืนยันงุบงิบเจรจาฮุนเซนไม่ได้

นายนพดลกล่าวว่า ย้ำไม่มีรัฐบาลชุดใดไปยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา เราเห็นตรงกับฝ่ายคัดค้านว่าไม่เห็นด้วยกับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ให้ขีดเส้นใต้ 500 เส้น เราไม่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา เพราะไม่ได้ลากตามกฎหมายระหว่างประเทศ หากถามว่าเรื่องนี้งุบงิบแอบทำได้หรือไม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะยกหูโทรศัพท์หาสมเด็จฮุน เซน หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โทร.หานายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า ตกลงเอาอย่างนี้ได้หรือไม่ ยืนยันทำไม่ได้ เอ็มโอยู 44 จะต้องเจรจาโดยคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคไทย-กัมพูชา (เจทีซี) เท่านั้น ประกอบด้วย ข้าราชการระดับสูง ปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีต่างๆ แอบทำไม่ได้เด็ดขาดล้านเปอร์เซ็นต์ ต้องผ่านประตู 5 บานคือ ผ่านคณะทำงาน ผ่านคณะอนุเจทีซี ผ่านคณะกรรมการเจทีซี ผ่าน ครม. และผ่านสภาผู้แทนราษฎร ให้รัฐสภาเห็นชอบ โปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ขอใช้คำพูดแกนนำกลุ่มที่คัดค้านว่า ความจริงมีหนึ่งเดียว ความจริงอยู่ที่นี่ ที่สภาฯ อยู่ที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย อยู่ที่พรรคเพื่อไทย

รทสช.ชง ก.ม.ปลดล็อกโซลาร์เซลล์

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อม สส.พรรค รทสช. แถลงว่า พรรค รทสช.ได้ยื่น พ.ร.บ.ส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงแดด หรือ “โซลาร์รูฟท็อป” กระทรวงพลังงานจับมือกระทรวงอุตสาหกรรมช่วยเหลือปลดล็อกค่าครองชีพของประชาชนลดค่าไฟฟ้า โดยแก้ไขปัญหาการขอติดตั้งยุ่งยากด้านกฎหมาย ราคาแพง มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและใช้เวลานาน มั่นใจประชาชนใช้ไฟฟ้าราคาถูกขึ้น ที่สำคัญส่งผลให้สินค้าอื่นๆ มีราคาถูกขึ้นด้วย เมื่อถามว่าสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายา “พีระพัง” นายพีระพันธุ์ตอบว่า ไม่ได้อ่าน แต่ประชาชนได้ชี้แจงแทนหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่โกรธ ไม่ได้สนใจ เมื่อถามว่าฉายาดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงแก้ไขปัญหาด้านพลังงานล่าช้า นายพีระพันธุ์ย้อนถามว่า มีใครแก้ปัญหาได้เร็วกว่านี้หรือไม่ 1 ปีที่ผ่านมามีผลงาน “วันก่อนมีสื่อมวลชนกล่าวถึงผมว่า ไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ผมไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ เนื่องจากไม่ได้เป็น สส. สื่อมวลชนน่าจะฉลาดกว่านี้”

“เพิ่มพูน” เมินฉายา รมต.โลกลืม

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์กรณีสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายาเป็นรัฐมนตรีโลกลืมว่า ไม่รู้สึกอะไร คิดว่าสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ลืมตน ถ้าลืมจะตั้งฉายาให้ได้อย่างไร ถือว่าได้เข้าไปนั่งในใจ สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลแล้ว ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกรัฐบาลต้องถูกตั้งฉายา โดยนโยบายต่างๆที่ผ่านมา อาจชี้แจงกับสื่อมวลชนประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มากกว่า ทำให้ภาคส่วนอื่นไม่ได้เห็นการทำงานด้านการศึกษา ถือเป็นความผิดที่ไม่ได้ชี้แจงประเด็นต่างๆกับสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ ยึดหลักสมัยเป็นข้าราชการตำรวจ จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา อย่างไรก็ตาม ขอฝากว่า คำพูดสู้การกระทำไม่ได้

