“อนุทิน” เปิดใจขณะลงพื้นที่น้ำท่วมสุราษฎร์ธานี เร่งจ่ายเงินเยียวยาให้เร็วที่สุด ลั่น ประชาชนทุกข์ ผมก็ทุกข์ ด้าน “ชัยชนะ” ย้ำ สิ่งสำคัญคืองบฟื้นฟูหลังน้ำท่วม

วันที่ 18 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นางสาวซาบิดา ไทยเศรษฐ์, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะผู้บริหาร ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และมอบถุงยังชีพแก่ชาวบ้านผู้ประสบภัย ณ ศาลาประชาคม อ.กาญจนดิษฐ์ นายอนุทิน กล่าวกับประชาชนระหว่างการมอบถุงยังชีพตอนหนึ่ง ว่า ทางรัฐบาลได้เตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำไว้แล้ว แต่ปีนี้ฝนตกหนัก ปริมาณน้ำฝนมากเหลือเกิน ขอย้ำว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานกันอย่างสุดความสามารถ

“ผมลงพื้นที่มาดูสถานการณ์ ทราบแล้วว่าปัญหาอยู่ตรงไหนจะนำไปแก้ไข ส่วนความเดือดร้อน ความลำบากของประชาชน เห็นแล้วทุกข์ใจ ประชาชนทุกข์ ผมก็ทุกข์ใจ หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย คือ การบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะละเลยปัญหาของท่าน เมื่อท่านเดือดร้อน เราต้องรีบลงพื้นที่ไปแก้ไข ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว พื้นที่อื่นก็เช่นกัน สิ่งที่ต้องเร่งทำคือการจ่ายเงินเยียวยา ส่งทีมไปสำรวจแล้วได้ทุกหลัง 9,000 บาท หมดเวลามานั่งคิดว่าหลังนี้ได้ 5,000 บาท หลังนี้ได้ 9,000 บาท แต่ต้องให้ 9,000 บาททุกหลังคาเรือน ตรงนี้ท่านนายกฯ สนับสนุน และเร่งให้ดำเนินการแล้ว คิดว่าเร็วๆ นี้เงินจะถึงมือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างแน่นอน”

...

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และสั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับ จ.สุราษฎร์ธานี และทุกจังหวัด มีการถอดบทเรียน โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้เนินเขา ริมเขา เพื่อลดความสูญเสียในอนาคต รวมทั้งยังย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของศูนย์พักพิง โดยระบุว่า ศูนย์พักพิงที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชน มีการเตรียมพร้อม ทั้งอาหารการกิน สุขอนามัย จากเจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกส่วน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

ทางด้าน นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภาถึงกรณีการบริหารจัดการน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้ ว่า รอบแรกน้ำจะไปหนักอยู่ที่ภาคใต้ตอนล่าง และรอบที่ 2 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หนักอยู่ที่ภาคใต้ตอนบน รัฐบาลได้เน้นย้ำในเรื่องการเยียวยาครอบครัวละ 9,000 บาท แต่ตนคิดว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบในการปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่ทุกจังหวัดที่โดนผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะ จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช จ.ปัตตานี และจังหวัดอื่นๆ โดยน้ำที่ท่วมส่วนใหญ่จะไปท่วมอยู่ที่ชุมชนเมือง รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขในการอัดฉีดงบประมาณด้านการพัฒนาโครงสร้างระบบ และโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ส่วนรัฐบาลจะเยียวยาเรื่องไหนนั้น ก็ต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้กระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา

เมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่น้ำท่วมใน จ.นครศรีธรรมราช สามารถกู้ภาพลักษณ์จากน้ำท่วมภาคเหนือได้มากน้อยแค่ไหนนั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า ต้องถามประชาชนว่ามีความพึงพอใจแค่ไหน สำหรับตนการลงพื้นที่ช่วยเหลือก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ในการฟื้นฟูพื้นที่และการจัดสรรงบประมาณนั้นเป็นเรื่องหลักมากกว่า ส่วนคำถามถึงเรื่องการเยียวยา กังวลต่อการตกหล่นรายชื่อหรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า เมื่อรัฐบาลมีแนวทางออกมา หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ต้องมีการสำรวจ โดยการลงพื้นที่ก่อนว่าบุคคลใดที่เข้าหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดไว้ ซึ่งตนคิดว่าต้องใช้หน่วยงานด้านปกครองส่วนท้องถิ่น แต่สิ่งหนึ่งที่ตนต้องการคือรัฐบาลเมื่อสำรวจแล้วก็ต้องเร่งจ่ายเงินเลย อย่าดึงเวลาช้า เพราะเศรษฐกิจก็จะแย่ลงไปอีก.