“ทักษิณ” พักหาเสียงก่อนลุยหลังปีใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเสร็จสิ้นปราศรัยหาเสียงติดต่อกัน 2 วัน ขึ้น 4 เวที ช่วยนายพิชัย เลิศอดิศร ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงแล้วนั้น วันที่ 25 ธ.ค. นายทักษิณได้ใช้เวลาส่วนตัวพักผ่อนในบ้านพักที่เชียงใหม่กับน้องสาว นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก่อนเดินทางกลับ กทม.ช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีรายงานว่า นายทักษิณจะเดินทางกลับมาช่วยนายพิชัยหาเสียงที่ จ.เชียงใหม่อีกครั้งในช่วงโค้งสุดท้ายปลายเดือน ม.ค.68 ก่อนที่จะเลือกตั้ง อบจ.ในวันที่ 1 ก.พ. โดยนายทักษิณจะใช้เวลาช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่กับครอบครัว ก่อนที่จะลุยหาเสียงช่วยผู้สมัคร นายก อบจ.แต่ละจังหวัดที่พรรค พท.ส่งอีกครั้ง ในเดือน ม.ค.68

ตีตก 2 คำร้องเลือก สว.ไม่สุจริต

วันเดียวกัน ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ตีตกคำร้องกรณีนายเสฐียร ศรีเมือง ขอให้พิจารณาวินิจฉัยการกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำกัดสิทธิสมัครรับเลือกเป็น สว. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้การเลือก สว.ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม รวมถึงคำชี้ขาดของศาลปกครองกลาง และผู้ตรวจการแผ่นดินปฏิบัติหน้าที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้ร้อง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ รวมถึงมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง กรณีนายสุวิทย์ เหมตะศิลป ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย กกต. เลขาธิการ กกต. และพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเลือก สว. ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ควบคุมจัดการเลือก สว.ให้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม

“แจ๊ค” บี้ ป.ป.ช.ไต่สวนเขากระโดง

สำหรับกรณีกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณเขากระโดง เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 กฎหมายที่ดิน มีมติเห็นไม่สมควรเพิกถอน ยกเหตุ รฟท.ไม่มีหลักฐานเป็นข้อยุติที่ดินดังกล่าวเป็นของ รฟท.นั้น วันเดียวกัน นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ไปทวงถามขอให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย รวมถึงนักการเมืองที่เกี่ยวข้องทุกรายที่ส่อปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตหรือไม่ กรณีไม่เพิกถอนโฉนดเขากระโดง และไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกา ทำให้ รฟท.ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง และขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการกับข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนอันเป็นประโยชน์ต่อทางราชการไว้เป็นพยานด้วย ดังนั้นขอให้ ป.ป.ช.เร่งดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ด้วย

“อนุทิน” เปิด ศปถ.รับมือเทศกาลปีใหม่

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 มี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายภาสกร บุญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) หน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) ทั่วประเทศ ร่วมประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยนายอนุทินกล่าว ตามรัฐบาลมอบหมาย โดยคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) เปิดศูนย์กลางบริหารจัดการ อำนวยการติดตาม และสนับสนุนการปฏิบัติงานให้แก่ส่วนกลางและระดับพื้นที่ เพิ่มประสิทธิภาพป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ผ่านการบูรณาการบังคับใช้กฎหมาย การจัดการโครงสร้างพื้นฐาน สร้างจิตสำนึกผู้ใช้รถใช้ถนน เน้นย้ำให้ทั้งส่วนกลาง จังหวัด ผวจ. บูรณาการทุกมิติ อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยประชาชน ที่ขับขี่พาหนะกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เข้มงวด เพื่อลดอุบัติเหตุ ศูนย์นี้มีผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ มาปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่